คำผกา ชี้ ‘ทักษิณ’ กลับไทย ไม่เกี่ยวเพื่อไทย ลั่นอย่าคิดซับซ้อน แค่อยากอยู่กับลูกหลาน ชูแลนด์สไลด์ ปิดสวิตช์ ส.ว. แนะแก้รัฐธรรมนูญ ก่อนยุบสภาเลือกตั้งใหม่
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 28 มี.ค. 2566 ข่าวสดออนไลน์ จัดรายการ “ข่าวจบ คนไม่จบ” ดำเนินรายการโดย อั๋น ภูวนาท คุนผลิน และแขก ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำ ผกา ในหัวข้อ “ปี่กลองดัง! ทักษิณลั่นขอกลับไทยรับโทษ เพื่อไทยโต้ดีลจับมือ บิ๊กป้อม ตั้งรัฐบาล”
อั๋น กล่าวว่า ตนรู้สึกว่า แค่ ‘ทักษิณ’ พูดว่า “ผมอยู่ในคุกมา 16 ปีแล้ว เป็นคุกขนาดใหญ่” คือเขาไม่ได้มีอีโก้แล้ว ถ้าเขากลับแล้วเขาบอกว่ายอมรับก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม คุณจะเกลียดหรือไม่เกลียดก็แล้วแต่คุณ เพราะความเกลียดอยู่ในหัวใจคุณเอง แต่สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญคือกระบวนการยุติธรรม ย้อนกลับมาดูว่าคดีความทั้งหมดในตอนนั้นถูกพิจารณาหรือตั้งข้อหาขึ้นมาอย่างเป็นธรรม อย่างอคติ หรือถูกแทรกแซงหรือไม่
อั๋น กล่าวอีกว่า คุณต้องยอมรับว่า ถ้าคุณมีอคติในการที่จะเกลียดคนคนหนึ่งได้ คุณต้องเข้าใจว่าคนที่ทำรัฐประหารก็มีอคติ ไม่น่าเป็นเรื่องแปลกใจเท่าไร เพราะคนที่รัฐประหารทักษิณ การจะทำให้การรัฐประหารชอบธรรมได้ คือทำให้คนที่ถูกรัฐประหารมีความผิดเยอะ ทักษิณอาจจะผิดจริงก็ได้ แต่ผิด 1 อาจจะโดนไป 10 ตนไม่รู้
อั๋น กล่าวต่อว่า ถ้าวันนี้เราอยากจะก้าวต่อ ทักษิณแมนๆ พร้อมจะกลับมา เราควรแมนๆ แล้วดูกันว่า อะไรจริง อะไรไม่จริง อะไรผิด อะไรไม่ผิด ถ้าไม่ผิด ตอนนั้นใครยัดเยียดให้เขาผิด คนนั้นน่าจะมีความผิดเช่นเดียวกัน ไม่ต้องนิรโทษกรรมก็ได้ การเซ็ตซีโร่ไม่จำเป็นต้องกดปุ่มรีเซ็ตแล้วเริ่มต้น แต่คนไหนผิดก็ว่าไปตามผิด
อั๋น กล่าวอีกว่า การเซ็ตซีโร่คือทุกคนต้องพยายามอย่างยิ่งที่จะวางอคติของตัวเองให้มากที่สุด แล้วดูว่าอะไรผิดจริง กฎหมายเป็นมาตรฐานเดียวกันหรือไม่ เช่นในเรื่องเดียวกัน คนนั้นผิด แต่คนนี้ไม่ผิด สิ่งนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา
คำ ผกา กล่าวว่า สิ่งที่ทักษิณให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเกียวโด ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในแคร์ทอล์กเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว มีคนถามทักษิณเรื่องนี้ ทักษิณก็ประกาศกลางแคร์ทอล์ก พูดเหมือนกันเปี๊ยบทุกบท ทุกตัวอักษร ทุกประโยค แบบที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเกียวโด ว่ามีแผนที่จะกลับเมืองไทยแน่นอน แต่จะยังไม่ให้รายละเอียดว่าจะกลับอย่างไร แต่กลับแน่ๆ
คำ ผกา กล่าวต่อว่า การกลับนี้ไม่ใช่การกลับเพราะพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลหรือไม่เป็นรัฐบาล จะเป็นการกลับโดยเอกเทศของตัวเอง แต่อยากกลับเพราะอยากอยู่กับลูกหลาน
คำ ผกา กล่าวอีกว่า การพูดแบบนี้เป็นการส่งสัญญาณว่าจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วก็ยอมติดคุกตามจำนวนเวลาที่ถูกพิพากษา พอติดคุกเรียบร้อยแล้ว เคลียร์ตัวเองทุกอย่างแล้ว ก็ออกจากคุกไปใช้ชีวิตแบบมนุษย์ปกติธรรมดา
คำ ผกา กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ถูกเอามาอภิปรายในเชิงการเมือง คือ การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค. เพื่อไทยประกาศว่าจะต้องชนะแลนด์สไลด์ เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าเป้นไปได้ จะเป็นการจัดตั้งรัฐบาลแบบที่พรรคเพื่อไทย สามารถเป็นรัฐบาลได้โดยไม่ต้องยืมมือใครมาช่วยเลย คือ 310 เสียงขึ้นไป ไม่ต้องง้อใคร แต่ถ้าพรรคอื่นอยากมาเป็นรัฐบาลด้วย ต้องทำตามทุกเงื่อนไขของเพื่อไทย แทบจะไม่มีปากเสียง ไม่มีอำนาจต่อรอง
คำ ผกา กล่าวอีกว่า การจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ไม่ได้แปลว่าจะมีแต่พรรคเพื่อไทยที่เป็นรัฐบาล แต่หมายความว่าพรรคอื่นที่จะมาร่วมด้วย ไม่มีอำนาจต่อรองโดยสิ้นเชิง แต่พอพรรคเพื่อไทยประกาศเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์ พูดภาษาชาวบ้านคือ “ไม่เลือกเรา เขามาแน่”
“ถ้าไม่เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ มีแนวโน้มว่า พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา จะรวมกัน บวก ส.ว. 250 เสียง แล้วจัดตั้งรัฐบาล ที่เหลือต้องเป็นฝ่ายค้าน รวมไทยสร้างชาติของประยุทธ์ก็จะเป็นฝ่ายค้านด้วย”
คำ ผกา กล่าวต่อว่า ดังนั้น สิ่งที่วางไว้เป็นหมุดหมายแรกคือเลือกเพื่อไทยให้ถล่มทลาย แลนด์สไลด์ แล้วเราจะเอาเสียงนี้ไปปิดสวิตช์ ส.ว. นายกรัฐมนตรีจะมาจากพรรคเพื่อไทย ขั้นต่อไปคือแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ไขกติกาที่เป็นมรดกของ คสช.ทั้งหมด อาจจะทำเสร็จภายใน 2 ปี แล้วยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ก็ได้
คำ ผกา กล่าวอีกว่า พอเพื่อไทยประกาศแลนด์สไลด์ปุ๊บ ทำให้พรรคการเมืองที่เป็นคู่แข่งประสาทแดกกันหมด แต่ก็เป็นอย่างที่เพื่อไทยพูด เพราะเราจะปิดสวิตช์ ส.ว.ยังไง ถ้าไม่ให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์ พรรคอื่นก็ต้องงัดทุกกลวิธีขึ้นมาต่อสู้ว่า แลนด์สไลด์นี้หมกเม็ดหรือไม่ จึงเริ่มการปล่อยข่าวว่า เพื่อไทยไปทำดีลกับพลังประชารัฐ ก็จะไปสอดรับกับสิ่งที่ทักษิณพูด จึงสามารถแต่งเรื่องได้ว่าเพื่อไทยดีลกับพลังประชารัฐ เพื่อเอาทักษิณกลับบ้าน
คำ ผกา กล่าวต่อว่า แล้วนิทานเรื่องเพื่อไทยทำดีลเอาทักษิณกลับบ้าน มีมาตั้งแต่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เมื่อวานนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็แถลงว่า เราจะเหน็ดเหนื่อยหาเสียงแทบตาย เพื่อประเคนตำแหน่งนายกฯ ให้คนอื่น มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะทำ และคนที่จะตัดสินใจว่าจะร่วมรัฐบาลกับใคร ไม่ใช่ทักษิณ เพราะทักษิณไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค นี่ข้อที่ 1
คำ ผกา กล่าวอีกว่า ข้อที่ 2 พรรคที่จะร่วมรัฐบาลด้วย จะเป็นพรรคที่เคยเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน ข้อที่ 3 พรรคที่เราจะร่วมรัฐบาลด้วยจะต้องมีแนวนโยบายและแนวทางการทำงานที่สอดคล้องกัน ดังนั้น หยุดปั่นข่าวลือเรื่องดีล
คำ ผกา กล่าวต่อว่า กลับมาเรื่องทักษิณประกาศเรื่องจะกลับบ้าน ตนคิดว่าเรามีแนวโน้มที่จะมองทักษิณมากกว่าที่ทักษิณเป็น เรามี 2 ขั้วที่สุดโต่ง ถ้าไม่มองเห็นทักษิณเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ก็มองเห็นเป็นผี คือได้ยินคำว่าทักษิณ ก็รู้สึกว่าประเทศชาติจะถูกออกเป็นชิ้นๆ ถ้าเราคิดแบบปกติธรรมดา ทักษิณอาจจะเหมือนสรยุทธ์ คือไม่หนี แล้วยอมติดคุก พอติดคุกจบก็กลับมาทำงานได้เลย
คำ ผกา กล่าวอีกว่า เข้าใจได้ว่าทำไม 17 ปีที่แล้ว ทักษิณกึ่งๆ หนี เพราะอำนาจของเผด็จการ อำนาจของฝ่ายอนุรักษ์นิยม และอำนาจของฝ่ายอำนาจนิยม มันรวมกันเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันแบบแข็งแกร่งมาก สมัยนั้นดีดนิ้วทำอะไรก็ได้ แล้วมวลชนยังไม่อยู่ในสภาวะแบบทุกวันนี้ที่เห็นการรัฐประหารเป็นเรื่องผิด หรือเข้าใจว่าประชาธิปไตยคืออะไร
คำ ผกา กล่าวต่อว่า เมื่อ 17 ปีที่แล้ว ถ้าเราเป็นทักษิณ เราก็หนี แต่พอผ่านการรัฐประหารปี 2557 ผ่านการต่อสู้ของประชาชนหลายรอบ ผ่านการเปลี่ยนแปลงขององค์กรที่ถูกจัดตั้งกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยไม่คงรูปเหมือน 17 ปีที่แล้ว แค่นี้ก็มองออกแล้วว่า เหมือนจะมีความยุติธรรมเกิดขึ้นแล้วในสังคม
คำ ผกา กล่าวอีกว่า ฉะนั้น ถ้ากลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตอนนี้ อาจจะเป็นเรื่องที่พอรับได้ อาจจะไม่เจอกลั่นแกล้งจากกระบวนการตุลาการ หรือเจอกับอำนาจมืด เขาไม่ได้กลัวการขึ้นศาล แต่เขากลัวอำนาจมืดมากกว่า เมื่อทุกอย่างมันอยู่ในที่แจ้งมากพอ เลยรู้สึกว่าเขาสามารถเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถ้ามีอะไรที่ต้องติดคุกก็รับได้ เมื่อเข้าไปอยู่ในคุกแล้วเคลียร์ตัวเองออกมา หลังจากนั้นจะได้ใช้ชีวิตแบบชายสูงวัยคนหนึ่งกับลูกหลาน ตนติดว่าไม่มีอะไรซับซ้อนขนาดนั้น
คำ ผกา กล่าวต่อว่า คนก็บอกว่าแล้วมาพูดอะไรในช่วงเลือกตั้ง มาพูดอะไรในช่วงที่ลูกสาวตัวเองอาจได้เป็นนายกฯ คำตอบของตนคือเขาไม่คิดซับซ้อน ตนคิดว่าทักษิณเป็นคนง่ายมากกว่าที่เราคิด เรารู้สึกว่าเขาเป็นมหาเศรษฐี เขาเป็นนายกฯ แต่เขาคือมนุษย์
“อย่าคิดว่าเขาเป็นคนวิเศษวิโส เขาเป็นคนรอบคอบ เขาต้องไตร่ตรองแล้ว ดีลกันแล้ว เขาก็แค่ผู้ชายไทยคนหนึ่งที่ทำธุรกิจประสบความสำเร็จ แล้วทะเยอทะยานอยากเล่นการเมือง วันหนึ่งเขาประสบความสำเร็จในการทำพรรคการเมือง แล้วก็โดนรัฐประหาร”
คำ ผกา กล่าวอีกว่า เขาเป็นแค่ชายสูงวัยคนหนึ่งที่มีหลาน 7-8 คนรออยู่ที่บ้าน แล้วนึกถึงคุณหญิงย่า กับกล้องวงจรปิด 38 ตัว ตนคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ผู้สูงวัยทุกคนมีอยู่ร่วมกัน เท่าที่ตนเห็นอยู่ไกลๆ ทักษิณเป็นคนรักลูกรักหลานแบบขึ้นสมองมาก อยากตื่นมาแล้วได้กอดลูกหลาน
คำ ผกา กล่าวต่อว่า ตนเข้าใจคนไทยว่า บาดแผลที่อยู่ในใจคนไทย เหมือนเรากำลังจะเข้าพิธีแต่งงานแล้วเจ้าบ่าวหนี เรามีประชาธิปไตยแป๊บๆ แล้วก็รัฐประหาร เราเหมือนผู้หญิงที่กำลังจะได้แต่งงาน แล้วงานแต่งงานล่มตลอดเวลา เราจึงมีชีวิตที่บอบช้ำและไม่มีความเชื่อ คิดว่ามันต้องไม่เป็นอย่างที่เราเห็นหรือได้ยิน มันต้องมีอะไรซับซ้อน ที่เขาพูดต้องปิดบังอะไรเราเยอะแน่ เขาต้องไปดีลไปเจรจากันแล้ว เราบอบช้ำได้ แต่อย่าให้มันมาครอบงำการใช้ชีวิตจนบิดเบือนจากสิ่งที่มันควรจะเป็นมากเกินไป เราต้องให้โอกาสตัวเองเชื่อและรอ
อั๋น กล่าวเสริมว่า ถ้าที่ผ่านมามันไม่มีการบิดเบือนระบบ ตนว่าเราจะเข้าใจง่ายมากว่า ไม่ดี 4 ปีก็เลือกคนอื่น ถ้าแฮปปี้ 4 ปีก็เลือกคนเดิม หรือพรรคเดิม แต่ที่ผ่านมามันมีคนอื่นมายุ่ง การที่คุณเข้ามาแทรกแซง แสดงว่าคุณไม่เชื่อระบบยุติธรรม ไม่เชื่อกระบวนการตรวจสอบของประเทศ
อั๋น กล่าวต่อว่า ประเทศนี้มีตั้งกี่หน่วยงานให้ตรวจสอบ ก็ให้คนเหล่านั้นทำงาน แต่มาบอกว่าคนเหล่านั้นทำงานไม่ได้ แล้วอ้างความชอบธรรมมารัฐประหาร เสร็จปุ๊บก็จับคนที่ถูกรัฐประหารเข้าสู่กระบวนการที่ตัวเองไม่เชื่อ แล้วคุณจะบอกให้คนเชื่อกระบวนการยุติธรรมที่ก่อนหน้านี้คุณก็ไม่เชื่อเหรอ
อั๋น กล่าวอีกว่า ต่อให้ไม่ใช่ทักษิณ เป็นคนอื่นที่ถูกรัฐประหาร ตนก็รู้สึกเหมือนเดิมว่าจะมายุ่งทำไม ไม่ใช่หน้าที่ และไม่มีวันใช่หน้าที่ ย้อนกลับไปดูประเทศอังกฤษ ไม่เคยมีการรัฐประหารหรือปฏิวัติเกิดขึ้นเลย เพราะรัฐธรรมนูญแทบจะไม่เปิดโอกาสให้การทำรัฐประหารเกิดขึ้นเลย
คำ ผกา กล่าวต่อว่า ตนไม่เชื่อเรื่องการแก้ไขปัญหาด้วยการเขียนกฎหมาย แต่ตนเชื่อว่าถ้าเราให้เวลากับสังคมในการบ่มเพาะวัฒนธรรมแบบประชาธิปไตยมายาวนานพอ วันหนึ่งการรัฐประหารจะถูกปฏิเสธโดยสังคมหรือโดยประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญเขียนก็โดนฉีก เนื่องจากวัฒนธรรมประชาธิปไตยเราไม่เข้มแข็งพอที่เราจะปกป้องสิ่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรได้
คำ ผกา กล่าวอีกว่า เราต้องมีเวลาในการบ่มเพาะประชาธิปไตยจนมันตกผลึกกลายเป็นวัฒนธรรม เราจะเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างกัน เคารพทางเลือกที่เพื่อนร่วมชาติเลือกแม้จะไม่เห็นด้วย ตนอยากให้มีวันนึงที่เอกลักษณ์ของความเป็นไทยคือการเคารพเสียงข้างมาก และไม่มีวันอนุญาตให้มีใครทำรัฐประหารเพียงเพราะรัฐบาลมันห่วย ถ้ารัฐบาลห่วย เราก็อภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าคอรัปชั่นทุกระบบ รัฐบาลนี้ทำชั่วแค่ไหนก็ลอยนวลพ้นผิดตลอดเวลา ก็ไม่เป็นไร เพราะประชาชนจัดการกันเองได้ โดยไม่ต้องยืมมือใครมาจัดการแทน
คำ ผกา กล่าวต่อว่า ถ้าเราพุ่งเป้าจะเอาชนะ ส.ว. 250 เสียง ถ้าเราตัดคะแนนกันเอง เราจะแพ้พลังประชารัฐและแพ้ภูมิใจไทย เพราะเราจะแย่งคะแนนกันเอง แต่คราวนี้มันดีกว่าคราวที่แล้ว เพราะพลังประชารัฐจะแย่งคะแนนกับประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และรวมไทยสร้างชาติ แต่เราจะตัดใจได้หรือไม่ว่า บันไดขั้นแรก ถ้าเราปิดสวิตช์ ส.ว.ได้ เราแก้ไขรัฐธรรมนูญ ลงสัตยาบันกันได้ไหมว่า ถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ ยุบสภาเลย ไม่ต้องรอ 4 ปี แล้วเลือกตั้ง ด้วยกติกาที่เป็นธรรม
คำ ผกา กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ต้องให้พรรคเพื่อไทยพูดว่า ถ้าเลือกเราแลนด์สไลด์ แล้วเราได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สิ่งแรกที่จะทำคือแก้ไขรัฐธรรมนูญให้กติกากลับมาเป็นประชาธิปไตยที่สุด แล้วสัญญาที่ให้กับประชาชนคือ แก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จปุ๊บ เราจะไม่บริหารประเทศ เราจะยุบสภาทันที เพื่อให้ทุกคนเข้าสู่การแข่งขันบนกติกาที่เป็นธรรม ตนว่าอันนี้มีประโยชน์กว่าการจับมือหรือไม่จับมือกับใคร