วันที่ 29 กรกฏาคม2567 เมื่อเวลาประมาณ 02.40 น. ร.ต.ท.วรัญชัย สุขยิ่ง รองสว.สอบสวน สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายเหตุเกิดที่ร้านร้านเติ้ลเย็นตาโฟสเด็ด แถวซอยเทพหกุญชร 42 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

บริเวณที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น หน้าตึกชั้น 1 เปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ตรงโต๊ะม้าหินหน้าร้าน พบศพผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย ทราบชื่อนายสุรัตน์ อายุ 40 ปี หรือบังแอร์ สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ปลายคางฝั่งขวา เสียชีวิตในลักษระหน้าทุ่มไปอยู่กับพื้นมีเลือดไหลนอง บนโต๊ะยังมีอาหารเครื่องดื่มที่กลุ่มผู้ตายสั่งไว้วางอยู่

จากการสอบสวนเบื้องต้นนายดงเย็น อายุ 52 ปี ให้การว่า ตนเป็นเจ้าของร้านของชำใกล้ ๆ ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายและเพื่อนกำลังนั่งรับประทานอาหารที่ร้านข้าวต้มที่แบ่งพื้นที่มาจากร้านเย็นตาโฟ ตนเองจึงเดินออกจากร้านของตนมานั่งด้วยเพราะเป็นคนรู้จัก ระหว่างรออาหารผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์มาสั่งข้าวร้านตามสั่งที่ตนเองนั่งอยู่ แต่แม่ค้าบอกว่าข้าวหมด คนร้ายจึงขี่รถออกไปโดยไม่ได้ซื้ออะไร

• แผ่นเหล็กปริศนา ลอยมากระแทกระจกทะลุ โดนคนขับ หวิดดับ บนบูรพาวิถี
• ล่าตัว! มือปืนโหดไล่ ยิงคนขับกระบะดับ ก่อนจุดไฟเผารถวอดทั้งคัน
• สลด! ผัววัย 63 ยิงเมียเด็ก ดับคาบ้าน จนท.คาด เป็นเพราะหึงหวง

ทางด้านนายวัชรพล 37 ปี เพื่อนคนตายเปิดเผยว่า ผู้ตายมีอาชีพเลี้ยงไก่ชนอยู่ที่บ้าน และตอนเกิดเหตุไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่สาเหตุน่าจะมีเพียงเรื่องเดียว คือเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน นายป้อมซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุไปว่าแฟนของผู้ตาย ทำให้ผู้ตายไม่พอใจจึงตบหัวนายป้อมไป 1 ครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้เจอกันอีก กระทั่งวันนี้มาเจอกันผู้ก่อเหตุจึงมาก่อเหตุ

จากการสืบสวนทรายชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายป้อมอายุประมาณ 45-50 ปี ขี่รถจักรยานยนต์มาสั่งอาหารที่ร้านตามสั่งก่อนจะออกไปโดยไม่ได้ซื้ออะไร เพราะแม่ค้าบอกว่าหมด ช่วงก่อนเกิดเหตุประมาณ 15 นาที คนร้ายก็กลับมาอีกครั้งโดยจอดรถไว้หน้าร้าน และเดินเข้ามาหาโต๊ะผู้ตาย ก่อนจะพูดว่า มึงทำกูทำไม แต่ผู้ตายยังไม่ทันได้ตอบอะไร ผู้ก่อเหตุก็ใช้อาวุธปืนยิงใส่ทันที 1 นัด ก่อนจะขับรถออกไปมุ่งหน้าถนนพหลโยธิน

สาเหตุมาจากเรื่องผู้หญิงเพราะคนก่อเหตุไปต่อว่าหญิงคนสนิทของผู้ตาย ทำให้ผู้ตายเจ็บแค้นแทนจึงไปตบหัวผู้ก่อเหตุอย่างแรง แต่ครั้งนั้นไม่มีเรื่องบานปลายต่างคนต่างแยกย้ายกันไป แต่หลังจากเกิดเหตุผู้ก่อเหตุเมื่อเจอตนเองก็จะพูดอยู่เสมอว่า “อย่าให้เจอแล้วกัน”

ทางด้านพ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุบันทึกภาพเป็นหลักฐาน ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บพยานหลักฐานเพื่อประกอบคดีและใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับคนร้าย และให้ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดก่อนและหลังก่อเหตุ ใช้เทคนิคตำรวจในการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ส่วนร่างผู้เสียชีวิตให้อาสาสมัครมูลินธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป