คณะแพทยศาสตร์ศิริราช คืนเงินบริจาค‘ชูวิทย์’ ชี้มีแหล่งที่มาไม่ถูกกฎหมายจริง เป็นครั้งแรก ตั้งแต่รับบริจาค ต้องคืนเงิน ด้านคณะแพทย์ศาสตร์มธ. พร้อมทำตามกม.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มี.ค.2566 ที่ห้องประชุมสิรินธร อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น G รพ.ศิริราช ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงชี้แจงเรื่องคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล รับมอบเงินบริจาคจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ว่า ตามที่มีข่าวปรากฏทางช่องทางการสื่อสารต่างๆ เกี่ยวกับการบริจาคเงินของนายชูวิทย์ จำนวน 3,000,000 บาท ให้แก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2566 และมีข้อสงสัยว่าอาจเป็นเงินที่ได้มาจากธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ซึ่งภายหลังเป็นที่แน่ชัดว่าเป็นเงินที่มีแหล่งที่มาจากธุรกิจที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมายจริง

คณะแพทยศาสตร์ศิริราช มิได้นิ่งนอนใจ จึงขอคืนเงินบริจาคจำนวนดังกล่าวให้แก่นายชูวิทย์ โดยจะติดต่อนายชูวิทย์ เพื่อคืนเงินโดยวิธีการที่เหมาะสมอย่างเร็วที่สุดต่อไป ซึ่งศิริราช มีความมุ่งมั่นดำเนินการในทุกพันธกิจตามหลักคุณธรรมและจริยธรรมมาตลอด และขอขอบพระคุณผู้ที่ให้ความอนุเคราะห์ต่างๆ ตลอดจนแสดงความห่วงใยต่อกรณีการบริจาคเงินดังกล่าว

ศ.นพ.อภิชาติ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ศิริราช เปิดรับเงินบริจาคมา แล้วต้องคืนเงินให้กับผู้บริจาค เพราะที่ผ่านมาบริจาค เราดูที่ตัวเงิน ไม่ดูตัวคน แม้แต่ผู้บริจาคบริจาคเพียงหลักร้อยบาทตนก็มารับด้วยตัวเอง แต่เงินที่เราทราบขณะนี้ ทราบว่าไม่ใช่เงินของนายชูวิทย์ เลยคืน แต่หากเป็นเงินของนายชูวิทย์เอง ก็ยินดีรับบริจาค และใครก็ได้ที่มาบริจาค ศิริราชรับเงินบริจาคเพื่อเป็นสะพานบุญต่อไป

เมื่อถามถึงหลักเกณฑ์ในการรับบริจาคว่าจำนวนเงินเท่าไหร่ ถึงจะเป็นการบริจาคทางการเมือง หรือการฟอกขาว ศ.นพ.อภิชาติ กล่าวว่า ไม่มีหลักเกณฑ์ใดๆ ขึ้นอยู่กับความตั้งใจของผู้บริจาค ที่อยากช่วย รพ.ศิริราช ที่เป็นสถาบันผลิตแพทย์ของประเทศไทย ซึ่งเราก็จะนำเงินบริจาคไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคอย่างตรงไปตรงมา เช่น ช่วยเหลือคนไข้ ผู้ด้อยโอกาส การศึกษาวิจัย

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะกำหนดเกณฑ์บริจาคหรือไม่ ศ.นพ.อภิชาติ กล่าวว่า ไม่มี เพราะเราเชื่อมั่นว่า ผู้บริจาคมีความตั้งใจจะช่วยเหลือทางโรงพยาบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยงานอีกแห่งที่ได้รับบริจาคจากนายชูวิทย์ จำนวนเงิน 3 ล้านบาท คือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งได้รับการยืนยันจาก รศ.นพ.ดิลก ภิยโยทัย คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า ทางคณะ ได้รับการบริจาคเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงห้องปฏิบัติการกายวิภาคศาสตร์ โดยก่อนหน้านี้วันที่ 6 ก.ย.2565 นายชูวิทย์ ก็เคยมาบริจาครถควบคุมอุณหภูมิสำหรับใช้รับร่างอาจารย์ใหญ่ด้วย

ทั้งนี้ ธรรมเนียมของการบริจาคเกิดขึ้นจากความหวังดี จึงไม่ใช่ประเด็นไปตัดสินที่มาของเงินที่บริจาคนั้น ส่วนการคืนเงินบริจาคคืนให้กับนายชูวิทย์นั้น ทางคณะ พร้อมดำเนินการตามกฎหมาย