คำผกา ซัดส.ว.ตั้งเครือญาติ กินภาษีพันล้าน ยังไม่เห็นผลงาน นอกจากเสาค้ำรัฐบาล สืบทอดตำแหน่งนายกฯ ให้ ‘ประยุทธ์’ ชี้ต้องโทษที่ระบบ

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 6 ก.ย. 2565 ข่าวสดออนไลน์ จัดรายการ “ข่าวจบ คนไม่จบ” ดำเนินรายการโดย อั๋น ภูวนาท คุนผลิน และแขก ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำผกา ในหัวข้อ “ข้องใจ ส.ว.ตั้งเครือญาติ 50 ตำแหน่ง กินภาษีพันล้าน”

อั๋น กล่าวว่า ไอลอว์ เก็บข้อมูลคณะทำงาน ส.ว. 250 คน ณ วันที่ 30 ก.ย. 2563 พบว่า ส.ว.มีการแต่งตั้งเครือญาติตัวเองเข้ามาทำงานมากกว่า 50 คน โดย ส.ว.สามารถแต่งตั้งคณะทำงานได้ 3 ตำแหน่ง แต่รวมกันได้ไม่เกิน 8 คน ได้แก่ 1.ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว 1 คน เงินเดือน 24,000 บาท 2.ผู้ชำนาญการประจำตัว 2 คน เงินเดือน 15,000 บาท และผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัว 5 คน เงินเดือน 15,000 บาท ส่วนเงินเดือนโดยเฉพาะ ส.ว. ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ใช้งบประมาณไปแล้ว 2,230,569,000 บาท

คำ ผกา กล่าวว่า สำหรับตนคิดว่าเงินพันกว่าล้านบาท เมื่อเทียบกับงบประมาณแผ่นดินถือว่าไม่เยอะ แต่ความผิดปกติทั้งหมดเป็นความผิดปกติของการเมืองไทยโดยรวม หากย้อนกลับไปที่รัฐธรรมนูญปี 2540 เรามี ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้ง ถ้าคุณไปจ้างผู้ช่วย 8 คนแล้วมาจากเครือญาติ คุณต้องโดนสื่อด่า โดนพรรคการเมืองคู่แข่งแฉ ชื่อเสียงจะไม่เหลือ การเลือกตั้งครั้งต่อไปก็กลายเป็นประเด็นให้ถูกโจมตี ท้ายที่สุดอาจไม่มีโอกาสที่จะได้รับเลือกกลับมาเป็น ส.ว.

คำ ผกา กล่าวอีกว่า พอมีการรัฐประหารปี 2549 กลไกรัฐธรรมนูญปี 2540 ถูกฉีกทิ้งหมด แล้วกลับมาสู่ระบอบประชาธิปไตยปลอมๆ อีกครั้ง แล้ว ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งก็กลับมา แน่นอนอยู่แล้วและไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ เขาต้องแต่งตั้งคนที่เกื้อหนุนอุปถัมภ์ค้ำจุนตอบแทนบุญคุณกัน เราจะไปโทษคนไม่ได้ แต่ต้องโทษที่กลไกของระบบที่ออกแบบมาให้ทุกอย่างมันทำงานแบบนี้

“แล้วรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง รัฐบาลที่ไม่ได้เป็นประชาธิปไตย ก็ต้องเอากฎหมายมาปิดปากประชาชนทั้งหมด ถ้าวิจารณ์ก็เอาเข้าค่ายปรับทัศนคติและยัดข้อหาต่างๆ หรือฟ้องหมิ่นประมาท”

คำ ผกา กล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นหลังมีรัฐธรรมนูญปี 2550 เมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วรัฐบาลเพื่อไทยตอนนั้นพยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีส.ว.มาจากการเลือกตั้งอีกครั้ง ทำให้มีวาทกรรมว่าจะเกิดสภาผัวเมีย เผด็จการรัฐสภาจะกลับมาอีกครั้ง พรรคเพื่อไทยจะฝังรากลึกเครือข่ายอำนาจ

คำ ผกา กล่าวอีกว่า คำว่าเผด็จการรัฐสภาไม่มีจริง แต่มันคือพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง แล้วชนะยาวนาน ผูกขาดการเลือกตั้ง แต่กลับมีคนไปเชื่อเรื่องสภาผัวเมีย ตอนนั้นพรรคเพื่อไทยจะแก้ให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง โดนข้อหากบฏล้มล้างการปกครอง พอรัฐประหารปี 2557 อันนี้กบฏล้มล้างการปกครองของจริง ออกกฎหมายนิรโทษ ตั้ง สนช. หมดวาระ สนช. โยกไปเป็น ส.ว. ค้ำยันตำแหน่งตัวเองอีกรอบ แล้วทำให้เกิดเรื่องอย่างตอนนี้ที่ตั้งเครือญาติตัวเองเข้ามากินภาษี พวกคุณก็สืบทอดตำแหน่งนายกฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต่อ

“ถ้าคุณบอกว่าคนที่แต่งตั้งเข้ามาเก่งมาก แต่คุณเห็นผลงานอะไรของ ส.ว.ที่มากกว่าการเป็นเสาค้ำยันให้รัฐบาลที่สืบทอดอำนาจมาจากยุค คสช.บ้าง ยังมองไม่เห็น แล้วยังมีข่าวฉาวๆ ออกมาตลอดเวลา อย่างกรณีที่มีการแต่งตั้งกิ๊กเข้าไปเป็นข้าราชการ จะมีสวัสดิการบำเหน็จบำนาญ รวมถึงค่ารักษาพยาบาลไปถึงพ่อแม่ด้วย”

“ความคอร์รัปชันแบบนี้ เมื่อดูงบประมาณที่ใช้ไปกับสวัสดิการข้าราชการ พนักงานรัฐ และครอบครัว ที่มีสิทธิเบิกจ่าย จำนวน 5.2 ล้านคน เป็นเงิน 481,254.9 ล้านบาท ส่วนงบประมาณที่ใช้ไปกับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด งบอาหารเสริม เงินสมทบประกันสังคม เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ครอบคลุมประชากร 66.2 ล้านคน ใช้งบประมาณ 468,000 ล้านบาท แล้วเรายังจะให้ระบอบนี้มันยังคงอยู่ต่อไปหรือ”

อั๋น กล่าวเสริมว่า นี่คือข้อเท็จจริงที่ยังมีบางคนรู้สึกพอใจกับมันได้ ไม่รู้คิดหรือไม่ หรือไม่ได้คิด หรือปักหลักเชื่อแบบงมงาย รักใคร่แบบแฟนคลับ ตนเตือนตัวเองเและคุยกับแฟนเสมอว่า เรารักลูกได้ แต่ถ้าลูกผิด เราต้องไม่เข้าข้าง เต็มที่คือยืนข้างๆ ฉะนั้น ถ้าอันไหนที่ผิด คุณต้องบอกว่าผิด ถ้าคุณยังจะรักเขาก็ต้องบอกให้เขาแก้ให้ได้ ถ้าแก้แล้วมันดีแล้ว คุณจะยังยืนหยัดเลือกต่อไป มันเป็นสิทธิของคุณ แต่อย่างน้อยที่สุดคุณต้องไม่เห็นผิดเป็นถูก เห็นกงจักรเป็นดอกบัว