หญิงสาวอายุ 40 ปี เล่าเรื่องราวชีวิตรักของตัวเอง หลังเพิ่งผ่านการแต่งงานครั้งที่ 2 จากคนที่เคยล้มเหลวกับชีวิตคู่ แต่เลือกที่จะลองเปิดใจให้รักครั้งใหม่ ทำให้เธอได้รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้มันถูกต้องที่สุด
เธอเล่าว่า เคยผ่านการหย่าร้างมาก่อน ซึ่งทำให้เธอไม่อยากแต่งงานใหม่ อดีตสามีของเธอและเธอมาจากหมู่บ้านเดียวกัน แม้จะมีความรู้สึกต่อกัน แต่ก็ไม่กล้าแสดงออก จนกระทั่งญาติแนะนำให้รู้จักกัน เธอจึงได้เริ่มต้นกับเขาอย่างจริงจัง ในตอนนั้นเธอรู้สึกมีความสุขมาก และเชื่อว่าเขาคือคนที่เธอไว้ใจได้ที่จะใช้ชีวิตคู่ด้วย
ในช่วงแรกของการแต่งงาน ทั้งคู่มีชีวิตที่หวานชื่น พ่อแม่สามีเป็นคนง่าย ๆ ไม่มีปัญหาระหว่างแม่ผัวลูกสะใภ้ อดีตสามีตามใจเธอ และเธอก็เป็นคนตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ในบ้านเกือบทั้งหมด แต่หลังจากนั้นเขามักจะออกไปสังสรรค์ข้างนอกและกลับบ้านดึก เธอคิดว่าเขาทำงานหนักเพื่อให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น จึงพยายามเข้าใจเขา
จนกระทั่งเธอพบว่าเขามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อเธอถาม เขาตอบว่า “ผู้ชายทุกคนก็เป็นแบบนี้ ผมทำงานหนักเพื่อคุณ คุณต้องเข้าใจบ้าง อย่าต่อว่าผม ผมแค่เล่น ๆ ข้างนอก คนเดียวที่ผมรักคือคุณ”
คำพูดของเขาทำให้เธอเจ็บปวดอย่างมาก เธอเคยคิดว่าทั้งคู่รักกันจริง แต่เขากลับไม่คิดเช่นนั้น เนื่องจากเขาไม่ต้องการซื่อสัตย์ต่อการแต่งงานครั้งนี้ เธอจึงไม่อยากอยู่ต่อ ในที่สุดพวกเขาก็หย่ากัน ลูก ๆ อยู่กับเขา เธอเพียงแวะไปเยี่ยมเป็นบางครั้ง เธอตัดสินใจไม่แต่งงานใหม่เพราะผิดหวังในผู้ชาย ความรักที่เธอทุ่มเทกลายเป็นไม่มีค่า เธอกลัวจะเจ็บปวดอีก จึงไม่อยากลองอีกครั้ง
แต่เมื่อเธอได้พบกับพี่เหงียม ซึ่งแก่กว่าเธอสามปี เป็นคนใจดี และเมื่ออยู่ด้วยกันเขาเคารพความคิดเห็นของเธอ และไม่เคยทำในสิ่งที่เธอไม่ชอบ พี่เหงียมเป็นครูสอนประวัติศาสตร์ มีความรู้รอบตัวเยอะ ทุกครั้งที่เธอมีปัญหา เขาช่วยแก้ไขได้เสมอ จนเธอรู้สึกว่าเขาคือคนที่ใช่ที่สุดในชีวิต แต่ถึงตอนนั้นเธอยังไม่กล้าเปิดใจ อดีตสามีของเธอก็ดีในช่วงแรกแล้วก็เปลี่ยนไป เธอไม่กล้าเชื่อว่าพี่เหงียมจะจริงใจ เธอเล่าให้พี่เหงียมฟัง เขาไม่ได้บังคับแต่ใช้การกระทำแสดงความจริงใจ
มีเหตุการณ์หนึ่งที่เปลี่ยนใจเธอ วันนั้นพี่เหงียมกับเธอเดินเล่น เมื่อผ่านร้านชาไข่มุก เธอหันมองร้านนั้นอยู่สักพัก พี่พี่เหงียมก็วิ่งไปซื้อให้ ระหว่างที่เขาซื้อมันอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็ดึงเธออย่างแรง แล้วก็ได้ยินเสียงเบรกจากรถ มันทำให้เธอประทับใจมาก เพราะเขาใส่ใจเธออย่างแท้จริง ถ้าเธอพลาดเขาไป เธอคงเสียใจไปตลอดชีวิต
ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจให้โอกาสตัวเอง แม้จะไม่รู้ว่าความสุขจะอยู่ยาวหรือไม่ แต่เธอก็ไม่เสียใจที่เลือกเขา หลังคบหากันครึ่งปีแล้วจึงจดทะเบียนสมรส ตอนแรกเธอไม่คิดจะจัดพิธีใหญ่โต แต่พี่เหงียมยืนยันว่า แม้จะเป็นการแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องทำให้สมเกียรติ เขาจองโต๊ะเลี้ยงที่โรงแรมถึง 20 โต๊ะ เชิญญาติและเพื่อน ๆ มาร่วมงาน ตอนที่เธอสวมชุดเจ้าสาว เธอรู้สึกมีความสุขมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ใส่ชุดเจ้าสาวสีขาว
เมื่อกลับถึงบ้าน พี่เหงียมเปิดกล่องไม้เล็ก ๆ ที่มีทรัพย์สินของเขาอยู่ข้างใน มีโฉนดที่ดินสองฉบับ สมุดเงินฝาก 800 ล้านดอง (ราว 1 ล้านบาท) และบัตร ATM ที่ใช้รับเงินเดือน พี่เหงียมบอกว่า “พี่อยากให้เธอรู้สึกมั่นใจมากขึ้น บ้านสองหลังนี้ หนึ่งคือที่ที่เราอยู่ อีกหลังเป็นหลังเล็ก เดี๋ยวพี่จะพาเธอไปเปลี่ยนชื่อโฉนดให้เธอ สมุดเงินฝากก็ให้เธอเก็บ บัตร ATM เงินเดือนรหัสคือเลข 6 สองตัว เธอสามารถใช้ทรัพย์สินของพี่ตามใจชอบ พี่สัญญาว่าจะดูแลเธออย่างดีที่สุด ถ้าทำไม่ได้ ทุกอย่างในบ้านจะเป็นของเธอ พี่จะออกไปตัวเปล่า”
คืนนั้นเธอประทับใจจนหัวใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธอคิดว่าผู้หญิงที่เคยเจ็บปวดจากการแต่งงานที่ล้มเหลว ไม่ควรกลัวที่จะออกไปหาความสุขครั้งใหม่ เพราะเมื่อเรากล้าลองเท่านั้น เราจะได้พบกับคนที่ดี