งูลายแปลก รู้สายพันธุ์แล้วขนลุก เจ้าของบ้านแอบดีใจ เจองูเมื่อไหร่โชคใหญ่ทุกรอบ

Home » งูลายแปลก รู้สายพันธุ์แล้วขนลุก เจ้าของบ้านแอบดีใจ เจองูเมื่อไหร่โชคใหญ่ทุกรอบ

งูเข้าบ้านที่บึงโขงหลง รู้สายพันธุ์แล้วขนลุก 1 ใน 7 ชนิดงูพิษอันตรายของไทย เจ้าของบ้านบอกเจองูเมื่อไหร่โชคใหญ่ทุกรอบ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 30 ก.ย. กู้ภัยสว่างศรีวิไลฯจุดบึงโขงหลงและเทศบาลบึงโขงหลง รับแจ้งว่าจาก น.ส.ชาวิณี สิริโยธิน อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 199 หมู่ 12 บ้านบึงโขงหลง ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นบ้านพักไว้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวชื่อ ”บ้านหมอพีท” ว่ามีงูไม่ทราบชนิดเข้าเข้ามาอยู่ในร่องน้ำหลังบ้าน พอกู้ภัยเดินทางมาถึงบ้านพักหลังดังกล่าวพบว่าเป็น งูกะปะ นอนขดตัวภายในร่องน้ำ ขนาดความยาว 1 เมต รน้ำหนักเกือบ 2 กิโลกรัม จึงได้ใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมาสำหรับจับงูโดยเฉพาะใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็สามารถจับงูได้

น.ส.ชาวิณี เล่าว่าตนเองเป็นสายมูอยู่แล้ว ถ้าได้พบเจองูไม่ว่าจะเป็นชนิดไหน ตนเองจะมีความโชคดีตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกิจการหรือการเสี่ยงโชค จะมีโชคใหญ่เข้ามาตลอดและไม่คิดที่จะทำร้ายงูที่พบ จึงได้เรียกกู้ภัยมาช่วยจับเพื่อนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ

สำหรับงูกะปะเป็นงูพิษร้ายแรง มีลักษณะหัวเป็นรูปสามเหลี่ยม คอเล็ก ลำตัวอ้วน หางเรียวสั้น มีลายเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายลายกระเบื้องอยู่ด้านข้างตลอดลำตัว มีสีเทาอมชมพูลายสีน้ำตาลเข้ม เกล็ดมีขนาดใหญ่ จงอยปากงอนขึ้นข้างบน หากินเวลาพลบค่ำและกลางคืน โดยเฉพาะในเวลาที่มีความชื้นในอากาศสูง เช่น หลังฝนตก ชอบอาศัยในดินปนทรายที่มีใบไม้หรือเศษซากไม้ทับถมกันเพื่อซ่อนตัว เป็นงูที่ไม่ปราดเปรียว เวลาตกใจจะงอตัวหรือขดนิ่ง แต่ฉกกัดรวดเร็วมาก

งูกะปะ เป็น 1 ใน 7 ชนิดงูพิษอันตรายของไทย และมีสถิติคนถูกกัดมากที่สุด เพราะพรางตัวเก่ง พิษของงูกะปะนั้นมีผลต่อระบบเลือด ทำให้เลือดออกมากผิดปกติ เมื่อถูกกัดภายใน 10 นาที หลังบริเวณรอบแผลที่ถูกกัดจะบวมขึ้นอย่างรวดเร็วจนกระทั่งแขนหรือขาข้างนั้นบวมไปหมดภายใน 1 ชั่วโมงในรอยเขี้ยวจะมีเลือดไหลตลอดเวลา บริเวณแขนขาที่บวมจะมีสีเขียวคล้ำ ผิวหนังเกิดพอง ตอนแรกมีน้ำใสต่อมาภายหลังมีเลือด ภายหลังถูกกัดไม่กี่วันรอยเขี้ยวจะเกิดการเน่า ทำให้ผิวหนังมีเลือดออกเป็นรอยคล้ำ เลือดออกทางเดินอาหารผู้ที่โดนกัดจะเสียชีวิตได้จากความดันโลหิตต่ำ ซึ่งความดันโลหิตต่ำ เกิดจากการเสียเลือดนั่นเอง

หน่วยกู้ภัย กล่าวว่าปกติงูกะปะจะอาศัยอยู่ในป่าในสวน ซ่อนตัวอยู่ใต้ใบไม้แห้ง เช่น ในสวนยางพารา ในสวนสนามหญ้า ตัวนี้เข้ามาในบ้านพักอาศัยของคน อาจจะเข้ามาทางร่องระบายน้ำหากินเขียด ซึ่งช่วงนี้มีฝนตกบ่อยๆ นับว่าเป็นงูกะปะตัวแรกที่รับแจ้งให้มาจับที่เข้าบ้านคน จึงนำไปปล่อยที่เขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าสวนนก ในเขตบึงโขงหลงเพื่อคืนสู่ธรรมชาติต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ