คำผกา ลั่นไม่เหนือบ่ากว่าแรง ครูลืมเด็กดับในรถตู้ แค่เช็กชื่อทุกครั้งที่ขึ้นลง แนะอบรมครูจริงจัง และฝึกเด็กให้เอาตัวรอดออกจากรถ
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 2 ก.ย. 2565 ข่าวสดออนไลน์ จัดรายการ “ข่าวจบ คนไม่จบ” ดำเนินรายการโดย อั๋น ภูวนาท คุนผลิน และแขก ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำ ผกา ในหัวข้อ “โศกนาฏกรรมซ้ำซาก ครูลืมเด็กในรถตู้อีกแล้ว”
อั๋น กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก มีสถิติว่า 9 ปีที่ผ่านมา มีเด็กเสียชีวิตในลักษณะนี้คือลืมเด็กไว้ในรถโรงเรียน 120 กว่าคน มากสุด 38% คือเด็กอายุ 2 ขวบ รองลงมาคือ 1 ขวบ และ 3 ขวบ แต่ส่วนใหญ่จะอายุ 2-6 ขวบ
คำ ผกา กล่าวว่า ประเทศที่พ่อแม่ขับรถไปส่งที่โรงเรียนถือว่าเป็นจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับประชากรโลก ประเทศส่วนใหญ่เด็กจะเดินไปโรงเรียนเอง หรือนั่งรถไปโรงเรียนไม่ใช่เรื่องแปลก แต่จะต้องมีความละเอียดรอบคอบในการดูแลเด็ก ซึ่งมันไม่น่าเหนือบ่ากว่าแรง เพราะไม่ได้มีเด็กอยู่ในรถ 500 คน แต่มีหลักสิบ
“แค่มีรายชื่อว่ารับเด็กมากี่คน แล้วตอนลงได้เช็กชื่อเด็กตามจำนวนที่รับมาหรือไม่ ขอแค่นี้ เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน ทำไมไม่มีความรอบคอบในการนับหัวเด็กทุกครั้งที่ขึ้น ทุกครั้งที่ลง ไม่ต้องคิดเรื่องเด็กขาดเรียนทำไมไม่โทรถามพ่อแม่ เอาแค่ขึ้นกับลงมีรายชื่อเด็กอยู่ในมือ” คำ ผกา กล่าว
อั๋น กล่าวเสริมว่า สิ่งที่แปลกประหลาดคือครูยืนยันว่าตรวจสอบแล้วอย่างรอบคอบถึง 3 ครั้ง หลังจากเด็กลงจกรถทั้งหมดแล้วตรวจสอบแล้วว่าไม่มีเด็กอยู่ในรถถึง 3 ครั้ง
คำ ผกา กล่าวอีกว่า ถ้าเราเป็นระบบรถโรงเรียน ต้องมีฝึกอบรมครูว่าต้องตรวจให้รอบคอบอย่างไร และฝึกอบรมเด็กว่าควรเอาตัวรอดอย่างไรกรณีที่ติดอยู่ใรถ เด็กทุกคนที่โดยสารรถโรงเรียนจะต้องได้รับการฝึกฝนการขอความช่วยเหลือและการเอาตัวเองออกจากรถ จากที่ทราบข้อมูลในหลายประเทศมีเคสที่เด็กถูกลืมในรถและเสียชีวิต อันดับแรกคือ ผู้ปกครองลืมเด็กไว้ในรถโดยประมาทเผลอเรอ และอันดับที่ 2 คือเด็กเข้าไปในรถด้วยตัวเอง
อั๋น กล่าวว่า ครูพูดว่าไม่ได้ล็อกรถและวางกุญแจรถไว้บนคอนโซล แต่ตนคิดว่าเด็ก 7 ขวบ ไม่สามารถหยิบกุญแจเปิดได้ แล้วปกติจากข้างในไม่ต้องใช้กุญแจปลดล็อก ตอนแรกที่คุยกับเพื่อนว่า รถเกือบทุกคันมีระบบป้องกันเด็กเปิดจากข้างใน เมื่อกดล็อกแล้ว เด็กจะเปิดจากข้างในไม่ได้ แต่ไม่แน่ใจว่ารถตู้คันเกิดเหตุมีหรือไม่
คำ ผกา กล่าวต่อว่า ถ้าจะคิดอีกกรณีคือเด็กลงจากรถแล้วกลับไปขึ้นรถอีกรอบโดยที่ครูไม่เห็น ก็ดูมีความเป็นไปได้น้อย แต่สิ่งที่เราจะปกป้องกันได้ คือต้องปฐมนิเทศเด็กเรื่องการเอาตัวรอดถ้าเด็กติดอยู่ในรถ ต้องปฐมนิเทศครู ฝึกอบรมครูแบบจริงจังว่าต้องมีการบันทึก ครูทุกคนต้องมีการถ่ายรูปตอนลงจากรถแล้วส่งรายงานทันทีว่าเด็กลงจากรถแล้ว ปิดประตูรถไม่มีอะไรติดค้างอยู่ในรถ แล้วทำให้เป็นกฎที่เข้มงวด
อั๋น ทิ้งท้ายว่า ฝากบอกไว้ว่า รถทุกคันในโลก ต่อให้ดับเครื่องแล้วก็บีบแตรได้ สอนลูกให้รู้ไว้ว่าสิ่งนี้เป็นสัญญาณเตือนภัยได้ ให้กดจนกว่าจะมีคนมาช่วย แต่อย่ากดเล่น