สืบเนื่องจากวันที่ 28 ธันวาคม 2566 มีรายงานความคืบหน้า กราดยิงพารากอน ว่า นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้กับพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566
ส่วนกรณีว่า หากพนักงานสอบสวน ยังสอบปากคำ และไม่ส่งสำนวนให้อัยการ เพื่อให้ส่งฟ้องภายในวันที่ 31 ธ.ค.66 อาจจะต้องปล่อยตัวเนื่องจากครบกำหนดผัดฟ้อง เด็กออกจากสถานที่รักษาตัวนั้น ทาง พ.ต.อ.จิรพัฒน์ ยืนยันว่า คดีนี้เป็นคดีอาญา มีโทษอายุความ 20 ปี หมายถึง สามารถฟ้องผู้ต้องหาได้ภายในอายุความ 20 ปี
ต่อมา เมื่อเวลา 13.50 น. วันนี้ นายโกมล พรมเพ็ง รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และโฆษกกรมพินิจฯ เปิดเผยว่า ล่าสุด เด็ก 14 ยังคงนอนพักรักษาตัวและประเมินสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ตรวจรักษา และทางแพทย์ยังไม่ได้ส่งรายงานความเห็นวินิจฉัยแจ้งมายังกรมพินิจฯ
ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำส่งสำนวนต่ออัยการไม่ทัน ภายในเวลา 16.30 น. ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางจะต้องออกหมายปล่อยตัวชั่วคราว เพราะหน่วยงานจะไร้ซึ่งอำนาจในการคุมตัวเด็กไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมพินิจฯ จะต้องนำหมายดังกล่าวจากศาล ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่สถาบันกัลยาณ์ เพื่อปล่อยตัวเด็กให้กับครอบครัว
- #กราดยิงพารากอน ระอุซ้ำ! หลังสรุปสำนวน ‘ยังเด็กต่อสู้คดีไม่ได้’
- กราดยิงพารากอน ล่าสุด พูดคุยได้แต่เมื่อถามเรื่องคดี เด็กตอบ “จำไม่ได้”
- สลดใจ! แม่เหยื่อ ‘กราดยิงพารากอน’ ร่ำไห้หนัก เข่าทรุดลมจับทั้งน้ำตา
หมดอำนาจควบคุมตัวเด็ก
ล่าสุด พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า ได้รับการประสาน จากทางพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวแล้วว่า พนักงานสอบสวน ไม่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเติม เพื่อส่งอัยการ สั่งฟ้องต่อศาล ให้คดีดังกล่าวได้ทัน จึงใช้วิธีการตามป.วิ อาญา งดการสอบสวน ดังนั้นกรมมพินิจฯก็ไม่สามารถควบคุมตัวได้ตามกฎหมาย ซึ่งอำนาจการควบคุมตัวจะครบกำหนดเวลา เที่ยงคืนนี้
วันพรุ่งนี้ (1 ม.ค.67) เวลา 10.00 น. รองอธิบดีกรมพินิจฯ ได้นัดหมายกับผู้ปกครองของเด็กชายวัย 14 ปี ให้มาหารือร่วมกับสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อวางแผนการดูแลเด็กร่วมกัน เบื้องต้นต้องการทำแผนการรักษาต่อ ซึ่งผู้ปกครองต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 14 กําหนดว่า ในกรณีที่พนักงานสอบสวนหรือศาล เห็นว่าผู้ต้องหาหรือจําเลยเป็นผู้วิกลจริตและไม่สามารถต่อสู้คดีได้ ให้งดการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณาไว้จนกว่าผู้นั้นหายวิกลจริต หรือสามารถต่อสู้คดีได้