งานวิจัยล่าสุด เผย 3 ปัจจัยเสี่ยง ไขข้อสงสัยทำไมคนอายุต่ำกว่า 35 ทั่วโลก มีแนวโน้มเป็น “มะเร็งลำไส้ใหญ่” เพิ่มขึ้น
ทั่วโลกพบแนวโน้ม “มะเร็งลำไส้ใหญ่” ในคนวัยหนุ่มสาวเพิ่มขึ้น งานวิจัยจากต่างประเทศวิเคราะห์ผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 35 ปี พบ 3 ปัจจัยเสี่ยง ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต ได้แก่ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก โรคอ้วน และการขาดแคลเซียม โดยงานวิจัยนี้เผยแพร่ในวารสาร Neoplasia เดือนนี้
นักวิทยาศาสตร์อ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยภาระโรคทั่วโลกปี 2019 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet โดยวิเคราะห์ข้อมูลจาก 204 ประเทศและภูมิภาค พร้อมระบุ 3 ปัจจัยเสี่ยงหลักที่ส่งผลต่อการเสียชีวิต นอกจากนี้ การออกกำลังกาย การสูบบุหรี่ และการบริโภคใยอาหารก็มีความเชื่อมโยงกับมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่มีผลกระทบน้อยกว่าเมื่อเทียบกัน
งานวิจัยพบว่า 1 ใน 5 ของผู้เสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ทั่วโลกเกี่ยวข้องกับการบริโภคแคลเซียมต่ำหรือการดื่มนมไม่เพียงพอ แคลเซียมมีคุณสมบัติช่วยจับกรดน้ำดีและกรดไขมันอิสระในลำไส้ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง อาหารที่อุดมด้วยแคลเซียม ได้แก่ ชีส ปลาแซลมอน ผักใบเขียว และโยเกิร์ต
ปัจจัยเสี่ยงอีกข้อคือแอลกอฮอล์ ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดการเสียชีวิตถึง 13% ตามมาด้วยโรคอ้วนที่คิดเป็น 10% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด
โดยรวมแล้ว จำนวนผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่อายุต่ำกว่า 35 ปีทั่วโลก เพิ่มขึ้นจาก 21,874 รายในปี 1990 เป็น 41,545 รายในปี 2019 หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายใน 30 ปี โดย 61% เป็นผู้ชาย และ 39% เป็นผู้หญิง
อัตราการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะเริ่มต้นเพิ่มขึ้นจาก 0.8 รายต่อประชากรแสนคนในปี 1990 เป็น 1.05 รายต่อแสนคนในปี 2019 ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจาก 11,445 รายในปี 1990 เป็น 15,486 รายในปี 2019 คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 27%
นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า แม้ข้อมูลเหล่านี้เคยถูกวิเคราะห์มาก่อน แต่ยังไม่เคยมีการศึกษาในระดับใหญ่ที่มุ่งเน้นเฉพาะผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 35 ปี Daily Mail อธิบายว่า ด้วยแนวโน้มมะเร็งลำไส้ใหญ่ในคนรุ่นใหม่ที่ชัดเจนขึ้น การวิจัยระดับโลกครั้งนี้ถือเป็น “งานศึกษาครั้งประวัติศาสตร์” ที่เผยให้เห็นสถานการณ์ของผู้ป่วยกลุ่มนี้อย่างลึกซึ้ง