คุกตลอดชีวิต ชนแล้วถอยรถทับคู่กรณีดับ ปมแค่ขวดแตก บานปลายถึงชีวิต

Home » คุกตลอดชีวิต ชนแล้วถอยรถทับคู่กรณีดับ ปมแค่ขวดแตก บานปลายถึงชีวิต



คุกตลอดชีวิต ชนแล้วถอยรถทับคู่กรณีดับ ปมแค่ขวดแตก บานปลายถึงชีวิต

วันที่ 3 ส.ค.65 ศาลจังหวัดตราด อ่านคำพิพากษาตัดสินคดี นายอาคม วราฤทธิ์ อายุ 37 ปี จำเลยที่ 1 นายสิทธิศักดิ์ หวังหลำ อายุ 33 ปี จำเลยที่ 2 และ นายเจตนิพัทธ์ ขาวขวงศ์ อายุ 33 ปี จำเลย คดีร่วมกันฆ่า นายณัฐพล กิจจานนท์ อายุ 30 ปี เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 24 มี.ค.64 ภายในซอยเทศบาล 5 ต.บางพระ อ.เมือง จ.ตราด

หลังจากศาลจังหวัดตราด นัดสืบพยาน ไต่สวนมานานกว่า 1 ปี โดยจำเลยทั้ง 3 คน ปฎิเสธข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่า นายณัฐพล เป็นการป้องกันตัวและเข้าเกียร์รถผิด แต่ศาลได้พิจารณาหลักฐานและวัตถุพยานทั้งหมดแล้ว คำให้การของจำเลยฟังไม่ขึ้น

ศาลตัดสินจึงตัดสินให้ให้ นายอาคม จำเลยที่ 1 และ นายสิทธิศักดิ์ จำเลยที่ 2 จำคุกตลอดชีวิต แต่คำให้การทั้งคู่เป็นประโยชน์ศาลลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุก 33 ปี ส่วน นายณัฐพล จำเลยที่ 3 จำคุก 6 ปี 8 เดือน เนื่องจากพฤติการณ์และหลักฐานไม่เข้าข่ายร่วมกันฆ่า มีความผิดร่วมทำร้ายร่างกายถึงแก่ชีวิต

ขณะที่ทนายความฝ่ายโจทก์ระบุว่า สาเหตุที่คำให้การของจำเลยนั้นฟังไม่ขึ้น เพราะวันที่เกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องราวตั้งแต่เริ่มต้น แต่เป็นการทะเลาะกันระหว่าง 2 สามีภรรยา และมีขวดแก้วแตกตกลงพื้นถนน ระหว่างนั้นจำเลยทั้ง 3 คน ขับรถผ่านมาพอดี คิดว่ามีคนปาขวดใส่รถ จึงถอยรถกลับมาและพุ่งรถที่จอดริมถนนเสียหาย ระหว่างผู้ตายก็เข้ามาถึงที่เกิดเหตุพอดี

ก่อนที่จำเลยจะเข้าทำร้าย โดยจำเลยที่ 1 ขับรถพุ่งชนผู้ตายจนล้ม จำเลยที่ 3 วิ่งเข้ามาเตะที่คางจนล้มลง จำเลยที่ 2 ใช้เหล็กตีศีรษะ ก่อนที่จำเลยที่ 1 จะถอยรถมาทับอีกจนเสียชีวิต ซึ่งศาลมองว่า หากวันนั้น จำเลยทั้ง 3 คน ปล่อยผ่านเรื่องขวดแตกไป ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ อย่างไรก็ตาม จำเลยทั้ง 3 คน ได้ขอประกันตัวและยื่นยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อในศาลยื่นอุทธรณ์

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ