คู่สมรสที่กำลังวางแผนมีบุตร แต่พบว่าตัวเองเสี่ยงที่จะมีบุตรยาก การทำเด็กหลอดแก้วเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในคนที่เคยทำ IVF มาแล้วแต่ไม่สำเร็จ ICSI คืออีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด และสิ่งที่ควรรู้ก่อนทำ ICSI ก็มีหลายเรื่องด้วยกัน ทั้งนี้ทางบทความได้รวบรวมมาให้แล้ว ดังนี้
การเตรียมตัวทำ ICSI
สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำ ICSI ประการแรกก็คือการเตรียมตัว ทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อคุณภาพของไข่และสเปิร์ม ช่วยเพิ่มโอกาสให้การทำ ICSI สำเร็จ ดังนี้
การเตรียมตัวของฝ่ายหญิง
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 3 เดือน ก่อนการทำ ICSI (รวมถึงหลีกเลี่ยงควันบุหรี่)
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 เดือน ก่อนการทำ ICSI
- งดมีเพศสัมพันธ์ก่อนการเก็บไข่ประมาณ 3 วัน
- ควบคุมปริมาณการดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนไม่ให้เกิน 2 แก้วต่อวัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานโปรตีนอย่างน้อยวันละ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพื่อบำรุงไข่
- หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและอาหารที่มีน้ำตาลสูง
- ดื่มน้ำอย่างน้อย 1.5-2 ลิตร/วัน
- หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียด
การเตรียมตัวของฝ่ายชาย
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 3 เดือน ก่อนการทำ ICSI (รวมถึงหลีกเลี่ยงควันบุหรี่)
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 เดือน ก่อนการทำ ICSI
- รับประทานอาหารที่มีไลโคปีนและเบตาแคโรทีน รวมถึงกลุ่มโปรตีน เพื่อบำรุงอสุจิ
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เพราะอาจทำให้จำนวนและคุณภาพของอสุจิลดลง
- ควบคุมปริมาณการดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนไม่ให้เกิน 2 แก้วต่อวัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- งดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนการเก็บอสุจิ 3-4 วัน
- หลีกเลี่ยงการแช่น้ำอุ่นและทำซาวน่า เพราะความร้อนทำลายอสุจิ
- ไม่สวมกางเกงชั้นในที่รัดแน่นเกินไป
- หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียด
การเตรียมตัวถือเป็นสิ่งที่ควรรู้ก่อนทำ ICSI ที่ค่อนข้างสำคัญ เพราะการเตรียมตัวให้พร้อม ช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการทำ ICSI ให้สูงขึ้น
ขั้นตอนการทำ ICSI อย่างละเอียด สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำ ICSI ถัดมาคือขั้นตอนการทำ ICSI โดยข้อมูลตรงนี้จะกล่าวโดยละเอียด ดังนี้
1.ฉีดกระตุ้นไข่
ขั้นตอนแรกในการทำ ICSI คือการฉีดกระตุ้นไข่ แพทย์จะทำการฉีดยากระตุ้นไข่บริเวณหน้าท้อง ใช้ปริมาณยาตามที่แพทย์วินิจฉัย ซึ่งตัวยาที่ฉีดเข้าไปจะกระตุ้นไข่ให้มีการเติบโต หลังจากนั้นเป็นเวลา 5-6 วัน แพทย์จะฉีดยาเพื่อชะลอไม่ให้ไข่ตกก่อนวันเก็บไข่ ระหว่างนั้นแพทย์ก็จะติดตามการเจริญเติบโตของไข่ เพื่อสังเกตขนาดไข่กระทั่งโตในขนาดที่เหมาะสม
2.เก็บไข่
เมื่อไข่มีขนาดตามต้องการแล้ว แพทย์จะเก็บไข่ด้วยการใช้เข็มดูดไข่จากช่องคลอด เพื่อนำมาทำการปฏิสนธิกับสเปิร์ม จากนั้นแพทย์จะฉีดฮอร์โมนเพิ่มความแข็งแรงของผนังมดลูกให้กับคนไข้เพื่อเตรียมผนังมดลูกให้รองรับทารกที่จะมาเจริญในครรภ์ต่อไป
3.เก็บน้ำเชื้อ
แพทย์จะให้ภาชนะสำหรับเก็บน้ำเชื้อกับฝ่ายชาย และมีพื้นที่รองรับสำหรับเก็บน้ำเชื้อโดยเฉพาะ ให้คนไข้ฝ่ายชายได้ทำการเก็บด้วยตัวเอง
4.ผสมเซลล์ไข่และอสุจิ
แพทย์หรือนักวิทยาศาสตร์จะทำการคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเพียงตัวเดียวมา และฉีดเข้าไปในเซลล์ไข่ ให้เกิดการปฏิสนธิกัน จากนั้นเฝ้าสังเกตการในห้องปฏิบัติการ กระทั่งเกิดเป็นตัวอ่อน โดยแพทย์หรือนักวิทยาศาสตร์จะควบคุมคุณภาพอย่างใกล้ชิด
5.ย้ายตัวอ่อน
เมื่อเซลล์ไข่และอสุจิปฏิสนธิกันจนกลายเป็นตัวอ่อนแล้ว แพทย์จะนำตัวอ่อนย้ายไปฝังตัวที่มดลูก ในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งการหาตำแหน่งที่ดีที่สุดจะใช้การอัลตราซาวด์ จากนั้นแพทย์จะสอดเครื่องมือไปที่ช่องคลอด เพื่อทำการฝังตัวอ่อนไว้ที่บริเวณนั้น
6.ตรวจการตั้งครรภ์
เมื่อย้ายตัวอ่อนเรียบร้อยแล้ว จะปล่อยให้ตัวอ่อนเจริญเติบโตเป็นทารกในครรภ์มารดาต่อไป โดยแพทย์จะทำการนัดตรวจการตั้งครรภ์หลังจากย้ายตัวอ่อนภายใน 7-14 วัน หากไม่พบการตั้งครรภ์ แพทย์จะวางแผนการรักษาต่อไป
การทำ ICSI ราคา
สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำ ICSI ถัดมาก็คือค่าใช้จ่าย เพื่อการเตรียมงบประมาณสำหรับคู่สมรสผู้มีบุตรยากที่อยากมีบุตรด้วยการทำ ICSI ราคาโดยเฉลี่ยนั้นอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแต่ละโรงพยาบาลมีอัตราค่ารักษาแตกต่างกัน และรายละเอียดในแพ็กเกจก็แตกต่างกัน บางแพ็คเกจเป็นราคารวมฝากไข่และย้ายตัวอ่อน บางแพ็กเกจอาจครอบคลุมเพียงหัตถการในการผสมไข่กับอสุจิเท่านั้น
การทำ ICSI ข้อดี VS ข้อเสีย
สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำ ICSI อีกหนึ่งเรื่องคือข้อดีและข้อเสียของการทำ ICSI ที่สามารถสรุปได้ ดังนี้
ข้อดี
- เพิ่มโอกาสการมีบุตรได้มากกว่าการทำ IVF และ IUI
- สามารถตรวจโครโมโซมตัวอ่อนได้ ช่วยป้องกันความผิดปกติที่อาจเกิดกับทารกจากโครโมโซมที่ผิดปกติ และช่วยลดอัตราการแท้งในช่วง 3 เดือนแรก
- สามารถแช่แข็งตัวอ่อนได้นานกว่า 10 ปี ช่วยให้คู่สมรสมีบุตรได้ในเวลาที่ต้องการ
- ช่วยให้คู่สมรสที่ทำหมันไปแล้วสามารถมีบุตรได้อีกโดยไม่ต้องแก้หมัน
ข้อเสีย
- ราคาสูง
- เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์แฝด
- เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูก แต่ความเสี่ยงมีอัตราที่ต่ำมาก
ทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งที่ควรรู้ก่อนทำ ICSI ช่วยตอบคำถามยอดฮิตที่ถูกถามบ่อยในกลุ่มคนที่สนใจทำ ICSI หลัก ๆ เลย ผู้ที่กำลังจะเข้ารับการรักษาควรรู้เรื่องการเตรียมตัว เพื่อให้คู่สมรสสามารถเตรียมความพร้อมได้ถูกต้องก่อนการทำ ICSI ซึ่งการเตรียมตัวที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มคุณภาพให้เซลล์ไข่และอสุจิ จึงช่วยเพิ่มโอกาสการทำ ICSI ที่สำเร็จให้สูงขึ้น