จดและจำ! นิสัยใช้ "ผ้าเช็ดตัว" แบบผิดๆ ที่ต้องหยุดทันที ไม่รู้ตัวเอา "เชื้อโรค" เข้าร่างกาย

Home » จดและจำ! นิสัยใช้ "ผ้าเช็ดตัว" แบบผิดๆ ที่ต้องหยุดทันที ไม่รู้ตัวเอา "เชื้อโรค" เข้าร่างกาย
จดและจำ! นิสัยใช้ "ผ้าเช็ดตัว" แบบผิดๆ ที่ต้องหยุดทันที ไม่รู้ตัวเอา "เชื้อโรค" เข้าร่างกาย

 

เตือน ใช้ผ้าเช็ดตัวทุกวันหลังอาบน้ำ มีนิสัย 5 ประการที่อันตรายมาก ต้องหยุดทำทันที!

ปกติแล้วทุกคนจะอาบน้ำอย่างน้อยวันละครั้ง  ผ้าเช็ดตัวจึงกลายมาเป็นของใช้ประจำวันที่คุ้นเคย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นสิ่งที่ใช้บ่อยมากๆ บางครั้งจึงลืมใส่ใจความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยพบว่ามีพฤติกรรมการใช้ผ้าเช็ดตัวที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง 5 ประการ ยิ่งทำนานเท่าไรก็ยิ่งเป็นพิษต่อสุขภาพมากขึ้นเท่านั้น

1. ผ้าเช็ดตัวใช้เกิน 6 เดือน

หลายคนคิดว่าแค่ซักและตากให้แห้งอย่างระมัดระวัง ผ้าเช็ดตัวก็จะสะอาดมากพอและดูเหมือนใหม่ ไม่ว่าจะใช้งานมานานแค่ไหนก็ตาม

แต่การศึกษาพบว่า หากมีแบคทีเรีย 100 ตัวบนผ้าเช็ดตัวที่เพิ่งซื้อมาใหม่ หลังจากใช้งานไป 3 เดือน  จำนวนแบคทีเรียบนผ้าเช็ดตัวจะเพิ่มขึ้น 100 เท่า และหลังจากใช้งานไป 6 เดือน จำนวนแบคทีเรียมากขึ้นอีกครั้ง นั่นหมายความว่าภายใน 6 เดือน แบคทีเรีย 1 ล้านตัว จะเข้ามาสัมผัสตัวเราโดยระยะห่างเป็นศูนย์

ผ้าเช็ดตัวมักปนเปื้อนสารคัดหลั่งของมนุษย์ ซึ่งมีจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคหลายชนิด การใช้ผ้าผืนเดียวกันในระยะยาวสามารถแพร่โรคได้หลายอย่าง เช่น ริดสีดวงทวาร เชื้อรา หูด และโรคติดเชื้อ… ดังนั้นควรเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวทุกๆ 2-3 เดือนเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ

2. ใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น

หลายคนมีนิสัยชอบใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกัน ส่วนใหญ่เป็นคู่รัก พ่อแม่ลูก หรือเพื่อนสนิท… ผ้าเช็ดตัวจะมีแบคทีเรียแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้ใช้  หากผู้ใช้รายใดมีโรคติดเชื้อ ผ้าเช็ดตัวอาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แบคทีเรีย ทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำๆ รวมถึงโรคผิวหนัง ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งเมื่อเกิดโรคติดต่อในพื้นที่ส่วนตัว

3.ใช้ผ้าขนหนูแบบ “อเนกประสงค์”

จีนเคยทำการสำรวจพฤติกรรมการใช้ผ้าเช็ดตัวใน 5 เมืองในประเทศ ผลปรากฏว่า 65% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ใช้ผ้าเช็ดตัวเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ ตั้งแต่การเช็ดผมให้แห้ง เช็ดหน้า เช็ดปาก เช็ดตัว เช็ดมือเท้า และเช็ดพื้นที่ส่วนตัวด้วย ซึ่งนิสัยการใช้อย่างไม่เหมาะสมนี้จะหว่าน “เมล็ดพันธุ์” ของโรคในร่างกาย

การใช้ผ้าเช็ดตัวในลักษณะนี้ สามารถนำเชื้อโรคทั้งหมดจากส่วนหนึ่งของร่างกายไปยังอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจรวมถึงแบคทีเรียที่เป็นพิษด้วย ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้สูงอายุ ผู้เป็นโรคเรื้อรัง และเด็กเล็ก

4. ไม่ตากผ้าเช็ดตัวให้แห้งหลังใช้

ผ้าเช็ดตัวส่วนใหญ่ทำจากเส้นใยฝ้าย ซึ่งเป็นโครงสร้างท่อที่มีเซลล์กลวงที่สามารถกักเก็บความชื้นได้ ซึ่งความชื้นเป็นเงื่อนไขสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้แบคทีเรียเติบโตและสืบพันธุ์ อีกทั้งผ้าเช็ดตัวมักถูกวางในห้องน้ำที่ร้อนชื้น ซึ่งมีการระบายอากาศไม่ดี และขาดแสงแดดส่องโดยตรง เป็นสภาพแวดล้อมการเจริญเติบโตที่ต้องการสำหรับแบคทีเรีย

เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านี้ ควรตากผ้าเช็ดตัวให้แห้งในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก โดยควรตากแดดเพื่อให้แห้งเร็วขึ้นและป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเจริญเติบโต

5.ไม่ฆ่าเชื้อผ้าเช็ดตัวเป็นประจำ

จากการวิจัยพบว่า หากไม่ซักผ้าเช็ดตัวเป็นเวลา 3 วัน จำนวนแบคทีเรียอาจสูงถึง 80 ล้านตัว เปรียบเสมือนการ “เช็ดร่างกายด้วยโถส้วม” จำนวนแบคทีเรียอาจสูงถึงหลายร้อยล้านตัว หากไม่ได้ซักเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ไม่ต้องพูดถึงว่าหลายคนรอจนกว่ากลิ่นจะปรากฏขึ้น หรือรอเป็นเวลาทั้งเดือนถึงทำความสะอาด

ผ้าเช็ดตัวที่ไม่ได้ซักเป็นเวลานานอาจมีแบคทีเรียก่อโรคได้หลายชนิด เช่น E. coli, Staphylococcus aureus, Salmonella, Legionella, Cactus… นอกจากโรคผิวหนัง เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง รูขุมขนอักเสบ และผมร่วงแล้ว ยังอาจเกิดการติดเชื้อในช่องคลอด การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง และการติดเชื้อที่รุนแรงยิ่งกว่านั้น ซึ่งทำให้เกิดภาวะไตอักเสบ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนบน

ดังนั้น ควรซักและฆ่าเชื้อผ้าเช็ดตัวทุกๆ 3-4 วัน เมื่อทำความสะอาดผ้าเช็ดตัว ให้ต้มในน้ำเดือดเป็นเวลา 10 นาที จากนั้นซักด้วยผงซักฟอก และนำไปตากในที่ที่มีอากาศถ่ายเทและมีแสงแดดส่องถึงให้แห้ง

  • รู้ไว้ดีกว่า! ทำไมไม่ควรพับผ้าห่ม-เก็บหมอน ก่อนเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม?
  •  รู้หรือไม่… ทำไมคนญี่ปุ่น “ไม่ทิ้งกระดาษชำระ” ลงถังขยะในห้องน้ำ แล้วเขาทิ้งที่ไหนกัน?

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ