‘คำผกา-อั๋น’ ฟาด คว่ำสุราก้าวหน้า ชี้ กม.ไม่ได้ทำให้คนดื่มมากขึ้น ยกประเทศที่เจริญแล้ว มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็น Soft Power แต่อุบัติเหตุน้อยกว่าไทย
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 4 พ.ย.65 ข่าวสดออนไลน์ จัดรายการ “ข่าวจบ คนไม่จบ” ดำเนินรายการโดย อั๋น ภูวนาท คุนผลิน และ แขก ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำผกา ในหัวข้อเรื่อง “ดับฝันสุราก้าวหน้า สภาคว่ำ จวกเฒ่าทำเนียบออกกฎกระทรวงปาดหน้า”
- พิธา ซัดรบ.หาข้ออ้างคว่ำ กม.สุราก้าวหน้า รีบไฟเขียวผลิตเองได้ ไม่แก้ทุนผูกขาด
- สภาโหวตคว่ำร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ฝ่ายค้านฮึดสู้ ดึงเกมขานชื่อส.ส. ลงมติใหม่
คำผกา แสดงความคิดเห็นว่า เรื่องสุราก้าวหน้า ผ่านฉลุยมา 2 วาระ มาถึงวาระ ที่ 3 ไม่มีใครคิดว่าจะไม่ผ่าน เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ฝ่ายรัฐบาลเห็นด้วย แต่ดันมีเหตุที่เป็นข่าวออกมาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปิดห้องเรียกคุย ให้คว่ำ พ.ร.บ.ฉบับนี้ ซึ่งมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมาว่าที่ทำไปเพราะต้องการเอื้อทุนใหญ่ หรือต้องการสกัดพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
กระทั่งก่อนวันโหวต 1 วัน มีการประกาศกฎกระทรวงออกมา ซึ่ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่าไม่ใช่การปลดล็อก แต่เป็นการเปลี่ยนล็อก ที่เหมือนว่าให้ชาวบ้านต้มเหล้ากินเองได้ แต่แจกจ่ายไม่ได้ คืองงมาก อยู่ๆมีกฎกระทรวงออกมาก่อนโหวตผ่าน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า
คำผกา ชี้ว่า อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ออกมาตามอำเภอใจของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่ผ่านการคิดและถกเถียง ผ่านการไตร่ตรองตั้งแต่พรรคการเมือง มาถึงสภาราษฎร เขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่ต้มเหล้าได้ และขายเหล้าได้เท่านั้น แต่ต้องการให้ประชาชนมีโอกาสทดลองได้ขาย ได้ยกระดับองค์ความรู้เกี่ยวกับการทำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ได้เฉพาะแต่เหล้าด้วย อาจจะรวมไปถึงเหล้าสำหรับทำอาหาร สาเก มิริน แบบญี่ปุ่น
ฉะนั้นจินตนาการเรื่องแอลกอฮอล์ที่จะออกมาจากคนตัวเล็กตัวน้อยซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเรื่องอย่างเดียวคือการไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานรัฐ นั่นคือประเด็นสำคัญ ไม่ใช่เรื่องที่คนจะกินเหล้าเมามายทุกวัน ฉะนั้นจึงมีการสู้กันสุดใจ
ผลโหวตที่ออกมาเฉียดฉิวมาก ถึงขนาดให้โหวตแบบขานชื่อ จนได้เห็นว่ามีกระบวนการที่จะทำแท้งกฎหมายฉบับนี้ที่จริงจังมาก ซึ่งมีการโทรเรียกคนที่มาประชุมแล้วไม่เข้าโหวต มาให้ล้มกฎหมายฉบับดังกล่าว หรือแม้แต่คนที่ยกมือให้ผ่านในครั้งที่แล้ว ก็ไม่ยกมือในครั้งนี้
“คนที่บอกว่าห้ามขายเหล้านั้นประหลาดมากเลย ทำไมไม่คิดเปรียบเทียบง่ายๆ โดยที่ประเทศฝรั่งเศส เป็นประเทศที่ Soft Power ของเขานอกจากเรื่องแฟชั่นแล้ว ยังมี ไวน์ กับ แชมเปญ แล้วเห็นประเทศเขาล่มสลายเพราะคนเมา หรือ ติดเหล้า หรือไม่ เช่นเดียวกับที่ สเปน อิตาลี สก็อตแลนด์ หรือ เบลเยี่ยม คือประเทศที่เจริญแล้วล้วนแต่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประจำชาติ
คนที่ด่าว่าไม่อยากเห็นคนเมา แต่ทำไมประเทศโลกที่ 1 ประเทศที่เจริญกว่าเรา เขามีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มประจำชาติ เป็นประเทศที่เศรษฐกิจดีกว่าเรา เป็นประเทศที่พัฒนากว่าเรา และยังมีสถิติบนท้องถนนน้อยกว่าเรา” คำผกา สะท้อนความคิดเห็น
ด้าน อั๋น มองว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการส่งเสริมให้คนกินเหล้ามากขึ้น หรือน้อยลง เป็นคนละเรื่อง คนกินเหล้าก็กินเหมือนเดิม ไม่กินก็ไม่กินเหมือนเดิม เพียงแต่ว่า จากเดิมคุณซื้อได้จาก 2 นายทุนในประเทศ เปลี่ยนมาเป็นสามารถซื้อในที่อื่นๆได้ ไม่ได้บอกว่าต้องกินมากขึ้น หรือน้อยลง หรือการเข้าถึงก็ไม่เปลี่ยน ช่องทางจัดจำหน่ายก็ไม่เปลี่ยน อายุหรือเกณฑ์ก็ไม่เปลี่ยน ฉะนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยน ถ้าแอนตี้เหล้า ต้องออกมาโวยวายว่าไม่ให้ขายเหล้าในประเทศนี้ แต่ไม่ใช่แอนตี้กฎหมายอันนี้โดยที่ไม่เข้าใจ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน