คำผกา-อั๋น เผยไพรวัลย์สู่แพรรี่ อาจแปลกตาบ้าง แต่ไม่ได้ทำอะไรผิด พูดได้ดี ติดตามเสมอ ชี้สังคมพระรู้กัน แจงเป็นบันไดแห่งโอกาสของเด็กยากจน
วันที่ 15 ก.ค. 2565 ข่าวจบ คนไม่จบ! วิเคราะห์เจาะลึก ถึงพริกถึงขิง จากมุมมอง “อั๋น ภูวนาทและ แขก คำผกา” กับ 3 วิพากษ์เผ็ดร้อน 3 ประเด็นฮอต ไพรวัลย์ สู่ แพรรี่ เป็นตัวเองผิดตรงไหน สังคมดราม่าอะไร? ฮ.ตก 500 ล้านหายวับ เปิดงบกลาโหมกับเงินที่เสียไป แพทย์ชนบท กระทุ้ง ทำไม ฟาวิพิราเวียร์ ยังขาดแคลน โดยพิธีกรคืออั๋น-ภูวนาท คุนผลิน และคำผกา ลักขณา ปันวิชัย สำหรับประเด็นอดีตพระไพรวัลย์นั้น หลังขายของออนไลน์ กลายเป็นแพร์รี่ ดูแลแม่นั้น ถือว่าแปลกตาบ้าง แต่ไม่ได้ทำอะไรผิด
สำหรับแพร์รี่นั้น เขามีหลักการที่จะทำชัดเจนมาก เขามีคำอธิบายที่ดี เป็นคนมีเหตุมีผล นั่นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้อยู่ในผ้าเหลืองต่อไปไม่ค่อยราบรื่นหรือไม่ (ฮา)
คำผกาเผยว่า เรารู้สึกประหลาดใจกับสังคมไทยไหมว่า ทุกคนรู้วงการโฮโมเซ็กช่วลที่ใหญ่สุดนั้น อยู่ในวงการสงฆ์ เราจะทำเป็นไม่รู้ได้หรือ เพราะเรามีคำเรียกคำล้อพระมากมาย ตนโตมากในสังคมที่บวกลบในพระ เช่นในวัดนี้ เรามีพระที่เป็นกะเทย ในจ.เชียงใหม่ มีใส่สบงรัดเป็นเกาะอก เดินที่กาดหลวงเชิดฉาย เปิดเผยมาก โลกรู้ ทุกคนรู้ และเราก็ไม่ได้คัดค้านต่อต้านเรื่องเหล่านี้เลย
แต่ขณะเดียวกันในโลกคู่ขนาน เรามักบอกว่าสิ่งนี้ไม่มีอยู่จริง เราก็ไปวัด ก็รู้ว่าพระเป็นกะเทย นับถือพระ เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรผิด เขาก็เป็น มีกิจปฏิบัติที่เขาพึงจะมีในฐานะพระ และไม่ได้ก่อปัญหาให้ใคร ก็อยู่กันมาแบบนี้มาโดยตลอด แต่พอพูดเป็นทางการ เราก็ไม่ยอมรับกับตัวเองว่าวงการสงฆ์มีเพศที่หลากหลาย
ไม่เข้าใจว่าเราแยกโลกอุดมคติกับโลกที่เป็นความจริงได้อย่างไร มันนำไปสู่ประเด็นอดีตพระไพรวัลย์ ที่เราแบ่งพระสายวัดป่า กับพระที่มีกิจของสงฆ์เกี่ยวพันกับกิจคน เกิดแก่เจ็บตาย ในต่างจังหวัด วัดเป็นพื้นที่ประชุมของชาวบ้านเพื่อจัดการเรื่องความขัดแย้ง ก็ใช้ลานวัดทำกิจกรรม ดังนั้นพระสงฆ์สายนี้จึงเกี่ยวพันกับทางโลกเยอะ จึงไม่มีใครคาดหวังว่าเคร่งพระธรรมวินัย แต่ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย หรือทำอะไรโจ่งแจ้ง
อย่าลืมว่าพระและการบวช เป็นบันไดขั้นหนึ่งของเด็กยากจน อาศัยทรัพยากรของวัด ทำให้เด็กเหล่านี้มีโอกาสได้เรียนหนังสือ และเราก็รู้ว่าเด็กเหล่านี้เมื่อเรียนจบ เขาอาจเป็นพระต่อ หรือสึกไปทำมาหากินจากความรู้ที่เขาเรียนมาแล้ว ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ
“เราก็เข้าใจว่ามันมีรูปแบบอย่างนี้ ดังนั้นมันมีเด็กชายจำนวนมาก ที่ไม่ได้เคร่งครัดศีล 227 ข้อ แต่ตอนเป็นพระ เขาก็ทำให้มันมีปัญหาน้อยที่สุด เก็บกดทางเพศไว้ จนพอสึก ก็แสดงตัวออกมาได้”
ทั้งนี้ต้องยอมรับความจริง ตนไม่เคยมีปัญหากับพระที่หละหลวม เพราะเราบวชในความหมายแตกต่างกัน บวชเพื่อหลุดผล เขาก็บวชเป็นพระป่าดีกว่า แต่เราก็เห็นการซื้อขายตำแหน่งของพระและความขัดแย้งเรื่องเงินทองในวัดอยู่เสมอ
“แถมหน่วยงานที่ตรวจสอบก็ตรวจไม่ได้ เพราะมันมีผลประโยชน์ทับซ้อนกัน”
เรื่องศาสนา มันเป็นเรื่องความเชื่อ เราใช้สิ่งนี้นำเสมอไป แม้จะมีคนบอกศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งเหตุผล เราไม่มีปัญหาเรื่องการบวชของคนเลย แต่เราก็รับไม่ได้บางส่วนที่พระใส่สบงเกาะอก ผัดแป้ง ทาลิปสติก อั๋นรับไม่ได้ แต่คำผกาบอกว่าก็เรียกว่าลูกสาว แต่อั๋นเชื่อว่าถ้าเป็นพระก็ไม่ควรทำแบบนั้น ทางคำผกาบอกว่า เขามาบวชช่วงหนึ่ง พอสึกก็จะเป็นอีกแบบ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าเณรเป็นวัยรุ่น เขาก็มีการแสดงออกบ้าง
ประเด็นของแพรรี่นั้น อั๋นมองเขาพูดตรงใจว่า ตอนเขาเป็นพระ เขาปฏิบัติทุกอย่างตามกฎครบถ้วนเลย เขาเป็นพระ จนตัดสินใจว่าจะสึก จึงค่อยๆ เรียนรู้สักพัก ในการแสดงสิ่งที่เขาอยากทำ ไม่ว่าจะเรียกสื่อเรียกแสง เขาก็ทำได้ เพราะมันไม่ผิดกฎอะไรเลย แค่ไม่ถูกใจบางคนเท่านั้นเอง
หากเขาทำหน้าที่บนภาษีประชาชน จะทำตัวแบบนี้ ก็ต้องทำหน้าที่เพื่อประชาชนอย่างรับผิดชอบ ตนก็ไม่ถือสา
คำผกาเผยว่า เขาเป็นมนุษย์ธรรมดาทั่วไป ไม่น่ามีประเด็นขนาดนั้น ในการที่เขาใช้ตัวเองเป็นพรีเซนเตอร์สินค้า ถือว่าสังคมไทยมาไกลมาก หากเป็นเมื่อ 10 ปีก่อน สังคมไทยจะดราม่ากว่านี้
ที่ผ่านมาเราไปคาดหวังแล้วเสียใจ ผิดหวัง ก่อนไปโยนให้อดีตพระทั้งสองเอง ซึ่งก็ถือว่าไม่แฟร์กับทั้งคู่ เพราะเรายังไม่รู้จักตัวตนเขาในฐานะฆราวาสดีพอ
คำผกาเผยว่า ตอนทั้งสองเป็นพระ ทำเนื้อหาที่กล้าหาญมาก ในการวิพากย์วิจารณ์สังคมพระ แต่พอเขาไม่ใช่พระ มันก็ไม่สนุก และไม่มีการทำลายความแหลมคมภาพจดจำของพระ ซึ่งตอนนั้นมีผลกระทบแรงมาก แต่ต้องเข้าใจว่าต้นทุนของสงฆ์มันสูง สุดท้ายทั้งสองก็อยู่ไม่ได้ เพราะสังคมไทยไม่อนุญาตให้พระทำแบบนี้
“นึกถึงเลดี้กาก้าที่ฉีกกฎทุกอย่าง แต่ร้องเพลงดีมาก ร้องโอเปร่า มันมีความขัดแย้งกัน โดยเลือกนำเสนอไปทางนี้ พอเขาเปลี่ยนแนว เขาไม่ช็อกโลกแบบเดิม แสงก็พุ่งมาเขาน้อยลง แต่มันก็ไม่แปลก”
อดีตพระไพรวัลย์ เขาอาจแปลกตาไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย สิ่งที่เขาออกมาพูดทุกครั้ง เนื้อหาตรงบ้าง แรงบ้าง หยาบบ้างนิดๆ พอให้แสบๆ แต่เราก็ได้ความรู้แทรกทุกครั้งจากสิ่งที่เขาพูด ซึ่งก็พูดได้ดีทุกครั้ง
“ขอให้น้ำพริกขายดิบขายดี”