ความเชื่อที่ว่า หัวนมสีเข้ม สีคล้ำ ไม่อมชมพู เพราะถูกดูดบ่อยจริงหรือไม่?
เป็นที่ทราบกันดีว่าความเชื่อเรื่องสีของหัวนมที่เข้มขึ้นเกิดจากการดูดบ่อยๆ นั้นเป็นที่พูดถึงในสังคม และทำให้หลายคนเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงสีของหัวนมเกิดจากการกระทำทางกายภาพโดยตรง เช่น การสัมผัส การเสียดสี หรือการให้นมบุตร แต่ความเชื่อนี้มีความจริงอยู่มากน้อยแค่ไหนกันแน่?
การเปลี่ยนแปลงของสีหัวนม: เกิดจากอะไร?
ตามความเป็นจริง สีของหัวนมนั้นมีความหลากหลายตามธรรมชาติ ตั้งแต่สีชมพูอ่อนจนถึงสีน้ำตาลเข้ม ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม ฮอร์โมน หรืออายุ เมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ หรือช่วงตั้งครรภ์ ฮอร์โมนในร่างกายจะทำให้ผิวหนังในบางจุดมีการเปลี่ยนสี ซึ่งรวมถึงหัวนมด้วย นอกจากนี้ การผลิตเม็ดสี (melanin) ในร่างกายก็มีผลทำให้สีหัวนมเปลี่ยนไป
จากการศึกษาของ American Academy of Dermatology (AAD) พบว่า สีของหัวนมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จากการกระทำทางกายภาพ เช่น การดูด การสัมผัส หรือการเสียดสีเป็นเวลานาน การเปลี่ยนแปลงสีของหัวนมนั้นเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและพันธุกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยที่กำหนดสีผิวของบุคคลนั้นๆ อย่างถาวร
การศึกษาทางการแพทย์เพิ่มเติม
การวิจัยที่เผยแพร่ใน Journal of Clinical and Aesthetic Dermatology ชี้ว่า หัวนมของผู้หญิงจะมีการเปลี่ยนแปลงสีระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตรเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ร่างกายผลิตเม็ดสีเพิ่มขึ้นในบริเวณหัวนมและอวัยวะเพศ แต่หลังจากการคลอดบุตรและการให้นมเสร็จสิ้น สีของหัวนมก็อาจจะจางลงหรือเข้มขึ้นได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
การศึกษานี้เน้นย้ำว่าการดูดหัวนมไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้สีของหัวนมเข้มขึ้น นอกจากนี้ ยังพบว่าไม่มีความสัมพันธ์ทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ที่ยืนยันว่าการกระทำทางกายภาพจะทำให้สีของหัวนมเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร
จากการศึกษาทางการแพทย์ชั้นนำและงานวิจัยต่างๆ ยืนยันได้ว่าการที่หัวนมมีสีเข้มหรือคล้ำขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับการถูกดูดบ่อย แต่เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน พันธุกรรม และกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกาย ดังนั้น ความเชื่อที่ว่าสีหัวนมเปลี่ยนเพราะถูกดูดบ่อยจึงไม่มีมูลความจริงทางวิทยาศาสตร์
ผู้หญิงควรรู้สึกมั่นใจในความงามตามธรรมชาติของร่างกาย และอย่าให้ความเชื่อที่ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์มาทำให้รู้สึกกังวลต่อรูปลักษณ์ของตนเอง