เด็กหญิง 7 ขวบ ป่วยเป็นโรคตับแข็ง พ่อยอมกินแตงกวา 3 มื้อ เพื่อลดน้ำหนัก 15 กิโลกรัม บริจาคตับช่วยลูกสาว

เว็บไซต์ HK01 รายงานเรื่องราวของ เด็กหญิงชาวจีน วัย 7 ขวบ ที่เป็นโรคตับแข็ง และจำเป็นต้องผ่าตัดตับ ทำให้ผู้เป็นพ่อมุ่งมั่นลดน้ำหนัก 15 กิโลกรัม จนสามารถบริจาคตับและช่วยชีวิตลูกได้สำเร็จ 

ตามรายงานของสื่อจีน เด็กหญิงวัย 7 ขวบ จากเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประสบกับโรคตับแข็ง และต้องการการผ่าตัดปลูกถ่ายตับอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยชีวิตลูกสาว พ่อของเธอทานแค่แตงกวาทุกมื้อ และลดน้ำหนักได้ 15 กิโลกรัม เขากล่าวว่าได้รับหนังสือแจ้งเตือนจากโรงพยาบาล และแพทย์ยืนยันว่าการบริจาคตับคือวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาโรคตับแข็ง

พ่อลดน้ำหนัก 15 กิโลกรัมใน 3 เดือนเพื่อบริจาคตับช่วยลูกสาว

หลังจากได้รับการแจ้งจากแพทย์เกี่ยวกับความจำเป็นในการปลูกถ่ายตับ นายจ้าน พ่อของเด็กหญิง ได้ทำการตรวจสอบการบริจาคตับ แต่เนื่องจากเขาน้ำหนักเกินและพบไขมันพอกตับ ทำให้ไม่สามารถทำการผ่าตัดได้

เขาจึงตัดสินใจลดน้ำหนักเพื่อช่วยลูกสาว พ่อของเด็กหญิงจึงทานแค่แตงกวาทุกมื้อ และหลีกเลี่ยงแป้งและเนื้อสัตว์ พร้อมทั้งเดินวันละ 2 กิโลเมตร ภายใน 3 เดือน เขาลดน้ำหนักจาก 92.5 กิโลกรัม เหลือ 77.5 กิโลกรัม ลดไปถึง 15 กิโลกรัมสำเร็จ

นางฟาน แม่ของเด็กหญิง เผยว่า สามีของเธอเป็นเชฟ และพวกเขาดำเนินธุรกิจร้านอาหารในชนบท โดยมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน คนป่วยคือบุตรสาวคนโต เธอเล่าว่าลูกสาวเริ่มมีอาการอาเจียนเป็นเลือด และอุจจาระเป็นสีดำก่อนเทศกาลตรุษจีนปีนี้

จนกระทั่งเดือนมีนาคม เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคตับแข็ง หลังจากไปตรวจที่โรงพยาบาลหลายแห่ง สามีจึงเริ่มลดน้ำหนักเพื่อลดน้ำหนักตั้งแต่เดือนเมษายน เพื่อบริจาคตับให้ลูกสาว เขาเคยทานข้าวสวยในปริมาณมาก แต่ตอนนี้แทบไม่ทานข้าวแล้ว หลังจากตรวจหลายครั้ง ร่างกายของเขาจึงพร้อมสำหรับการปลูกถ่ายตับ โดยที่เขาสามารถลดน้ำหนักได้สำเร็จ

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา เด็กหญิงได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเจิ้งโจวที่ 1 ก่อนการผ่าตัด พ่อและลูกสาวได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น เด็กหญิงรู้สึกซาบซึ้งที่พ่อของเธอลดน้ำหนักเพื่อช่วยเธอ จนทำให้พ่อรู้สึกซึ้งใจจนน้ำตาไหล

การผ่าตัดของเด็กหญิงประสบความสำเร็จ

แพทย์ที่ทำการผ่าตัด กล่าวว่า การผ่าตัดประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ตอนนี้เด็กหญิงอยู่ในหออภิบาลอย่างใกล้ชิด หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน เธอจะสามารถย้ายไปยังห้องพักผู้ป่วยปกติในอีกประมาณ 3 วัน และจะใช้เวลาพักฟื้นที่โรงพยาบาลอีก 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะออกจากโรงพยาบาล แม้ว่าเธอจะต้องใช้ยาต้านการปฏิเสธตับในระยะยาว แต่ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตปกติของเธอ

สำหรับผู้ที่กังวลว่าการบริจาคตับอาจส่งผลต่อสุขภาพของพ่อ แพทย์อธิบายว่า การผ่าตัดในครั้งนี้เพียงแค่ต้องตัดตับของพ่อออกไปประมาณหนึ่งในห้าให้กับลูกสาว ซึ่งตับมีความสามารถในการฟื้นฟูเซลล์ และตับที่เหลืออยู่ในร่างกายจะค่อย ๆ ขยายขนาดกลับไปสู่ขนาดเดิม จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตปกติของพ่อ

ชาวเน็ตซาบซึ้ง “ความรักของพ่อยิ่งใหญ่เสมอ”

เหตุการณ์นี้ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากรู้สึกตื้นตัน และให้กำลังใจเด็กหญิงอย่างมากมาย อาทิ “เด็กยังเล็กขนาดนี้เป็นโรคตับแข็ง? น่าสงสารมาก” และ “ขอให้ลูกสาวหายเร็ว ๆ”

พร้อมทั้งรู้สึกประทับใจกับความรักของพ่อที่มีต่อบุตรสาว “ความรักของพ่อยิ่งใหญ่เหมือนภูเขา”, “ครั้งแรกแม่ให้กำเนิด ส่วนครั้งที่สองเป็นความรักของพ่อ”, “การให้ชีวิตของลูกสาวคือสิ่งที่พ่อทำได้” และ “การช่วยชีวิตลูกคือความพอใจสูงสุด”