ค่าครองชีพในรัสเซีย พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 14% หลังรุกรานยูเครน

วันที่ 24 มี.ค. บีบีซี รายงานข้อมูลใหม่ว่า ค่าครองชีพในรัสเซีย พุ่งสูงขึ้น หลังการรุกรานยูเครนของกองทัพรัสเซีย ตัวเลขทางการเผยราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น น้ำตาล ก้าวกระโดดมากถึง 14% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มจะสูงขึ้นในรัสเซีย ซึ่งเงินรูเบิลอ่อนค่าลงตั้งแต่การโจมตีของยูเครนเริ่มเปิดฉาก มูลค่าของสกุลเงินรูเบิลลดลง 22% ในปีนี้

เมื่อวันพุธที่ 23 มี.ค. กระทรวงเศรษฐกิจรัสเซียกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อประจำปีพุ่งขึ้น 14.5% ในสัปดาห์ที่แล้วสิ้นสุดวันที่ 18 มี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปลายปี 2558

สำนักงานสถิติแห่งชาติรัสเซียระบุว่า ต้นทุนของน้ำตาลเพิ่มขึ้นมากถึง 37.1% ในบางภูมิภาคของประเทศและเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 14% น้ำตาล บีบีซี เป็นตัวทำกำไรมากที่สุดในสัปดาห์ นอกจากนี้ ราคาหัวหอมสูงเป็นอันดับ 2 ในสัปดาห์ โดยเพิ่มขึ้น 13.7% ทั่วประเทศ และ 40.4% ในบางพื้นที่ ขณะเดียวกัน ผ้าอ้อมก็แพงขึ้น 4.4% ราคาชาดำเพิ่มขึ้น 4% และกระดาษชำระเพิ่มขึ้น 3%

วิกตอเรีย อาบรัมเชนโค กล่าวถึงวิดีโอบนสื่อสังคมออนไลน์ที่เผยนักช้อปต่างแย่งกันซื้อน้ำตาลและบัควีทที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในกรุงมอสโกว่า รัสเซียพึ่งพาตนเองอย่างเต็มที่ ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกกับการซื้อสินค้าเหล่านี้ ซึ่งมีเพียงพอสำหรับทุกคน

สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ตัดขาดธนาคารรัสเซียจำนวนหนึ่งออกจากตลาดการเงินทางตะวันตก และยังห้ามติดต่อกับแบงก์ชาติ กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐ และกระทรวงการคลังของรัสเซีย

ขณะที่ธนาคารแห่งรัสเซียเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 2 เท่าเป็น 20% ในเดือนมีนาคมเพื่อป้องกันสกุลเงินเลื่อนไหลออกนอกประเทศไปอีก ส่วนธุรกิจตะวันตกจำนวนมากถอนตัวออกจากรัสเซียเนื่องจากสงครามในยูเครน

นอกจากนี้ รัสเซียตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ และขู่ว่าจะยึดทรัพย์สินของธุรกิจที่หยุดดำเนินการในประเทศ และคว่ำบาตรประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐ และเจ้าหน้าที่อีก 12 คนของสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 23 มี.ค. ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีมีร์ ปูติน ประกาศว่า รัสเซีจะเริ่มขายก๊าซธรรมชาติแก่ประเทศที่ “ไม่เป็นมิตร” เป็นรูเบิล เป็นที่เข้าใจเพื่อสนับสนุนสกุลเงินรูเบิล ทำให้ค่าเงินรูเบิลพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ต่อมาปิดที่ 97.7 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐ

สหภาพยุโรปพึ่งพารัสเซีย 40% ของก๊าซทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สัญญาที่มีอยู่จำนวนมากตกลงกันในสกุลเงินยูโร และไม่ชัดเจนว่ารัสเซียสามารถเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่