คำผกา จี้หมอพรทิพย์ ลากคนเอี่ยว GT200 มาให้หมด ดันทุรังใช้จนมีคนตาย รู้อยู่เต็มอก แต่ไม่เคยออกมาขอโทษหรือยอมรับผิด แล้วยังไปนั่งเป็น ส.ว.

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 10 มี.ค. 2566 ข่าวสดออนไลน์ จัดรายการ “ข่าวจบ คนไม่จบ” ดำเนินรายการโดย อั๋น ภูวนาท คุนผลิน และแขก ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำ ผกา ในหัวข้อ “มหากาพย์ GT200 ป.ป.ช.ฟ้อง ‘หมอพรทิพย์’ คดีจัดซื้อ โอดโดนคนเดียว แต่ทหารรอด”

คำผกา กล่าวว่า ปี 2544 บริษัทโกลบอลเทคนิคอลฯ จากประเทศอังกฤษ ผลิตเครื่องตรวจสสารจากระยะไกลหรือ GT200 ออกมาวางขาย อวดอ้างว่าเครื่องนี้ใช้ระบบแม่เหล็กชั้นสูง ตรวจจับได้ว่าระเบิดอยู่ตรงไหน ยืนอยู่ไกลมากก็สามารถตรวจได้ นอกจากนี้ยังตรวจยาเสพติด ยาสูบ กระสุนปืน หรือของผิดกฎหมายอื่นๆ

คำผกา กล่าวอีกว่า เมื่อจ่ายเงินซื้อมาแล้วจะได้ GT200 ทำจากพลาสติก บนตัวเครื่องจะมีช่องให้เสียบเซ็นเซอร์การ์ด ถ้าอยากตรวจระเบิดก็ใส่การ์ดตรวจระเบิด ถ้าอยากตรวจยาเสพติดก็ใส่การ์ดตรวจยาเสพติด บริษัทผู้ผลิตยังอ้างว่าตัวเครื่องสามารถดึงพลังงานไฟฟ้าสถิตจากผู้ถืออุปกรณ์ จึงสามารถใช้งานต่อไปได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องชาร์จไฟ ซึ่งมีหลายประเทศซื้อไป ทั้งเม็กซิโก ฟิลิปปินส์

คำผกา กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ปี 2548 ประเทศไทย โดยกองทัพเรือ กองทัพบก สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซื้อไปทั้งหมด 1,398 เครื่อง ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินไป 1,134 ล้านบาท แต่ในปีเดียวกัน กรมศุลกากร จัดซื้อได้ในราคาเครื่องละ 420,000 บาท แต่กองทัพเรือ ซื้อเครื่องละ 1.2 ล้านบาท

คำผกา กล่าวต่อว่า หลังจากใช้กันมาสักพัก เริ่มมีนักวิทยาศาสตร์สงสัยว่า มีเครื่องออลอินวันแบบนี้ในโลกด้วยหรือ เป็นวัตถุลวงโลกหรือไม่ หากนำไปใช้แล้วเป็นเครื่องปลอมหรือเป็นไม้ล้างป่าช้า เขาต้องเหยียบระเบิดตาย ใครจะรับผิดชอบ

“เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นที่ จ.นราธิวาส ครั้งหนึ่ง และที่ จ.ยะลา เมื่อปี 2552 ทหารใช้ GT200 ตรวจพื้นที่แล้วไม่พบว่ามีระเบิด แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นเกิดระเบิดและมีผู้เสียชีวิต แม้จะมีข้อผิดพลาด แต่กองทัพบกก็ออกมายืนยันว่าเครื่องนี้ใช้ได้จริง”

คำผกา กล่าวอีกว่า คุณพรทิพย์ที่ขณะนั้นเป็น ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ก็บอกว่า มันใช้ได้จริง คนไทยชอบเต้นตามกระแส ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขา การจะทำงานจะใช้เครื่องมืออะไร คิดว่าพวกนักวิทยาศาสตร์คือพวกหมอทหารนี่โง่นักหรือที่จะใช้เครื่องมือโดยที่ไม่ดูว่าเครื่องมันจะทำอะไรก็ได้

“GT200 คือเครื่องตรวจสอบหาสารวัตถุระเบิดที่ผลิตในต่างประเทศ มีความสามารถในการค้นหาวัตถุระเบิดได้ดียอดเยี่ยมอันดับต้นๆ ของโลก โดยใช้แค่หลักการค้นหาสนามแม่เหล็ก สามารถตรวจวัตถุระเบิดทั้งอากาศ บนดิน ใต้ดิน หรือกระทั่งใต้น้ำ นี่คือสิ่งที่คุณพรทิพย์พูด ต่อมาปี 2553 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้สั่งให้ทำการทดสอบ ปรากฏว่ามันถูกแค่ 20%” คำผกา กล่าว

อั๋น กล่าวเสริมว่า ตนดูการทดสอบครั้งนั้นด้วย เขามีการเอาระเบิดไปซ่อน แล้วดูว่าเครื่องจะชี้ไปไหน โดยทดสอบจำนวน 20 ครั้ง เจอแค่ 4 ครั้ง มีค่าเท่ากับการเดา

คำผกา กล่าวต่อว่า พอแกะเครื่องพบว่าเป็นแค่พลาสติกธรรมดาและเสาอากาศ 1 อัน ไม่มีเทคโนโลยีอะไรอยู่ในนั้นเลย แล้วคำว่าไม้ล้างป่าช้าก็ถือกำเนิดขึ้น หลังจากนั้นประเทศไทยก็เลิกใช้ GT200 ไป 3 ปี กระทั่งปี 2556 แกรี่ โบลตัน เจ้าของบริษัท GT200 โดนยึดทัพย์ 395 ล้านบาท

คำผกา กล่าวอีกว่า ตนอยากถามง่ายๆ ว่าตั้งแต่ปี 2556 ทั้งขบวนที่มายืนยันว่า GT200 มันดีมันใช้ได้จริง ควรจะเข้าคุกกันไปตั้งนานแล้ว ไม่ใช่รอจนถึงทุกวันนี้ อย่างที่หมอพรทิพย์พูดก็ถูกว่าไม่ควรโดนคนเดียว ตอนนั้นทั้ง เสธ.ไก่อู ก็อยู่ในกระบวนการนี้ ทุกคนออกมาช่วยกันปกป้องเครื่องนี้

คำผกา กล่าวต่อว่า โฆษกกระทรวงกลาโหม พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ ก็บอกว่า กองทัพบกได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทแล้ว หลังทำการตรวจ 757 เครื่อง และมีการตั้งราคาค่าตรวจเครื่องละ 1 หมื่นบาท โดยอ้างว่าจะไปฟ้องบริษัทนี้บ้าง

“มหากาพย์ GT200 ไม่มีคำว่าละอาย ไม่มีคำว่าสลด คิดดูว่าคุณพรทิพย์รู้อยู่เต็มอกนับตั้งแต่ปีที่อาจารย์เจษฎาตรวจ แล้วเจอว่ามีต้นทุนผลิตแค่เครื่องละ 300 บาท แต่คุณพรทิพย์ไม่เคยออกมาขอโทษหรือยอมรับผิด แล้วไปนั่งเป็นวุฒิสมาชิกผู้ทรงเกียรติ คนเหล่านี้ลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมไทยนานเกินไป”

คำผกา กล่าวอีกว่า ถ้าวันนี้คุณพรทิพย์จะโดนกลั่นแกล้งทางการเมืองจากเรื่องนี้ ก็ได้แต่บอกว่าช่วยไม่ได้ ตอนนี้คุณพรทิพย์มีหน้าที่ต้องลากคนอื่นมาโดนลงโทษด้วย คุณจะยอมถูกลงโทษคนเดียว หรือจะเอาทั้งยวงที่สมรู้ร่วมคิดทำด้วยกันมาโดนด้วยหรือไม่

คำผกา กล่าวต่อว่า พวกคุณไปด่าคนที่ทักท้วง ดันทุรังใช้จนมีคนตาย ตนถามว่า แล้วใน อ.บันนังสตา จ.ยะลา มีผู้ได้รับผลกระทบจาก GT200 อย่างน้อย 4 ราย ที่ถูกออกหมายจับและดำเนินคดี เพราะเครื่องไปชี้ว่าบ้านเขามีระเบิด เขาทักกันมาตั้งแต่ปี 2553

คำผกา กล่าวอีกว่า ปี 2554 คุณอภิสิทธิ์สั่งให้ตรวจ ณ วันนั้นพวกคุณต้องเรียกประชุมกันให้หมด ทั้งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก กองทัพเรือ แล้วยอมรับว่าโดนหลอก ขอโทษประชาชน และรีบฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทร่วมกับศาลที่อังกฤษ ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว จากนั้นก็เอาเงินค่าเสียหายที่ฟ้องชนะ มาให้กับคนที่ได้รับผลกระทบ แล้วทุกคนก็ออกมาขอโทษผ่านสื่อ

อั๋น กล่าวเสริมว่า ตนคิดว่าเขาทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะการซื้ออาจจะไม่ได้ใสสะอาด พอฟ้องแล้ว เงินที่ชดใช้มาอาจจะบ่งบอกว่ามูลค่าจริงอยู่ที่เท่าไร แล้วแต่ละหน่วยงานทำไมถึงซื้อในราคาขนาดนั้น อาจจะถูกถอนรากถอนโคนทั้งหมดว่า ราคาที่ซื้อมาผิดปกติอย่างไร รวมถึงมันกระจายเคสนี้ไปตามที่ต่างๆ แล้วมีผู้เกี่ยวข้องในขบวนการนี้เยอะเกินไปกับการมีส่วนได้ส่วนเสียหรือไม่ เพราะอีกหน่วยงานซื้อ 4 แสนบาท แต่อีกหน่วยงานซื้อ 1.2 ล้านบาท

อั๋น กล่าวต่อว่า ในปีนั้นตนเป็นผู้ประกาศข่าวอยู่ที่ ททบ.5 แล้วทำรายการสด ด้วยความใสซื่อ ถือเรื่องนั้นเดินเข้าไป เพราะเป็นข่าวใหญ่มาก แต่ขณะอ่านข่าว สิ่งที่เกิดขึ้นคือตนถูกดึงออกจากห้องออกอากาศทันทีกลางรายการ แต่ไม่มีใครทำร้ายร่างกายหรือด่า มีคนในเครื่องแบบประมาณ 10 กว่าคนวิ่งเข้ามาในสตูดิโอ แล้วชี้มาที่ตน แต่ตนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะไม่มีใครแจ้ง ตนจึงรีบปิดเบรกรายการให้เร็วที่สุด แล้วเอาคนอื่นขึ้นมาอ่านข่าวแทน ตนจึงไปถามว่ามีเรื่องอะไร เขาบอกว่าห้ามอ่านข่าวเรื่องนี้อีก

อั๋น กล่าวอีกว่า ในยุคนั้นไม่มีโซเชียลมีเดีย แล้วไม่มีรายการไลฟ์แบบนี้ นี่คือสิ่งที่สำคัญและเป็นความหวังเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเขาไม่สามารถห้ามเราพูดได้ ถ้ามั่นใจว่าคือความจริง แล้วเรามีข้อมูลชัดเจน ในยุคปัจจุบันมันห้ามไม่ได้ ทีวีอาจจะพอห้ามได้บ้าง แต่คุณจะไล่ห้ามรายการออนไลน์ทั้งหมด ทำไม่ได้แล้ว แต่สำนักข่าวก็ต้องร่วมกันตรวจสอบเพื่อให้ข่าวน่าเชื่อถือ