“จุรินทร์” เปิดตัว 5 ผู้สมัครพิษณุโลก ลั่นหากปชป.ได้เป็นรัฐบาล ประกันรายได้ต้องเดินหน้าต่อ เตรียมดันเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคเหนือตอนล่าง

เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 65 ที่โรงแรมท็อปแลนด์จ.พิษณุโลก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วยนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคฯ ดูแลภาคเหนือ ร่วมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก พรรคปชป. ทั้ง 5 เขตการเลือกตั้ง

ได้แก่ นายจักษ์ พันธ์ชูเพชร อดีตผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร นายพงษ์มนู ทองหนัก รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก น.ส.มุธิตา ทองคำนุช อดีตผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก พรรคปชป. นายคณิศร มาดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกระท้าว และนายวันชัย ทิมชม สาธารณสุข 5 อำเภอ ที่ใกล้ชิดชาวพิษณุโลก และนายจุติ ลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนชาวพิษณุโลกมาให้การต้อนรับ พร้อมให้กำลังใจมอบดอกไม้ และอวยพรให้นายจุรินทร์เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยหน้า

นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีเป็นโอกาสพิเศษที่ได้นำคณะพรรคปชป.มาพบชาวพิษณุโลกพร้อมกัน ๆ ซึ่งเราให้ความสำคัญกับพิษณุโลกเพราะ 1. พิษณุโลกคือเมืองหลวงของภาคเหนือตอนล่าง 2. ชาวพิษณุโลกกับพรรคปชป.ผูกพันทางการเมืองยาวนาน และ 3.ผลงานของพรรคปชป.ผูกพันกับชาวพิษณุโลกตลอดมา

โดยเฉพาะตั้งแต่มาร่วมรัฐบาลชุดนี้ และเวลากว่า 40 ปี ชาวพิษณุโลกเคยมี ส.ส.จากพรรคปชป.มาแล้วตั้งแต่ปี 2518 สองคนสำคัญที่ชาวพิษณุโลกให้ไปทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรในนามพรรคฯ คือนาวาอากาศโทสุรปราณี ไกรฤกษ์ และนายสมพงษ์ พลวัย จากนั้นก็มีผู้แทนฯของพรรคฯจากพิษณุโลกติดต่อกันมา 7 ครั้งการเลือกตั้ง ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2532 แม้การเลือกตั้งครั้งล่าสุดพรรคฯ จะไม่ได้ผู้แทนฯ จากพิษณุโลก แต่อย่างน้อยหลังการเลือกตั้งปี 62 เรามีผู้แทนฯจากพิษณุโลกไปทำหน้าที่ในสภาฯและเป็นรัฐมนตรีโดยการสนับสนุนของพรรคปชป. เพื่อตอบแทนพี่น้องชาวพิษณุโลก คือนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม.

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ปีหน้าจะเป็นปีแห่งการเลือกตั้ง รัฐบาลครบเทอมวันที่ 23 มีนาคม 2566 ถ้าอยู่ครบจะมีการเลือกตั้งประมาณวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 อีก 4 เดือนครึ่ง แต่สมมติเกิดอุบัติเหตุมีการยุบสภา ต้องเลือกตั้งภายใน 45 ถึง 60 วัน นับจากวันที่ยุบสภา คนมีอำนาจยุบสภาคือนายกรัฐมนตรี และเที่ยวหน้าพิษณุโลกมีผู้แทนได้ 5 คน 5 เขต ซึ่งนโยบายของพรรคปชป.ในยุคนี้ที่ช่วยเหลือเกษตรกรจำนวนมาก คือโครงการประกันรายได้เกษตรกรในพืช 5 ชนิด เป็นหลักประกันให้กับเกษตรกร

ถ้าพืชเกษตรราคาตกจะมีเงินส่วนต่างโอนเข้าบัญชี ธ.ก.ส.โดยตรง ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์และเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล ในโครงการประกันรายได้ เฉพาะส่วนเงินส่วนต่างที่คนพิษณุโลกผู้ปลูกข้าว 78,000 ราย ซึ่งสามปีกว่าโอนเงินเข้ากระเป๋าชาวนาพิษณุโลกไปแล้ว 4,200 ล้านบาท เฉลี่ยได้ครอบครัวละ 53,000 บาท เป็นผลงานในช่วง 3 ปีกว่าที่ผ่านมา เมื่อเกษตรกรมีเงินในกระเป๋าก็มาจับจ่าย ร้านค้าก็มีรายได้ ผลพลอยได้ทางเศรษฐกิจมหาศาลจากนโยบายประกันรายได้

รวมทั้งการส่งออก ถ้าส่งออกดีเงินเข้ามาในประเทศ จะได้เงินมาทำงบประมาณแผ่นดินดูแลรักษาพยาบาล สร้างโรงเรียน ทำถนน สะพาน ไฟฟ้า ประปาดูแลพี่น้อง และสำหรับพิษณุโลกประกันรายได้ต้องเดินต่อถ้า ปชป.เป็นรัฐบาลเที่ยวหน้า พิษณุโลกจะต้องเป็นฮับทางด้านการศึกษาทันสมัย ด้านเศรษฐกิจการลงทุน คมนาคมและที่สำคัญคือการท่องเที่ยวที่ต้องเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวภาคเหนือตอนล่างทำเงินให้พิษณุโลกและพวกเราทุกคนต่อไป

“ขอให้การเลือกตั้งเที่ยวหน้าเป็นอีกครั้งหนึ่งที่คนพิษณุโลกลงคะแนนเปิดโอกาสให้ปชป.มาทำหน้าที่แทนท่านอีกวาระหนึ่ง เหมือนหลายยุคที่ผ่านมาในอดีต” หัวหน้าพรรคปชป. กล่าว