คุณแม๊!!! รูปไวรัลนั่งเฝ้าลูกทำการบ้าน มองเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่เห็น “ของในมือ” ลั่นเลย

Home » คุณแม๊!!! รูปไวรัลนั่งเฝ้าลูกทำการบ้าน มองเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่เห็น “ของในมือ” ลั่นเลย
คุณแม๊!!! รูปไวรัลนั่งเฝ้าลูกทำการบ้าน มองเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่เห็น “ของในมือ” ลั่นเลย

คุณแม่โพสต์รูปนั่งดูลูกทำการบ้าน เหล่าผู้ปกครองเห็น “ของในมือ” แล้วฮาลั่น เหมือนเห็นเงาตัวเอง

หากคุณเคยหัวร้อนจนอยากเอาหัวไปแช่ตู้เย็น หรือต้องนั่งท่องยุบหนอพองหนอซ้ำๆ ควบคุมจิตใจทุกครั้งที่สอนลูกทำการบ้าน เพื่อไม่ให้เผลอดุด่าว่ากล่าว หรือลงโทษลูกในรูปแบบต่างๆ วันนี้เรามีเรื่องราวเรียกรอยยิ้มของคุณแม่คนหนึ่งมาบอกเล่า

คุณแม่ชาวเวียดนาม  โพสต์รูปภาพขณะนั่งเฝ้าดูลูกชายทำการบ้าน พร้อมแคปชั่นสั้นๆ ตรงประเด็นว่า “จิตใจไม่เปลี่ยนแปลงท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในชีวิต อย่าตีลูก อย่าดุลูก” แต่กลับเรียกความสนใจในโลกออนไลน์ได้เป็นอย่างดี เมื่อในมือของคุณแม่มี “ลูกประคำ” ถือเอาไว้อยู่ ผู้คนต่างพากันหัวเราะเพราะว่าภาพนั้นตลกมาก เมื่อมองแล้วจู่ๆ พ่อแม่หลายคนก็เหมือนเห็นเงาของพวกเขาขึ้นมา

คุณแม่เจ้าของภาพ กล่าวว่า นี่เป็นภาพที่เธอโพสต์ลงกลุ่มเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความสุขและคลายเครียด ลูกชายของเธอตอนนี้อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ไปเข้าเรียนในโรงเรียนอนุบาล แต่เธอผู้เป็นแม่รับหน้าที่สอนให้อ่านเขียนเองที่บ้าน เลือกปล่อยให้ลูกเรียนรู้ไปพร้อมกับการเล่นเป็นหลัก เพื่อที่เขาจะได้ไม่รู้สึกกดดันและหมดความสนใจในการเรียนรู้โชคดีที่ลูกชายเรียนรู้ได้ค่อนข้างดี

อย่างไรก็ตาม เมื่อเพิ่งย้ายจากชั้นอนุบาล มายังระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ลูกชายมาของเธอก็เป็นเช่นเดียวกับเด็กคนอื่นๆมีช่วงเวลาที่เขาขี้เกียจและขาดสมาธิ ซึ่งในช่วงแรกๆ เธอยอมรับว่าอารมณ์เสีย เช่นเดียวกับผู้ปกครองคนอื่นในกลุ่มที่ต้องเตือนตัวเองนับพันครั้งให้หายใจเข้าลึกๆ และสงบสติอารมณ์เมื่อสอนลูก แม้ผู้ใหญ่อย่างเราจะรู้สึกเหมือนสูญเสียพลังงานทั้งหมดไปกับเด็กตัวเล็กๆ ก็ตาม

“เวลาเด็กๆ ขี้เกียจ ฉันจะยกตัวอย่างให้พวกเขาคิดเกี่ยวกับตัวเอง การได้ใช้ชีวิตในสถานการณ์ที่ดี การเรียนเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะยังมีเด็กกำพร้าหรือเด็กด้อยโอกาส ที่เขาอยากจะเรียนแต่ทำไม่ได้… บางทีพอเขาหมดสมาธิก็ปล่อยให้เขาพักประมาณ 5 นาที แล้วค่อยเรียนใหม่ ช่วงพักฉันก็จะพูดเรื่องตลกเรื่องเกี่ยวกับหัวข้อที่เขาชอบ หรือถามเรื่องการเรียนในชั้นเรียน ค่อยๆ ชี้แนะลูกให้กลับมาเรียนรู้อีกครั้ง….

ขณะที่ลูกกำลังทำการบ้านอยู่ ฉันจะนั่งข้างเขาและอ่านหนังสือเงียบๆ พยายามมุ่งความสนใจไปเพื่อให้ลูกเห็นและเลียนแบบ… ฉันบอกลูกเสมอว่าเมื่อแม่อารมณ์เสียหรือโกรธ ลูกลองกอดและหอมแม่ แล้วแม่จะหยุดโกรธทันที เพื่อนฉันก็ทำแบบนั้นกับลูกประจำเหมือนกัน”  ผู้เป็นแม่เล่า

เมื่อนึกย้อนกลับไป ทุกคนล้วนมี “วัยเด็ก” ซึ่งทำให้พ่อแม่ของเราหัวจะปวดมาก่อน ผู้ปกครองควรยอมรับว่าเด็กแต่ละคนมีความสามารถในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบและคาดหวังกับลูกมากเกินไป แท้จริงสิ่งที่เด็กต้องการคือความสงบและกำลังใจ ดังนั้น แค่ลองคิดถึงรอยยิ้มอันไร้เดียงสาของลูก และย้อนคิดถึงวันที่เราเองเคยต้องดิ้นรนกับการเขียนเมื่อหลายสิบปีก่อน พ่อแม่ก็จะเห็นอกเห็นใจและมีแรงบันดาลใจที่จะ “ต่อสู้” กับลูกๆ อย่างแน่นอน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ