วันที่ 15 ก.พ. บีบีซี รายงานว่า ศาลอินโดนีเซียตัดสินจำคุกตลอดชีวิต นายเฮอร์รี วีรวรรณ อายุ 36 ปี เจ้าของโรงเรียนประจำอิสลามในเมืองบันดุง จังหวัดชวาตะวันออก ที่ล่อลวงและ ขืนใจ นักเรียนหญิง 13 คน อายุ 11-16 ปี จนเด็กหญิง 8 คน ตั้งครรภ์ ซึ่งคลอดลูกออกมา 9 คน
ศาลพิจารณาว่า นายวีรวรรณล่วงละเมิดทางเพศนักเรียนตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งเป็นช่วงที่จำเลยเปิดโรงเรียนประจำอิสลาม
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า อัยการระบุว่า นายวิราวันชักจูงนักเรียนท้องถิ่นเข้ามาโรงเรียนประจำแห่งนี้ด้วยการเสนอทุนการศึกษาและสิ่งจูงใจอื่นๆ แก่เยาวชนในพื้นที่ยากจน
ศาลพิจารณาว่า เด็กหญิงเหล่านี้มีความเปราะบางเพิ่มขึ้น เนื่องจากอยู่ห่างจากครอบครัวและถูกตัดขาดจากการติดต่อเป็นประจำ โดยโทรศัพท์มือถือของเด็กหญิงถูกยึดและอนุญาตเดินทางกลับบ้านได้ปีละครั้งเท่านั้น
อัยการเรียกร้องโทษประหารชีวิตที่รุนแรงที่สุด รวมถึงการใช้สารเคมีฉีดอัณฑะ และการชดใช้ค่าเสียหายแก่เหยื่อกว่า 300 ล้านรูเปียห์ (เกือบ 6.8 แสนบาท) แต่องค์คณะผู้พิพากษาปฏิเสธคำร้องของอัยการ และพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตแทน
นายวีรวรรณล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงตั้งแต่ปี 2559 แต่เพิ่งถูกตีแผ่เมื่อเดือนพ.ค. 2564 เมื่อผู้ปกครองของเหยื่อคนหนึ่งพบว่าลูกสาวของตัวเองตั้งครรภ์ กลายเป็นข่าวที่สร้างความตกตะลึงและจุดกระแสความโกรธแค้นในอินโดนีเซียอีกครั้ง เกี่ยวกับอัตราความรุนแรงทางเพศและการทารุณสตรี นำไปสู่การเรียกร้องร่างกฎหมายขจัดความรุนแรงทางเพศที่ยืดเยื้อมายาวนาน
นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีวิ่งเต้นเพื่อให้ร่างกฎหมายนี้ประกาศใช้มาเกือบ 10 ปีแล้ว แต่กฎหมายดังกล่าวยังล่าช้าอย่างต่อเนื่องจากสมาชิกสภานิติบัญญัติหัวโบราณ
กลุ่มศาสนาและอิสลามโต้แย้งว่าร่างกฎหมายนี้ – ซึ่งมุ่งหมายเพื่อนิยามการล่วงละเมิดทางเพศ การข่มขืนในคู่สมรส และรูปแบบอื่นๆ ของความรุนแรงทางเพศว่าเป็นความผิดทางอาญา – เป็นการส่งเสริมความสำส่อนทางเพศเช่นกัน ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ผู้เสนอร่างกฎหมายไม่ยอมรับ
ขณะที่รัฐบาลอินโดนีเซีย ตามร่างกฎหมายข้างต้น จะจ่ายเงินชดเชยแก่เหยื่อแต่ละคนมาถึง 85 ล้านรูเปียห์ (เกือบ 2 แสนบาท)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ด.ญ.ปินส์ 13 ปี ถูกจับแต่งงานกับชายวัยกลางคน – ดูแลลูกเลี้ยงรุ่นราวคราวเดียวกัน