หนุ่มคู่กรณีแจ้งความกลับ พ่อไวท์ ณวัชร์ อ้างเบนซ์พ่อดาราหนุ่มเป็นฝ่ายขับไล่ ทนายสองฝ่ายหวิดวางมวย เพราะคำว่า “หิวแสง”
(25 ส.ค.64) เมื่อเวลา 11.40 น. นายกันตภณ หรือ อาร์ม พร้อมด้วย นายพิสิทธิ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย เพื่อให้ปากคำกรณีที่ถูก นายสุรศักดิ์ พุ่มโพธิงาม พ่อของ ไวท์-ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม ดารานักแสดงชื่อดัง แจ้งความกล่าวหาว่าถูกนายกันตภณ ทำร้ายร่างกายหลังเกิดเหตุขับรถเฉี่ยวชนกันบนถนนราชพฤกษ์
ต่อมาทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้นายกันตภณ เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหารวมทั้งสอบปากคำ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งการออกหมายเรียกครั้งแรกทางนายกันตภณ ได้มอบหมายให้ทนายความมาแจ้งขอเลื่อนพบพนักงานสอบสวน โดยอ้างว่ายังไม่พร้อมและขอเข้ามาพบในวันนี้
ซึ่งทางทนายกล่าวว่าหลังให้ปากคำเสร็จแล้ว ทางนายกันตภณ ก็จะแจ้งความดำเนินคดีกับคู่กรณีข้อหาทำร้ายร่างกาย และทำให้เสียทรัพย์ด้วยเช่นกัน ส่วนเรื่องคดีก็ให้ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ซึ่งทางเราก็มีคลิปเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุ
ต่อมาทางนายสุรศักดิ์ ได้เดินทางมาที่ สภ.บางกรวย พร้อมด้วยนายไพศาล ทนายความ เพื่อจะมาติดตามเรื่องความคืบหน้าของคดี โดยนายไพศาล กล่าวว่าหากคู่กรณีจะแจ้งความก็เป็นสิทธิ์ของเขา ว่ากันไปตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง ในส่วนของเขาที่จะมาแจ้งดำเนินคดีกลับ เดี๋ยวคงต้องไปพิสูจน์ในชั้นศาล ในส่วนของตัวคุณแม่ดาราหนุ่มซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นผู้เข้ามาห้ามเหตุ และถูกเขาล้วงหยิบกระเป๋าในรถ ขว้างทิ้งไปโดนขอบสะพานอันนี้เป็นคนละเคสคนละกรณีกันกับสิ่งที่เขาจะมาดำเนินคดีในเรื่องนี้
ส่วนที่เขาจะแจ้งฝ่ายตนนั้นตนว่าข้อเท็จจริงมันไม่ตรงกัน เรื่องนี้เรามีพยานหลักฐานตรวจสอบได้ว่าใครขับรถปาดหน้ากัน ใครถอยมาชน ใครถอยมาให้ชน ตอนนี้ฝ่ายตนแจ้งไป ทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ ผิดพรบ.จราจร อันนี้ถ้ามีข้อหาใดเข้าข่ายก็จะแจ้งเพิ่มอยู่ที่ความเห็นของพนักงานสอบสวนและอัยการด้วย
ต่อมาหลังให้การกับพนักงานสอบสวนเสร็จสิ้นนายกันตภณ ได้ถูกนำตัวไปพิมพ์ลายนิ้วมือ ทำประวัติในห้องควบคุม เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนทางกฎหมายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปล่อยตัวกลับไปเนื่องจากผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกเอง โดยญาติๆได้รีบนำตัวขึ้นรถไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนขับออกจากโรงพักไปทันที
ส่วนนายพิสิทธิ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายฝ่ายนายกันตภณ ให้สัมภาษณ์ว่า เริ่องที่เกิดขึ้นคงต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ฝ่ายเขามีฝ่ายเราก็มี พร้อมนำคลิปเหตุการณ์วันเกิดเหตุมาเปิดให้ดูทางโทรศัพท์มือถือและกล่าวยืนยันว่ารถเบนซ์พ่อดาราหนุ่มเป็นฝ่ายขับไล่รถนายกันตภณมาจนเฉี่ยวชน ไม่ใช่ลูกความของตนไปชนรถพ่อดาราหนุ่ม
นายพิสิทธิ์ ทนายฝ่ายนายกันตภณยังนำหลักฐานภาพถ่ายที่นายกันตภณถูกทำร้ายบริเวณใบหน้าและใต้ดวงตาจนบาดเจ็บมามอบให้ผู้สื่อข่าวด้วย ซึ่งระหว่างที่นายพิสิทธิ์ พูดว่าพ่อน้องไวท์ขับรถชนรถนายกัตภณนั้น ทำให้ทางญาติของไวท์ที่ยืนฟังอยู่ท้วงว่านายกันตภณเบรกรถให้พ่อไวท์ชนต่างหาก ซึ่งนายพิสิทธิ์ตอบว่าอันนี้อยู่ในสำนวนของคดีแล้ว ต้องไปพิสูจน์กันที่ศาล เพราะตนไม่ใช่ทนายหิวแสง ทำให้นายไพศาล ทนายฝ่ายพ่อดาราหนุ่มที่ยืนฟังอยู่ถึงกับโมโหเลือดขึ้นหน้าปรี่เข้าไปถามนายพิสิทธิ์ว่า อยากให้ขยายคำว่าทนายหิวแสงมันคืออะไร เพราะไม่มีในความหมายของคนที่เป็นทนายว่าความ มาพูดแบบนี้ได้อย่างไร นายพิสิทธิ์บอกตนไม่ได้ได้ระบุหมายถึงใครและไม่ขอโต้เถียงพร้อมทั้งขอยุติการให้สัมภาษณ์ดีกว่าเดี๋ยวจะบานปลายเป็นอย่างที่นักข่าวเห็นกัน
- “ไวท์ ณวัชร์” ช็อก! พ่อโดนต่อย แม่โดนตบหน้า เกิดปะทะเดือดกลางถนน