คลิปนาทีฟอร์จูนเนอร์ ชนบิ๊กไบค์แล้วหนี รถกระเด็นเข้าร้านหูฉลาม-คนขับดับคาฟุตปาธ

Home » คลิปนาทีฟอร์จูนเนอร์ ชนบิ๊กไบค์แล้วหนี รถกระเด็นเข้าร้านหูฉลาม-คนขับดับคาฟุตปาธ

พลเมืองดีไล่ตามฟอร์จูนเนอร์ หลังขับชนแล้วหนี ไม่จอดดูคนเจ็บ รถบิ๊กไบค์กระเด็นเข้าร้านหูฉลาม คนขับดับคาฟุตปาธ  

(24 ก.ย.64) เวลา 11.10 น. พันตำรวจโท ปัญญา ภาคสิน ส.ว. สอบสวน ส.น.บางยี่เรือ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ เสียหลักพุ่งชนร้านหูฉลาม และภายในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส จึงรีบรุดจัดกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมประสานอาสาสมัครร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดบริเวณหน้าร้าน จุฬา หูฉลาม ถนน ราชพฤกษ์ แขวง บุคคโล เขต ธนบุรี กรุงเทพมหานคร และภายในที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาชื่อ นายราชิต อายุ 32 ปี ในสภาพนอนหงายหน้าจมกองเลือดอยู่กับพื้นบนฟุตบาทหมดสติ แล้วมีบาดแผลเปิดขนาดใหญ่ที่ศีรษะ บริเวณขาซ้ายหักผิดรูปอย่างชัดเจน บริเวณภายในร่างกายมีบาดเเผลถลอกหลายแห่ง ลักษณะการแต่งกาย สวมใส่เสื้อคลุมแขนยาว ลายพรางสีเทา ทับเสื้อยืดด้านในคอกลมแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงยีนส์ขายาว ไม่สวมรองเท้า สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ สวมใส่ถุงมือสีดำ อาสาสมัครจึงรีบรุดจัดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมประสานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในระบบเอราวัณ ให้มาสมทบทำการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วนทันที

เมื่อหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เร็วในระบบเอราวัณ มาถึงที่เกิดเหตุได้ให้การช่วยเหลือโดยการทำ CPR ให้การปฐมพยาบาลอย่างสุดความสามารถอย่างเต็มที่แต่ไม่เป็นผล ผู้ได้รับบาดเจ็บทนความเจ็บปวดไม่ไหวจึงเสียชีวิตภายในที่เกิดเหตุทันที จากการตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุยังพบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่น นินจา สีเขียวคาดดำ ทะเบียน 3 กม 18 กรุงเทพมหานคร อยู่ในสภาพพังเสียหายยับเยินทั้งคัน และยังติดคาอยู่กับประตูม้วนด้านข้างของร้านหูฉลามดังกล่าว จนประตูม้วนของร้านพังเสียหายยับเยินเช่นกัน และทรัพย์สินภายในร้านก็ยังได้รับความเสียหายไปด้วย ถัดมายังพบกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นสปอตร์ไลเดอร์ สีน้ำเงิน ทะเบียน กค 5992 สมุทรสาคร มีร่องรอยของการเฉี่ยวชนบริเวณด้านหน้ารถจนกันชนยุบตัว และบริเวณซุ้มล้อด้านซ้ายบุบ ไฟเลี้ยวแตก ได้รับความเสียหายอย่างชัดเจน จอดอยู่ภายในที่เกิดเหตุด้วย ทราบต่อมาว่า สายตรวจและพลเมืองดีไปตามกลับมา

จากการสอบถามเจ้าของร้านจุฬาหูฉลามชื่อ นางทองทิพย์ อายุ 48 ปี บอกเล่าว่า ตอนนั้น ตนทำงานอยู่ในร้าน เช็คจานชามเตรียมเปิดร้านอยู่ ก็ได้ยินเสียงดังโครม สนั่นไปหมด กระจกแตกกระเด็นเข้ามาในร้าน ตนก็ตกใจถอยเข้าไปข้างใน พอเสียงสงบลง ตนก็มองไปเห็นรถมอเตอร์ไซค์อยู่ในร้านแล้ว เลยเดินออกไปดูข้างนอกร้านว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นคนนอนอยู่หน้าร้านตนแล้ว ก็ถามจากคนที่อยู่หน้าร้านเค้าบอกว่า มีรถพุ่งชนเค้าแล้วก็หนีไป ตอนนั้นตนก็ไม่กล้าออกไป รอแฟนออกมาก่อน แฟนเข้าห้องน้ำอยู่ ตนตกใจมาก ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย

นายสุรนันท์ อายุ 53 ปี คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง บอกเล่าว่า รถฟอร์จูนเนอร์ ขับลงมาจากสะพาน ตรงมาแล้วมาปาดเข้าเลนคู่ขนาน ส่วนรถมอไซค์ขับมาทางตรงของเลนคู่ขนานอยู่แล้ว ความเร็วก็พอประมาณความแรงของรถ พอมาถึงจุดเกิดเหตุก็ชนกัน มอเตอร์ไซค์ก็ไถลขึ้นมาที่ร้าน ส่วนคนก็กระเด็นมานอนแน่นิ่งบนฟุตปาธ

ส่วนทาง น.ส.กมลวรรณ  อายุ 25 ปี เป็นลูกจ้างของผู้เสียชีวิต บอกเล่าว่า ผู้เสียชีวิตกำลังจะไปเอาหมึกที่นนทบุรี จะขี่ไปช้าๆ นะ เพราะเหมือนรู้สึกเพลียๆ เพิ่งออกจากร้านมา ร้านถ่ายเอกสารอยู่ กรุงธนซอย 4 แล้วมีอาสาโทรเข้าไปบอกว่า เจ้าของเบอร์นี้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ให้ติดต่อญาติมายืนยันที่เกิดเหตุ ตนจึงออกมาดูก่อน พอเห็นก็ตกใจมาก เป็นเจ้านายตนจริงๆ ตนจำได้เลยเพราะเพิ่งจะออกจากร้านมา แล้วเค้าก็ย้ำว่า เค้าต้องขับไปช้าๆนะ เดี๋ยวจะเกิดอุบัติเหตุ ตนก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุจริงๆ แล้วตนก็โทรติดต่อบอกญาติเค้าให้ทราบแล้ว

พลเมืองดี ชื่อ นาย​วัชระ​ อายุ 27 ปี​ เป็นผู้เห็นเหตุการณ์บอกเล่าว่า ตนขี่รถมาจากสาทร ตามหลังคันก่อเหตุมา เห็นรถกระบะ ชนกับรถมอไซค์ แล้วก็ขับไปเลย ตนเห็นแบบนั้นแล้ว ตนก็ต้องตามรถคันก่อเหตุก่อน ว่าทำไมไม่ลงมาดูคนเจ็บก่อน ช่วยอะไรไม่ได้ก็น่าจะลงมาดูก่อน ก็ขี่ตามไป เค้ากลับรถไปอีกฝั่งนึงเจอสายตรวจแล้วก็พากลับมายังจุดเกิดเหตุ

ส่วนเบื้องต้น จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุนั้นแล้วพบว่า ผู้เสียชีวิตขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากเลนคู่ขนานจนถึงจุดเกิดเหตุดังกล่าวซึ่งเป็นทางเบี่ยงเข้าเลนด่วน ส่วนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลคันดังกล่าวก็อยู่ในจังหวะที่จะหักเลี้ยวเข้าเลนคู่ขนานพอดีก็เลยเกิดการเฉี่ยวชนกันเกิดขึ้นจึงทำให้เป็นเหตุสลดใจดังกล่าว แต่ว่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลเมื่อเกิดการเฉี่ยวชนเกิดขึ้นก็ไม่ได้หยุดรถทันทีในที่เกิดเหตุ ยังคงวิ่งไปด้วยความเร็วในช่องเลนด่วนต่อ จนพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวขี่จักรยานยนต์ติดตามรถยนต์คันดังกล่าวไป

จนกระทั่งตามได้ทันแล้วเป็นจังหวะที่สายตรวจผ่านมาพอดีจึงแจ้งให้สายตรวจทราบเรื่อง ก่อนทำการเชิญตัวผู้ขับขี่พร้อมรถยนต์คันดังกล่าวมาจอดบริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ เพื่อรอเจ้าหน้าที่สอบสวนของ สน.พื้นที่ มาสอบสวนเพิ่มเติมและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช ได้มอบหมายให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช ก่อนจะมอบร่างผู้เสียชีวิตให้ญาติรับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป และจะเชิญผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวไปสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สน. 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ