งอนแฟนดื้อ! แพรรี่ ไพรวัลย์ ยันรักเอยเตยหอม น้องฟอร์ด ไม่คิดผ่ากีแปลงเพศ ตอบปมดราม่า เฌอเอม ไม่ดูดวง สะท้อนนางงามกับการทำงานในองค์กร เห็นต่าง ณวัฒน์ ศาสนาไม่ใช่เรื่องรสนิยม
ถูกจับตาว่ายังรักกันดี หรือเลิกกันแล้ว สำหรับ “แพรรี่” หรือ “ไพรวัลย์ วรรณบุตร” ที่โพสต์ข้อความเหมือนตัดพ้อ น้องฟอร์ด แฟนหนุ่มรุ่นน้อง พร้อมเผยถึงเรื่องที่มีคนถามในรายการยูทูบว่ามีแพลนจะไปผ่าตัดแปลงเพศจริงมั้ย
ล่าสุดมีโอกาสเจอ แพรรี่ ที่มาร่วมงาน ‘Alphascience Grand Opening’ ณ ชั้น 1 แฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสถานะความสัมพันธ์กับ น้องฟอร์ด บอกแค่งอนกันตามประสาลิ้นกับฟัน ยังไม่เลิก ยอมรับอีกฝ่ายดื้อกับตนบ้างตามประสาคนเป็นแฟน ส่วนประเด็นแปลงเพศ ไม่คิดผ่าตัดแค่อยากเทคฮอร์โมนให้ดูผิวพรรณละมุน เพื่อความสะดวกในการแต่งหน้าทำงาน ทั้งยังชี้แจงหลังแสดงความคิดเห็นประเด็นที่ เฌอเอม ชญาธนุส มิสแกรนด์ลำพูน ไม่ดูดวงเพราะนับถือศาสนาคริสต์
ถามถึงประเด็นที่เราโพสต์ไอจีตัดพ้อแฟน? “หนูโพสต์ไปแป๊บเดียว แต่มีคนแคปไปเป็นข่าวใหญ่โต ไม่นึกว่าจะแคปเร็วขนาดนั้น แต่ว่ามันก็ผิดที่หนูแหละ ที่โพสต์ลงไปทำให้มันเกิดประเด็น แล้วคนก็สงสัย จริงๆ มันไม่ได้มีอะไรค่ะ อารมณ์ลิ้นกับฟัน แต่ก็คุยกันแล้วค่ะ มันเป็นอารมณ์ที่อะไรที่มันเป็นสิ่งดีๆ เราก็อยากหยิบยื่นให้แฟนเรา คือเขาจะดริ้งค์ แต่ยังป่วยอยู่แล้วเพิ่งไปทำหน้ามาด้วย มันควรจะพักผ่อน”
เขาดื้อไหม? “หนูว่าเขาดื้อ คือเขาเป็นคนเรียบร้อยกับคนอื่น แต่กับหนูเขาจะดื้อ แต่ตอนเขาเข้าใจแล้ว หลังจากนี้จะพยายามไม่มือลั่นแล้ว ซึ่งหนูไม่โทษคนอื่นหรอก มันผิดที่หนูแหละ แง่คิดจากเรื่องนี้คืออย่ามือลั่นนะคะ เพราะแค่แป๊บเดียวคนก็แคปไปแล้ว ไวมาก”
เราทะเลาะกันบ่อยไหม? “ไม่เลย ต้องเป็นเรื่องที่ซีเรียสจริงๆ ถึงจะน้อยใจ มันไม่ได้ทะเลาะเพื่อหาเรื่อง แต่เป็นฟีลแบบเราน้อยใจ บางเรื่องขอแล้ว แต่เขาแอบดื้อนิดหนึ่ง ก็จะเกิดจากความเป็นห่วงของเรา (ยืนยันยังรักกันดี?) รักกันดีค่ะ รักเอยเตยหอมค่ะ (ยิ้ม)”
ไปออกรายการมา บอกว่าไม่อยากผ่ากี แต่ว่าอยากเทคฮอร์โมนผู้หญิงมากกว่า? “คนก็ไปได้ข่าวมาจากไหนไม่รู้ว่าหนูจะผ่า หนูไม่ผ่า ลุกส์ของหนูแบบนี้ แต่ว่าหนูทำงาน ใส่เสื้อผ้าหน้าผมเป็นผู้หญิง ดังนั้นก็จะมีปัญหาทางกายภาพมันดูไม่เป็นผู้หญิง เพราะเราเป็นคนหนวดเคราขึ้นเยอะ เวลาแต่งหน้ามันยาก ช่างบอกงานยากมาก หาช่างยากมาก เพราะผิวหน้ามันเป็นผู้ชาย ก็คิดว่าถ้าเราไปปรึกษาหมอ แล้วหมอให้คำแนะนำเรา เกี่ยวกับเรื่องการเทคฮอร์โมน ว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อสรีระเรา ก็อาจจะเทค แต่ยังไม่เคยมีความคิดที่จะไปผ่าค่ะ ถ้าเราไปเทคฮอร์โมนผู้หญิง ผิวพรรณก็จะดีขึ้น ดูฟีลตัวเล็ก”
ที่เราออกความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดูดวงบนเวทีมิสแกรนด์? “ต้องออกตัวก่อนว่าเราไม่ใช่คนคริสต์ ฉะนั้นเราจะไปตอบแทนเฌอเอม (ชญาธนุส ศรทัตต์) ไม่ได้ แต่ที่เราพูด เพราะเราเห็นว่ามันเป็นประเด็นที่น่าตั้งคำถาม การเข้าไปประกวดเวทีนางงาม มันจะเอาเรื่องศาสนามาคุยอย่างเดียวไม่ได้ เพราะการสมัครเข้าไปเป็นนางงาม มันก็เหมือนการสมัครไปอยู่ในองค์กร ซึ่งเขาก็จะมีเงื่อนไข ที่เราตั้งคำคือเรื่องความบาลานซ์ ความพอดี ว่าสรุปแล้วอะไรคือสิ่งที่สำคัญ เสรีภาพในเชิงศาสนา หรือว่ากฎข้อตกลงขององค์กรที่เขามีไว้
มันชวนตั้งคำถามว่าถ้าเราจะยึดความเชื่อเรา ว่าฉันไม่ยอม เพราะฉันเป็นคริสต์ เขามีข้อห้าม สุดท้ายเราจะเลือกอะไร เลือกที่จะยึดความเชื่อและสละว่างั้นฉันก็ไม่ขอเป็นคนในองค์กรคุณและออกมา หรือจะฉันก็ยึดในศาสนาแหละ แต่ฉันควรหาวิธีประนีประนอม เช่นให้เข้ากิจกรรมฉันก็เข้า แต่ถ้าบังคับให้ฉันเชื่อ ฉันไม่เชื่อหรอกนะ ให้ฉันดูดวง ฉันก็ดูไปอย่างนั้นแหละ เพื่อรักษามารยาทว่าฉันสามารถทำกิจกรรมกับทุกศาสนาได้ ซึ่งหนูก็เสนอมุมมองความคิดที่หนูเห็นว่ามันอาจจะประโยชน์กับนางงามคนอื่นๆ ด้วย เรามองภาพรวมว่าเราจะสามารถไปต่อหรือทำงานในหน้าที่ของเราได้ยังไง หนูก็สะท้อนแค่มุมของหนู”
ขึ้นอยู่กับมุมมองและการตีความว่าเราจะอยู่กับสิ่งที่เราเชื่อยังไง? “มันอยู่กับการให้คุณค่าค่ะ เหมือนที่บอส(ณวัฒน์)พูดว่าศาสนาเป็นรสนิยม ซึ่งหนูก็ไม่ได้เห็นด้วยว่าศาสนาเป็นรสนิยม เพราะบางคนอาจจะซีเรียสมากกับเรื่องศาสนา มองว่าเรื่องศาสนาคือชีวิตจิตวิญญาณ แต่บางคนเขาบอกว่าศาสนาเป็นเรื่องไม่ได้ซีเรียสมาก ฉันคนเดียวอาจจะนับถือได้ 5 ศาสนาเลย อย่างหนูนับถือพุทธ แต่หนูก็อาจจะไม่ได้เชื่อคำสอนของศาสนาพุทธทั้งหมดก็ได้นะ อย่างกรณีเฌอเอม เขาไม่ได้มองว่าศาสนาคือรสนิยม เขามองว่าศาสนาคือชีวิตและจิตวิญญาณของเขา เราก็ต้องเคารพเขา”.