คำผกาย้ำ ไม่ควรกลัวกัญชาเกินเหตุ ชี้สังคมไทยตั้งแง่คำว่าเสรี วอนถกด้วยความรู้ สื่อควรตั้งโต๊ะกัญชา นำเสนอแง่มุมต่างๆ ให้คนเข้าใจมากขึ้น
วันที่ 14 มิ.ย.2565 ข่าวจบ คนไม่จบ! วิเคราะห์เจาะลึก ถึงพริกถึงขิง จากมุมมอง “อั๋น ภูวนาท x แขก คำผกา” กับ 3 ประเด็นร้อน ดราม่ารับผู้ว่าคนใหม่ ,เกิดอะไรเมื่อประเทศไทย ปลดล็อกกัญชาเสรี และ ล่าคู่รักสยิวโอลี่แฟน? โดยพิธีกรคืออั๋น-ภูวนาท คุนผลิน และคำผกา ลักขณา ปันวิชัย สำหรับเรื่องกัญชาเสรีนั้น หลังมีกระแสเห่อและกลัวในสังคมไทยเวลานี้ เพราะมีการขายกันอย่างโจ๋งครึ้ม ทางอั๋น-ภูวนาทเผยว่า กัญชาเสรีในไทยนั้น เสรีมาก จนไม่มีอะไรมาจำกัดเลย
ด้านคำผกาเผยว่า ตนเสนอให้มีการตั้งโต๊ะข่าวกัญชาเพื่อนำเสนอเรื่องนี้ ที่ผ่านมาตนอยู่ฝ่ายคนที่ผลักดันให้กัญชาเสรีมาโดยตลอด ตนเคยขับเคลื่อนนำเสนอประเด็นกัญชาถูกกฎหมายในประเทศต่างๆ มาอย่างยาวนาน ที่ผ่านมาสังคมไทยค่อนข้างกลัวกับคำว่าเสรี เราไม่เคยเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมชาติกันและกันเลย ไปมองว่าเสรีแล้ว จะมีใครเสพกัญชาจนตาย
อย่างไรก็ดีตนไม่ได้หมายความว่ากัญชาเสรีนี้ จะสมบูรณ์แบบ ตอนนี้อยากให้สังคมหยุดตระหนก ทั้งเห่อและกลัวเกินเหตุ ต้องวางทิ้งไว้ก่อน และมานั่งตั้งหลัก ขับเคลื่อนกันด้วยความรู้จะดีกว่า สำหรับการขับเคลื่อนด้วยความรู้นี้ ไม่ใช่การถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุขว่าต้องทำอย่างไรเรื่องกัญชา การไปถามรมว.นั้น ควรจะถามเรื่องนโยบาย หรือวิสัยทัศน์มากกว่า
ในเรื่องกัญชาเสรีนี้ ข้อแรก สื่อมวลชนควรจะมีโต๊ะข่าวกัญชาได้แล้ว เหมือนมีโต๊ะข่าวกีฬา เราดูกีฬาวอลเลย์บอล กีฬายิมนาสติกไม่เป็น แต่มีคนพากย์ให้ความรู้กับเราว่ามันให้คะแนนกันอย่างไร เราควรมีนักข่าวที่ให้ความรู้แก่พวกเรา ตนฝากความหวังกับสื่อ โต๊ะข่าวกัญชาควรใช้ตรวจสอบนโยบายรัฐ และนำเสนอข่าวภาคประชาสังคม ร่วมมือกับโต๊ะข่าวเศรษฐกิจ โต๊ะข่าวนวัตกรรม ว่ามีงานวิจัยเกี่ยวกับกัญชาใดบ้าง มีการดูสินค้าเกี่ยวกับกัญชาว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง
โต๊ะข่าวกัญชาต้องไปดูว่าสินค้าที่อ้างว่ามีกัญชา แต่จริง ๆ แล้วหลอกขายผู้บริโภคหรือไม่ เอาเรื่องกัญชามาประมวล ดูงานวิจัยต่างประเทศ ติดตามกฎหมายลูก ดูว่ากัญชาเป็นยา กับกัญชาที่ใช้ด้านอื่น กัญชาที่ใช้ภายนอก เอามาทา กับกัญชาที่ดื่มกิน มาดูว่ามันต้องมีขั้นตอนแตกต่างกันอย่างไร กัญชาที่ใช้เสพ มันต้องเก็บภาษีสรรพสามิตหรือไม่
สิ่งนี้คือความรู้ ให้คนเข้าใจ ตอนนี้ภาครัฐ มีคณะกรรมการศึกษาในกรรมาธิการ มีนายศุภชัย ใจสมุทร จากพรรคภูมิใจไทยเป็นคนดูแล มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มาคุย แต่ระหว่างที่กฎหมายลูกยังไม่ออก ไม่ได้หมายความว่าสื่อจะไปคุยนำเสนอเรื่องนี้ไม่ได้ มันมีเรื่องราวทั้งอุปกรณ์เสพกัญชา มันเป็นอย่างไรบ้างในปัจจุบัน
สิ่งสำคัญคือถ้าอายุ 18 ปี ซื้อบุหรี่เหล้าไม่ได้ ก็ไม่ควรซื้อกัญชาได้ ในโลกนี้ กฎหมายกัญชามี 4 ประเภท 1.กัญชาถูกกฎหมายใช้สันทนาการได้เสรี 2.กัญชาผิดกฎหมาย อนุญาตให้ใช้ได้ตามกรอบกฎหมาย และต้องขออนุญาตเป็นเรื่องๆ ไป 3. กัญชาผิดกฎหมาย แต่อนุญาตให้ใช้ศึกษาวิจัยบำบัดได้ 4.ห้ามใช้กัญชาใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มแรก
เราเข้าใจว่าในไทยจะมีพวกอนุรักษนิยม ที่เชื่อว่าเพื่อนร่วมชาติไม่มีสมองคิดอะไรได้ แต่ขอยืนยันว่าเราไม่ได้เป็นประเทศเดียวในโลกที่เป็นแบบนี้ อย่างในเม็กซิโก สูบได้ไม่เกิน 5 กรัม ต้องสูบในชายหาดที่เขาจัดไว้ให้ หากปลูกขาย จะผิดกฎหมาย ประเทศจาไมกาไม่มีข้อจำกัดเลย ส่วนโคลัมเบียได้ 20 กรัม แต่ห้ามปลูกขาย
ทั้งนี้อย่างในสหรัฐอเมริกา แต่ละรัฐบังคับใช้กัญชาไม่เหมือนกัน บางรัฐก็ผิดกฎหมาย กัมพูชา กัญชาผิดกฎหมาย แต่เอาผสมอาหารได้ คนกินก็ไม่รู้ สเปนสูบในบ้านและคลับได้ สวิสเซอร์แลนด์ ต้องอายุ 18 ปีถึงจะสูบได้ และมีได้แค่ 10 กรัม ไม่อย่างนั้นจะโดนปรับ สิ่งเหล่านี้คือตัวอย่างที่แต่ละประเทศก็จะมีรายละเอียดย่อยๆ แตกต่างกันไป
ทางอั๋น-ภูวนาถ เผยว่า กัญชาเป็นสิ่งต้องห้าม มันดูดึงดูดเย้ายวนเกินจริงอยู่ แต่อีกด้านก็อันตราย มีคนเมาทำอะไรขาดสติ ถ้าเราควบคุมตัวเองไม่เป็น ตนเห็นข้อดีข้อเสีย ก็เลยนั่งเงียบๆ เพื่อพิจารณาก่อน โดยได้คุยกับนักวิชาการเผยว่า คนยังแยกกัญชากับกัญชงไม่ออก เพราะมองด้วยตาเปล่าก็แยกไม่ได้ สิ่งที่จะตอบได้ ต้องวัดด้วยปริมาณ THC เท่านั้น ถ้าค่าสูงก็บอกคุณภาพของสายพันธุ์
คนอาจจะไปแย้งว่าให้ดูใบ แต่มันมีการข้ามสายพันธุ์กันมา กัญชงจะมี CBD ใช้ในการแพทย์ได้ ส่วนTHC บางส่วนใช้ในการแพทย์ได้เหมือนกัน แต่ทำให้เราเสพติดได้ จึงต้องควบคุม แต่ก็มีประโยชน์หากเราใช้มัน
คำผกาเผยว่า ค่าTHC ต้องไม่เกิน 0.2% ซึ่งสารตัวนี้มีผลต่อสมอง ทำให้เมาและติดได้ มีผลให้คิดอ่านช้าลง ความกลัวของตน คือคนไปซื้อกัญชามา แต่ได้กัญชงมาแทน ซึ่งโต๊ะข่าวกัญชา นักข่าวควรจะมีการอัพเดทสายพันธุ์ที่ดี คนยกย่องเยอะ มีคุณสมบัติเอาไปทำอะไร ใครบ้างมีสิทธิ์ไปสกัดใช้ในการแพทย์ได้ ตอนนี้ยังไม่เห็นบทบาทด้านนี้ ที่เชื่อมหน่วยงานอื่นๆ เท่าใดนัก หรือใครมีสิทธิ์ขาย ขายให้ใครได้บ้าง เหมือนยาทั่วไปก็มีกำหนดข้อจำกัดกฎเกณฑ์ ซึ่งควรเอามาใช้ในธุรกิจกัญชาด้วย
“ส่วนที่คนกังวลว่าไปกินก๋วยเตี๋ยวใส่กัญชาว่าเราจะตายไหม ต้องขอเตือนว่าดอกกัญชา มูลค่าสูงมากเป็นแสน ไม่มีใครใส่ให้เพิ่มต้นทุนแน่นอน”
กัญชานั้น ไม่อาจบอกได้ว่ากินปริมาณเท่านี้เมา หรือหลอน มันไม่เหมือนกัน ไม่เหมือนเหล้า ที่มีดีกรีวัดไม่ยากว่าจุดไหนจะเมา แต่กัญชาเป็นสารสื่อประสาท มันอยู่ที่แต่ละคน เหมือนคลื่นวิทยุจูนหาไม่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าปริมาณเท่านี้ทำให้เรายิ้ม แต่คนอื่นอาจจะเป็นบ้าก็ได้ ดังนั้นการใช้จึงต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งกัญชาที่มีสาร THC คุณภาพสูงนั้น แพงมาก
คนที่ตายจากกัญชานั้น อาจจะเสียชีวิตจากยาฆ่าแมลงก็เป็นได้ เพราะกัญชาคุณภาพสูง ดินยังต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้นในไทย กัญชาดีจึงมีอยู่ไม่กี่คนที่มีครอบครอง ดินที่ปลูกกัญชาต้องไม่มีสารปนเปื้อนเลย จึงจะทำให้กัญชาได้คุณภาพ ก็ต้องมีหน่วยงานไปดูว่า กัญชาที่เอามาขาย มีปริมาณยาฆ่าแมลงสูงไปไหม
ดังนั้นการกลัวกัญชาเกินไป มันไม่ได้ไปด้วยองค์ความรู้ ดังนั้นจึงต้องรณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจ เมื่อคนเข้าใจกันมากขึ้น ก็จะแสดงความเห็นอย่างถ่องแท้ ย้ำว่าทุกอย่างในโลกมีข้อดีและโทษได้ ทุกอย่างมากไป ก็มีข้อเสีย ไม่ใช่แค่กัญชาเท่านั้น
“จุดนี้ก็เดินหน้าเพื่อให้สมดุล มีอะไรรองรับ ซึ่งต้องเกิดขึ้นเร็วมากพอ แล้ววิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเข้าใจ ขออย่าตกใจกับคำว่าเสรี มองมันอย่างผู้ใหญ่ “