ค่ารักษาโควิดเกือบล้าน! ครอบครัวคาใจ รพ. ไม่เบิกรัฐ เก็บเงินส่วนต่างนอกวงเงินประกันกับผู้ป่วยกว่า 3 แสน ซ้ำตอนอาการวิกฤตก็ไม่แจ้งญาติ 

คุณเอ (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า น้องชายป่วยติดโควิด เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ตลอดระยะเวลาของการรักษา คุณเอ เล่าว่า ทางโรงพยาบาลไม่มีการแจ้งครอบครัวเลย ว่าอาการเป็นอย่างไร จนกระทั่งน้องเข้าไอซียู และออกจากห้องไอซียู มาอยู่ห้องปกติ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงเฉียดล้าน!

จากไทม์ไลน์ จึงทำให้คุณเอและครอบครัว เกิดความสงสัย ว่า ตลอดเวลาที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ผู้ป่วยได้ติดต่อกับที่บ้าน ผ่านการวิดีโอคอลทุกวัน ครอบครัวจึงไม่รู้สึกเป็นห่วงอาการใดๆ แต่แล้ววันที่ 10 ของการรักษา ทางโรงพยาบาลได้ย้ายผู้ป่วยเข้าห้องไอซียู โดยแจ้งผู้ป่วยว่ามีอาการวิกฤต ครอบครัวจึงเกิดความสงสัยว่า อาการวิกฤต แต่ทำไมผู้ป่วยถึงยังสามารถสั่งอาหารเดลิเวอรี่มากินที่โรงพยาบาลได้เกือบทุกวัน

ไทม์ไลน์ของผู้ป่วยมีดังนี้

5 เม.ย.64 ตรวจหาเชื้อ ที่ รพ.สุขุมวิท

6 เม.ย.64 ช่วงเช้า รพ.สุขุมวิท โทรมาเเจ้งว่าผลเป็นบวก แต่ รพ. เตียงเต็ม ช่วงเย็นวันที่ 6 จึงถูกส่งตัวไปที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง

6-16 เม.ย.64 รักษาตัวที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง  ผู้ป่วยแจ้งครอบครัว ว่ามีอาการไข้นิดหน่อย

17 เม.ย.64 ผู้ป่วยถูกส่งตัวเข้าห้องไอซียู โดยหมอแจ้งคนไข้ว่า ปอดมีฝ้าเเละออกซิเจนในเลือดต่ำ มีการอักเสบจากโควิด หรือ เรียกว่า ปอดบวม

18 เม.ย.64 ครอบครัวไปติดต่อที่ รพ. เพื่อสอบถามค่าใช้จ่ายในช่วงวันที่ 6-16 เม.ย.64 รพ.เเจ้งยอดมาคร่าวๆ อยู่ที่ 422,005 บาท

20 เม.ย.64 ผู้ป่วยออกจากห้องไอซียู ทางครอบครัวโทรถามฝ่ายการเงิน เรื่องบิลค่าใช้จ่าย ทาง รพ.เเจ้งยอดมาที่ 940,000 บาท เมื่อรวมกับการรักษาที่ห้องปกติ

21 เม.ย.64 ครอบครัวไปติดต่อที่ รพ. เพื่อขอรายละเอียดเรื่องบิลค่าใช้จ่าย เมื่อคุยเสร็จ ไม่ถึงชั่วโมง ทาง รพ.ก็แจ้งให้ผู้ป่วยออกจาก รพ.ได้เลย จากกำหนดเดิมต้องรออีก 2 วัน ถึงออกจาก รพ.ได้

และทาง รพ. ไม่มีการแจ้งค่าใช้จ่ายใดๆ กับผู้ป่วยและครอบครัว ทางครอบครัวจะต้องเป็นฝ่ายร้องถาม ขอรายละเอียดเอง ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 937,979 บาท ครอบครัวเบิกประกันไป 600,000 บาท ที่เหลือทางโรงพยาบาลไม่เบิกรัฐ แต่โรงพยาบาลเลือกเก็บกับคนไข้ ซ้ำยังให้ผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลก่อนกำหนด 2 วัน ซึ่งหลังจากที่ ผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทางโรงพยาบาลก็ยังไม่ได้ติดต่อกลับมาเพื่อพูดคุยเรื่องค่าใช้จ่ายใดๆ