คาเฟ่ไม่ยอม งัดดหลักฐาน โต้ลูกค้า ขู่ฟ้องโดนแมวกัด ไร้ความรับผิดชอบ!?

Home » คาเฟ่ไม่ยอม งัดดหลักฐาน โต้ลูกค้า ขู่ฟ้องโดนแมวกัด ไร้ความรับผิดชอบ!?
คาเฟ่ไม่ยอม งัดดหลักฐาน โต้ลูกค้า ขู่ฟ้องโดนแมวกัด ไร้ความรับผิดชอบ!?

ความจริงอีกมุม

อย่าเพิ่งตัดสิน!? ร้านคาเฟ่ดัง งัดหลักฐาน โต้ลูกค้าสาว อ้างโดนแมวกัด ขู๋ฟ้องเรียกค่าเสียหาย ชี้แจงรายละเอียด ก่อนเข้าใช้บริการแล้ว

กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ทันที หลังจากที่คาเฟ่แมว โพสต์ข้อความระบุว่าลำดับเหตุการณ์คดีฟ้องร้องทางคาเฟ่แมว เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 โจทก์ได้มาที่คาเฟ่แมว เพื่อใช้บริการทางร้านจึงแจ้งโจทก์เกี่ยวกับข้อตกลงการใช้บริการ และแจ้งว่าแมวอาจกัดหรือข่วนได้ เมื่อแจ้งเงื่อนไขการใช้บริการเรียบร้อยแล้ว จึงให้โจทก์เข้าใช้บริการได้

ในวันเดียวกันนั้น ระหว่างที่โจทก์ใช้บริการคาเฟ่อยู่ที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นส่วนที่ทางคาเฟ่ใช้เป็นห้องแมว โจทก์ได้ทำการเล่นกับแมวชื่อเรนะ แมวสีส้ม เรนะได้ขึ้นไปบนกระโปรงของโจก์ และมีการกัดกระโปรงของโจทก์เล่น หลังจากนั้นโจทก์ได้ใช้กระโปรงในการเล่นกับเรนะ แต่เกิดความผิดพลาดทำให้ถูกเรนะกัดที่กระโปรง

หลังจากที่โจทก์ถูกแมวกัด โจทก์ได้เดินลงมาที่ชั้น 1 เพื่อแจ้งกับพนักงานว่าได้รับบาดเจ็บจากการถูกแมวกัด พนักงานจึงได้ทำการปฐมพยาบาลทันที ด้วยการทายาล้างแผลและติดพลาสเตอร์ให้กับโจทก์  และทางพนักงานได้แจ้งกับโจทก์ว่าแมวทุกตัวของทางร้านมีการฉีดวัคซีนกันพิษสุนัขบ้าและวัคซีนอื่น ๆ อย่างครบถ้วนแก่โจทก์

093943
  • หดหู่! รุ่นพี่ วัย 12 ลวงเด็กชาย 7 ขวบ – เด็กหญิง 5 ขวบ มีเซ็กส์แลกขนม

หลังจากที่พนักงานร้านได้ทำการปฐมพยาบาลให้โจทก์เสร็จแล้ว โจทก์ได้ทำการยืมผ้ากันเปื้อนจากทางร้านเพื่อไปเล่นกับเเมวที่ชั้น 3 อีกเป็นเวลาประมาณ 50 นาที จากนั้นเมื่อโจทก์ใช้บริการเสร็จ โจทก์เดินลงมาที่ชั้น 1 เพื่อทำการจ่ายเงินกับเจ้าของร้านซึ่งเป็นจำเลย และจำเลยได้มีการถามโจทก์ว่าถูกกัดมาหรือเปล่า โจทก์ได้แจ้งว่าแมวอาจจะคิดว่ากระโปรงคือทิชชู่จึงกัด หลังจากนั้นโจทก์ได้ทำการชำระค่าใช้บริการ และออกจากร้านไป

ภายในวันเดียวกันเวลา 17.00 น. นั้นโจทก์ได้โทรติดต่อเข้ามาที่ร้านและถามว่า แมวได้มีการฉีดวัคซีนหรือไม่และมีใบรับรองการฉีดวัคซีนหรือไม่ ซึ่งจำเลยได้ตอบว่ามีการฉีดวัคซีน และมีใบรับรอง

094018
  • หมาจร 8 ชีวิต สู่ครอบครัว K9 ยังปรับตัวไม่ได้ ครูฝึกคาด น้องคิดถึงเจ้าของ

ในวันที่ 12  กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 19.16 น. โจทก์ได้มีการส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่น Instagram มาที่กล่องข้อความของทางร้าน และบอกให้ทางร้านตอบกลับภายในเวลา 1 วัน แต่จำเลยไม่ได้ตอบกลับในเวลาที่โจทก์ต้องการ เนื่องจากจำเลยไม่ได้ตั้งค่าการแจ้งเตือนของแอพพลิเคชั่นดังกล่าวเอาไว้ จึงถูกโจทก์ตำหนิว่าละเลย และไม่มีความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น

ต่อมาวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการโทรติดต่อมาที่ร้าน และแจ้งว่าโจทก์ต้องการดำเนินคดีกับจำเลย โดยโจทก์ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเจ้าของร้านไม่ตอบกลับข้อความในแอพพลิเคชั่น Instagram และข้อความในเพจเฟซบุ๊กของคาเฟ่แมว รวมถึงมีการโทรติดต่อมาที่ร้านแล้วแต่กลับถูกจำเลยละเลย  แต่ในความเป็นจริงโจทก์ส่งข้อความมาแค่ในแอพพลิเคชั่น Instagram เพียงที่เดียวเท่านั้น และยังโทรติดต่อเข้ามาหาจำเลยในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 เพียงครั้งเดียว

094136
  • คลอดลูกพิการ! แม่ร้อง รพ.ดัง ทำคลอดผิดพลาด ไม่ผ่าคลอดตามคำขอ

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งจำเลยว่าให้ไปที่สถานีตำรวจในวันที่ 18 กุมภาพัน์ 2567 ทันที แต่เนื่องด้วยจำเลยไม่สะดวกที่จะไปพบตำรวจในวันและเวลาดังกล่าว เนื่องจากเป็นวันที่ร้านมีลูกค้าเยอะที่สุด จำเลยจึงไม่ได้ออกจากร้านไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่จำเลยได้แจ้งเจ้าหน้าตำรวจที่สถานีตำรวจบางรักว่า ให้มาที่ร้านที่เกิดเหตุได้หรือไม่ เพราะอยู่ห่างเพียง 240 เมตรจากสถานี แต่ถูกปฏิเสธ จำเลยจึงขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อกลับ แต่ก็ถูกโจทก์ปฏิเสธเช่นกัน

หลังจากได้วางสายโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 แล้ว จำเลยได้เข้าแอพพลิเคชั่น Instagram เพื่อทำการอ่านข้อความของโจทก์ และตอบข้อความของโจทก์ทันที และโจทก์กล่าวว่า ‘ไม่ต้องขอโทษแล้ว มันสายไปแล้ว’

ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 จำเลยได้รับหมายศาลจากกรณีที่เกิดขึ้น จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อชี้แจงต่อศาล หลังจากนั้น ทางร้านได้อัพเดตเรื่องราวเพิ่มเติมว่า

1. **สถานะโจทก์และจำเลย**

– โจทก์เป็นผู้รับบริการและผู้บริโภค

– จำเลยเป็นบริษัทจำกัดที่ดำเนินกิจการคาเฟ่, ร้านกาแฟ และเบเกอรี่

2. **เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น**

– วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 โจทก์เข้าใช้บริการที่ คาเฟ่ และถูกแมวกัดและข่วน

– โจทก์มีโรคประจำตัวที่ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บในทันที

– จำเลยไม่ได้แสดงความเป็นห่วงหรือขอโทษโจทก์

– โจทก์ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาแผลและฉีดวัคซีน

3. **การเจรจากับจำเลย**

– โจทก์ได้ติดต่อจำเลยผ่านทาง Instagram, Facebook และโทรศัพท์ แต่ไม่ได้รับคำตอบหรือคำขอโทษใดๆ จากจำเลย

– โจทก์แจ้งความที่สถานีตำรวจแต่จำเลยเพิกเฉยและไม่ยอมเจรจา

4. **ความเสียหาย**

– โจทก์เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าเดินทาง และค่าเสียเวลา รวมเป็นเงิน 25,000 บาท

5. **การฟ้องร้อง**

– โจทก์ต้องการให้ศาลบังคับจำเลยชำระค่าเสียหายรวม 25,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 5% ต่อปี โจทก์ต้องการให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเนื่องจากการละเมิดสิทธิและเพิกเฉยต่อการเจรจา

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ