คองเกรสสหรัฐ – วันที่ 6 พ.ย. บีบีซี รายงานว่า รัฐสภาสหรัฐอเมริกาผ่านร่างกฎหมายงานสาธารณะที่ใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานครั้งประวัติศาสตร์ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (33 ล้านล้านบาท) ด้วยมติสภาผู้แทนราษฎร 228-206 และในจำนวน 228 คน มีส.ส.รีพับลิกัน 13 คน.
นับเป็นชัยชนะภายในประเทศครั้งยิ่งใหญ่ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และตอนนี้แพ็กเกจโครงสร้างพื้นฐานรอให้ผู้นำสหรัฐลงนามเป็นกฎหมาย.
กฎหมายโครงสร้างพื้นฐานมีการอธิบายว่าเป็นมาตรการใช้จ่ายที่ “จบในรุ่นเดียว” (once in a generation) โดยเสนอของบประมาณ 550 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (18 ล้านล้านบาท) ในรายจ่ายของรัฐบาลกลางใหม่ ในอีก 8 ปีข้างหน้า เพื่อยกระดับทางหลวง ถนน สะพาน และปรับปรุงระบบขนส่งมวลชนในเมืองและเครือข่ายรถไฟสำหรับผู้โดยสารให้ทันสมัย.
ข้อตกลงดังกล่าวยังกันเงินทุนสำหรับน้ำดื่มสะอาด อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และโครงข่ายจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศ. นับเป็นการลงทุนจากรัฐบาลกลางครั้งใหญ่ที่สุดในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศมในรอบหลายทศวรรษ.
“คืนนี้เราก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่ในฐานะประเทศชาติ หลายรุ่นต่อจากนี้ไป คนจะมองย้อนกลับไปและรู้ว่านี่คือตอนที่อเมริกาชนะการแข่งขันทางเศรษฐกิจสำหรับศตวรรษที่ 21” นายไบเดนกล่าวในแถลงการณ์เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 5 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น.
ข้อตกลงดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินในหลายด้าน รวมถึงกองทุนบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินที่ยังไม่ได้ใช้จากการระบาดใหญ่ของโควิด.
การผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวนับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่สำหรับฝ่ายบริหารของนายไบเดน แม้ว่าสัดส่วนของมติเห็นชอบจะค่อนข้างต่ำ ท่ามกลางความแตกแยกในหมู่พรรคเดโมแครต เนื่องจากส.ส.เดโมแครต 6 คน ที่รวมกลุ่มในชื่อเดอะ สคว็อด (The Squad) ซึ่งเป็นฝ่ายซ้ายและหัวก้าวหน้าที่สุดของสภาผู้แทนราษฎร และเป็นสมาชิกในกลุ่มส.ส.หัวก้าวหน้าในคองเกรส (Congressional Progressive Caucus) คัดค้านร่างกฎหมายขั้นสุดท้าย
เดอะ สคว็อด กล่าวว่า นโยบายเสรีนิยมที่สำคัญถูกยกเลิกไปในร่างกฎหมายฉบับนี้เพื่อแลกกับชัยชนะของทั้งสองพรรคการเมือง. นอกจากนี้ Congressional Progressive Caucus ให้คำมั่นว่าจะไม่สนับสนุนร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐาน ก่อนจะถึงการมติในร่างกฎหมายสวัสดิการสังคมอีกฉบับต่างหาก
ร่างกฎหมายสวัสดิการสังคมจัดสรรงบประมาณ 1.75 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (58 ล้านล้านบาท) สำหรับโครงการด้านสุขภาพ การศึกษา และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยส.ส.หัวก้าวหน้าให้การสนับสนุน แต่ส.ส.เดโมแครตสายกลางยังคัดค้านจำนวนงบประมาณและขอบเขตของร่างกฎหมายที่ครอบคลุมกว้างออกไป โดยยืนกรานว่าจะต้องเห็นการทำบัญชีทั้งหมดเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ.
หากร่างกฎหมายสวัสดิการสังคมผ่านความเห็นชอบ จะนำไปสู่การขยายเครือข่ายความปลอดภัยของสหรัฐครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 50 ปี. ส่วนการรวบรวมการประเมินอย่างอิสระซึ่งงบประมาณทั้งหมดของร่างกฎหมายสวัสดิการสังคม คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อยสองสัปดาห์ แต่ผู้นำพรรคเดโมแครตมั่นใจว่าจะผ่านก่อนวันหยุดขอบคุณพระเจ้าปลายเดือนพ.ย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: วุฒิสภาสหรัฐฉลุยงบฯ “เยียวยาโควิด” 58 ล้านล้าน หลังถกเครียด 27 ชั่วโมง!
ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ 6 พ.ย.คองเกรสลงมติรอบแรกด้านกระบวนการปฏิบัติ (procedural vote) เพื่อเริ่มหารือร่างกฎหมายสวัสดิการสังคม ที่ 221-213.
พรรคเดโมแครตแม้จะควบคุมทั้งสองสภาแห่งคองเกรส แต่เสียงข้างมากปริมน้ำ จึงจำเป็นที่ส.ส.เดโมแครตจะต้องลงมติเกือบเป็นเอกฉันท์เพื่อผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้.