คำผกา ชี้ “กัญชา” มีปัญหาจริง แต่ไม่ควรสรุปเป็นต้นเหตุ สารวัตรกราดยิง ยังไร้ข้อมูลชีวิตส่วนตัว สังคมไทยต้องเรียนรู้เรื่องยา จะได้รู้วิธีแก้ปัญหา

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 17 มี.ค. 2566 ข่าวสดออนไลน์ จัดรายการ “ข่าวจบ คนไม่จบ” ดำเนินรายการโดย อั๋น ภูวนาท คุนผลิน และแขก ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำ ผกา ในหัวข้อ “กัญชาอีกแล้ว! ค้นบ้านสารวัตรกราดยิง เจอต้นเหตุคลั่ง-กัญชาเกลื่อน ผลชันสูตรชี้ชัด”

คำผกา กล่าวว่า เรื่องสารวัตรกานต์ที่มีปัญหานำมาสู่ภาวะที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงจนเสียชีวิต เราไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตของเขา หรือมีข้อมูลว่าสิ่งที่ทำให้เขามาพบจุดจบนี้มันเกิดจากปัญหาอะไรบ้าง เช่น ปัญหาที่ทำงาน ความรัก โรคทางจิต ซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นซึมเศร้า หรือจิตเภท ยังไม่มีใครรู้

คำผกา กล่าวต่อว่า ผลการชันสูตรยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ และไม่รู้ว่ากระบวนการชันสูตรโปร่งใส น่าเชื่อถือแค่ไหน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแบบรวบรัดตัดจบ ราวกับจะโยนทุกอย่างเบี่ยงเบนความสนใจไปเรื่องกัญชา ทั้งที่กัญชาอาจเป็นหนึ่งในสิบของปัญหาในชีวิตเขา แต่ไม่ใช่ปัญหาเดียวที่ทำให้เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้น

คำผกา กล่าวต่อว่า เมื่อแยกเรื่องกัญชาออกมา เรายอมรับว่ากัญชาเป็นปัญหาของประเทศในขณะนี้ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นกัญชาเสรีแบบแคนาดา หรือจะเป็นกึ่งเสรีแบบเนเธอร์แลนด์ หรือกัญชาทางการแพทย์อย่างเดียวแบบอังกฤษ มันต้องผ่านกระบวนการออกกฎหมายจนมีฉันทามติร่วมกันว่าประเทศเราจะบริหารกัญชาแบบนี้

คำผกา กล่าวอีกว่า ต่อให้เสรีหมดทุกอย่างแบบแคนาดา ไม่ได้แปลว่าไม่ได้ควบคุม เช่น ร้านกัญชา 1 ร้าน จะสต๊อกกัญชาได้กี่กรัม ขายให้ใครบ้าง คนที่มีคุณสมบัติจะซื้อกัญชาได้ ต้องไปลงทะเบียนที่ไหน ตรวจสุขภาพยังไง แล้วข้อมูลจะขึ้นหมดว่า เดือนนี้หมดโควต้าที่จะซื้อกัญชาของบุคคลนี้แล้วหรือยัง ส่วนคนที่จะเป็นบาร์เทนเดอร์กัญชาเหมือนเป็นบาริสต้า ต้องไปเรียน ไปอบรม ต้องมีใบรับรอง ต้องสอบใบประกอบโรคสำหรับปรุงกัญชาให้คนบริโภค

คำผกา กล่าวต่อว่า ขณะที่นักข่าวที่ทำเรื่องกัญชา ต้องมีโต๊ะบรรณาธิการข่าวกัญชาโดยเฉพาะ แล้วนักข่าวที่ทำเรื่องกัญชาจะไปซี้ซั้วคัดลอกข้อมูลไปเรื่อยไม่ได้ ถ้าสมมติมีข่าวว่าตำรวจคนนี้มีอาการทางจิตหลอนเพราะกัญชา นักข่าวที่มีความรู้เรื่องกัญชาจะสามารถบอกได้ว่าคำพูดนี้มั่วหรือไม่จริง เพราะนักข่าวที่ศึกษาเรื่องกัญชาแล้วจะต้องมีโต๊ะข่าวกัญชาที่มีนักข่าวมีความรู้เรื่องกัญชาจนสามารถจับโกหกได้หมด

คำผกา กล่าวอีกว่า ปัญหากัญชาเกิดในประเทศไทยเพราะกระบวนการพวกนี้ไม่เกิดขึ้น เราเหมือนสหรัฐอเมริกาในยุคปี 1920 กว่าๆ หรือ 1930 กว่าๆ ตอนนั้นกลุ่มอนุรักษ์นิยมอยากจะแบนทั้งเหล้า ทั้งกัญชา เพราะเอากัญชาไปโยงกับผู้อพยพที่มาจากละตินอเมริกา พาดหัวข่าวในอเมริกายุคนั้นทุกเล่มจะบอกว่า คนนี้หลอนกัญชาไปแทงแม่ คนนั้นหลอนกัญชาไปฆ่าพ่อ เพราะต้องการดิสเครดิตกัญชาแบบเหมารวม

คำผกา กล่าวต่อว่า วันนี้องค์ความรู้เรื่องยาในสังคมไทยอ่อนแอมาก เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เรียกว่ายาบ้าคืออะไรกันแน่ แล้วเราก็แยกยาอีกับยาไอซ์ไม่ออก หรือแยกโคเคนกับเฮโรอีนไม่ออกสักอย่าง เพราะเราไม่เคยทำความรู้จักกับมันจริงๆ ว่ายาที่มีผลต่อจิตประสาทต้องมีองค์ประกอบอะไร ถ้าเราไม่รู้จักมัน เราจะไม่รู้วิธีแก้ปัญหา ไม่รู้วิธีปกป้องคนในครอบครัว หรือถ้าคนในครอบครัวมีปัญหา เราก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาให้เขายังไง

อั๋น กล่าวว่า คดีนี้ไม่สามารถสรุปได้ง่ายๆ ว่าเกิดเพราะกัญชา หรือเอากัญชามาเบี่ยงเบนประเด็น ทำให้ลืมสาเหตุจริงๆ ว่าคืออะไร