หมอปลางานเข้าอีก! ทนายกองทัพธรรม แจ้งความหมอปลากับพวก 4 ข้อหาหนัก ปมบุกวัดห้วยจระเข้ กล่าวหาพระมั่วสีกา ไม่เข้าไปขอโทษ ปล่อยเรื่องเงียบ

เมื่อวันที่ 17 พ.ค.65 ที่สภ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร อายุ 54 ปี ในนามของทนายกองทัพธรรม ในฐานะนายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความกล่าวโทษ นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา กับพวก

กรณีร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เข้าไปในกุฏิของพระวิธี เทพมติ วัดห้วยจระเข้ จังหวัดนครปฐม ร่วมกันกล่าวหาว่าพระวิธี เทพมติ อยู่กับผู้หญิง (สีกา) สองต่อสอง ซึ่งเป็นความเท็จ และนำคลิปวีดิโอดังกล่าวไปเผยแพร่ในเพจของนายจีรพันธ์ เพชรขาว (หมอปลา) การกระทำของนายจีรพันธ์ น่าจะเป็นความผิดกฎหมาย

นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวว่า จากกรณีที่นายจีรพันธ์ หรือหมอปลา พาพวกเข้าไปบุกรุกในกุฏิของพระสงฆ์วัดห้วยจระเข้ อ.เมืองนครปฐม เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา ปรากฏว่าการไปที่วัดของหมอปลา ไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีสิทธิ์ ไม่มีอำนาจและเข้าไปถึงที่พักของพระภิกษุ โดยพระสงฆ์ถูกกล่าวหาว่าพาสีกาเข้ามาในกุฏิ

เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ชาย แต่งกายในลักษณะหญิง แต่เป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกัน ที่เข้ามาช่วยทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดถู และนำข้าวไปกินทุกวันนานกว่า 7 ปีมาแล้ว ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหา หลังจากนั้นช่วงเช้าสำนักงานพระพุทธศาสนา เดินทางมาตรวจสอบและปรากฏว่า ไม่มีความผิด จึงรายงานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเรียบร้อย

“ในส่วนของพระสงฆ์มาแจ้งความร้องทุกข์และบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองนครปฐม ซึ่งจะมาให้การตามหมายเรียกต่อไป ในส่วนของกระผมในนามของทนายกองทัพธรรม ในฐานะนายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการคุกคามพระภิกษุสงฆ์

จึงเดินทางมากล่าวโทษ ในข้อหาบุกรุกเคหสถานตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป อนุมาตรา 1 ของ พรบ. คณะสงฆ์ มาตรา 44 สอบสวนแล้ว ปรากฏว่า สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป กระทำการอันมิชอบด้วยกฎหมาย วันนี้จึงมากล่าวโทษให้พนักงานสอบสวนหาข้อเท็จจริง และออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ว่ามีใครร่วมกระบวนการบ้าง” นายศุภภัทร์พจน์ กล่าว

นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวต่อว่า สำหรับวันนี้มาแจ้งความดำเนินคดีกับหมอปลา หากการสอบสวนขยายผลและพบว่า มีใครเข้ามาบ้างหรือร่วมกระบวนการ พนักงานสอบสวนก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเป็นรายๆไป เพราะหลังจากเกิดเหตุที่หมอปลาบุกเข้าวัดห้วยจระเข้ จากนั้นก็ไม่ได้เข้าไปขอโทษแต่อย่างใด และปล่อยเรื่องเงียบจนปัจจุบัน

ซึ่งความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว จากการดูแล้วมีการพูดจาที่ไม่งาม และพยายามคะยั้นคะยอให้ท่านมีความผิด ในเรื่องมีสีกาเข้ามา ถ้าไม่ใช่สีกาก็จะเป็นสาวประเภทสองโดยพยายามส่อไปในทางมีเพศสัมพันธ์ พยายามคุกคาม หากหมอปลาสงสัยไม่ว่าจะเรื่องใดควรกระทำเป็นไปตามขั้นตอน แจ้งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

แจ้งไปยังพระผู้ปกครองถึงเจ้าอาวาสตามลำดับ ไม่ใช่บุกเข้าไปช่วง 20.00 น. 21.00 น. มันไม่เหมาะสม และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เกิดพฤติกรรมเลียนแบบในอนาคต ทั้งนี้ในการบุกเข้าไปในวัดห้วยจระเข้ช่วงดึกนั้น ก็ไม่ได้ขอหมายเข้าไป ตามที่ปรากฏดังภาพ โดยเราเก็บภาพไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด พบว่ามีแต่ไมโครโฟนจ่อ และไม่มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปเลย

ในส่วนของจังหวัดนครปฐมที่เราดำเนินการนั้น ถือเป็นคดีแรกและกำลังตรวจสอบย้อนหลังในกรณีอื่นๆ เช่น วัดโนนไทย หรือหลายๆที่ๆเคยปรากฏเป็นข่าว จะตรวจสอบว่าทำผิดถูกตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร หากเห็นว่าที่ผ่านมา ทำไม่ถูกต้องก็จะต้องดำเนินการ

สำหรับวันนี้จะแจ้งข้อหาบุกรุกในเวลากลางคืน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเป็นอาญาแผ่นดิน นอกจากนั้น จะเป็นพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นำข้อมูลบิดเบือนเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จะมีเรื่องของพ.ร.บ.คณะสงฆ์ทำให้คณะสงฆ์แตกแยก รวมถึงพิจารณาว่าการบุกรุกเข้าไปเกิน 5 คน เป็นการกระทำอันมิชอบด้วยกฎหมายจะเข้าข่ายซ่องโจรหรือไม่ อยู่ที่พนักงานสอบสวนจะตั้งข้อกล่าวหา

“กลุ่มทนายกองทัพธรรม จะดำเนินการช่วยเหลือพระหรือวัดที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม วัดวาอาราม ญาติโยมที่มีข้อพิพาทเกี่ยวกับกฎหมายจะช่วยดูแลให้ ส่วนหนึ่งจะเป็นเรื่องพระสงฆ์ ที่ทำไม่ถูกต้องจะเข้าไปดูแลเช่นกัน ขณะนี้หารือร่วมกับสำนักพุทธฯ ซึ่งตามโครงสร้างโดยกฎหมายสำนักพุทธไม่มีอำนาจที่จะทำได้ สำนักพุทธมีอำนาจหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทางเราจะตรวจสอบย้อนหลังว่า คณะกลุ่มบุคคลเหล่านี้ไปทำอะไรที่ไหน อย่างไร ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งเข้ามาได้ เราจะเข้าไปช่วยดูแล โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถแจ้งมาที่ทนายกองทัพธรรม หรือแจ้งมาที่ทนายอนันตชัย ไชยเดช ก็ได้” ทนายกองทัพธรรม กล่าว