ครูโต้ใช้ถาดหลุม ตีหัวนักเรียนอนุบาล 2 แค่ดุ-ทำโทษเวลาดื้อบ้าง ผอ.ขอโทษผู้ปกครอง หลังเด็กยังผวาไม่กล้ามาโรงเรียนในจ.บุรีรัมย์

จากกรณีสองสามีภรรยาชาวต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นปู่และย่าของหลานอายุ 5 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.ชำนิ ออกมาเรียกร้องให้ครูในโรงเรียนปรับเปลี่ยนวิธีการทำโทษเด็กนักเรียน หลังจากหลานถูกครูใช้ถาดหลุมอลูมิเนียมสำหรับใส่อาหารตีหัวหลาน ขณะหลานต่อแถวเดินไปรับประทานอาหารกลางวันพร้อมกับเพื่อนๆ จนหลานร้องไห้ พอกลับมาถึงบ้านมีอาการปวดศีรษะ หวาดผวาไม่อยากไปโรงเรียน เบื้องต้นปู่กับย่าพาหลานไปหาหมอ เพราะเกรงจะมีอาการข้างเคียง เนื่องจากหลานป่วยเป็นโรคลมชักอยู่แล้ว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 11 ก.ค.65 ล่าสุดผอ.โรงเรียนในอ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เชิญย่าและแม่ของน้องเปรม นักเรียนชั้นอนุบาล ที่ร้องเรียนว่าถูกครูใช้ถาดตีหัว รวมทั้งครูประจำชั้นที่ถูกกล่าวหา มาพูดคุยกันที่โรงเรียน เพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น

เบื้องต้นครูที่ถูกกล่าวหายืนยันต่อหน้าผอ. ย่าและแม่ว่าไม่ได้ใช้ถาดหลุมตีหัวเด็กตามที่ถูกกล่าวหา แต่ยอมรับว่าบางครั้งอาจจะดุ หรือทำโทษเด็กเวลาที่ดื้อบ้าง ซึ่งไม่ใช่แค่เด็กคนนี้คนเดียว แต่ไม่ได้ทำโทษรุนแรงเกินกว่าเหตุ หากผู้ปกครองไม่สบายใจ เบื้องต้นครูขอโทษผู้ปครองไปแล้ว อยากจะให้เด็กมาเรียนตามปกติก็รับปากว่าดูแลเด็กอย่างดี เพราะเด็กไม่ได้มาเรียนหลายสัปดาห์แล้ว

ด้านผอ.โรงเรียน ระบุว่า จากการพูดคุยแม้ว่าครูจะยืนยันว่าไม่ได้ใช้ถาดตีหัวเด็กตามที่ผู้ปกครองร้องเรียน แต่เพื่อความสบายใจได้ขอโทษผู้ปกครองไปแล้ว แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนการดูแลเยียวยานั้นก็ต้องรอผลตรวจจากแพทย์อีกครั้งว่าเด็กมีอาการเป็นยังไง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้ขึ้นอีก ก็จะมีประชุมกำชับคณะครู ให้ดูแลเด็กให้ดีและไม่ให้ลงโทษเด็กรุนแรงเกินกว่าเหตุ เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อนมาก