คริส เคิร์กแลนด์ อดีตผู้รักษาประตูชื่อดัง เผยเรื่องสุดช็อกว่าตนเคยเกือบฆ่าตัวตาย แต่ที่ช็อกยิ่งกว่านั้น สาเหตุเกิดจากสภาพจิตใจย่ำแย่เพราะเสพติดยาระงับปวด

หากแฟนบอลยังไม่ลืมกัน เคิร์กแลนด์เคยได้รับการคาดหมายว่าน่าจะมีอนาคตสดใส ด้วยหน่วยก้านเป็นผู้รักษาประตูร่างยักษ์ แต่ก็มีความคล่องตัวสูงและมีความกล้าได้กล้าเสีย ทำให้เซฟลูกยากได้บ่อยครั้ง เหนียวถึงขั้นที่ทีมดังอย่างลิเวอร์พูลต้องซื้อตัวไปเฝ้าเสา

อย่างไรก็ตาม เคิร์กแลนด์กลับต้องเผชิญอาการบาดเจ็บที่ตามรังควานไม่จบสิ้น ทั้งที่มีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นมือ 1 ของลิเวอร์พูลแล้วด้วยซ้ำ แต่ลงเล่นได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องเรียกหาโรงหมออีก

ตลอดเส้นทางอาชีพของเคิร์กแลนด์ที่สังกัดโคเวนทรี ซิตี้, ลิเวอร์พูล, เวสต์บรอมวิช อัลเบียน, วีแกน แอธเลติก, ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส, เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์, เปรสตัน นอร์ทเอนด์ และบิวรี เจ้าตัวได้ลงสนามรวมกันแค่ 321 นัด และได้เล่นให้ทีมชาติอังกฤษ 1 นัด

เคิร์กแลนด์ที่ปัจจุบันอยู่ในวัย 41 ปี บอกว่าหายนะของตนเริ่มต้นขึ้นสมัยยังอยู่กับลิเวอร์พูล ซึ่งตนเริ่มใช้ยาระงับปวดเพราะบาดเจ็บระหว่างอบอุ่นร่างกายก่อนเริ่มเกม จากนั้นมาใช้หนักขึ้นตอนย้ายไปวีแกน แล้วก็ยังต้องใช้อีกเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็ขาดไม่ได้เสียแล้ว

อดีตมือกาวคนดังกล่าวว่า “ผมคิดว่าถ้าไม่ลงเล่นก็จะหลุดจากตำแหน่งตัวจริง ผมเคยคิดว่าตัวเองเข้มแข็งพอและจะไม่มีทางเสพติดมัน แต่กลายเป็นว่าเหมือนโดนมันเกาะติด ร่างกายของผมต้องการมันมากขึ้นเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นทาสของมันไปแล้ว

ผมเคยมีฤดูกาลที่ต้องใช้มันเป็นปริมาณมากในทุกวัน ภรรยาของผมไม่รู้เรื่องนี้เพราะผมซ่อนไว้ในรถ และใช้มันระหว่างเดินทางไปฝึกซ้อม ผมกลายเป็นคนที่ทำตัวลับๆ ล่อๆ นั่นแหละคืออาการเสพติด”

เคิร์กแลนด์เผยอีกว่า ตนเกือบกระโดดตึกฆ่าตัวตายสมัยอยู่กับบิวรีในปี 2016 เดชะบุญที่นึกถึงภรรยากับลูกสาวขึ้นมาพอดี ทำให้ยังเปลี่ยนใจได้ทัน

“ผมใช้ยาระงับปวดไปมากตอนเก็บตัวพรีซีซั่นกับบิวรี ซึ่งสโมสรไม่รู้เรื่องนี้ ตอนนั้นเราพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์ และผมอยู่ห้องชั้นบนสุด ผมขึ้นไปบนหลังคาและกำลังจะกระโดดลงไป แต่ผมรู้สึกเหมือนว่าภรรยากับลูกดึงตัวเอาไว้

ผมตัดสินใจโทรหาภรรยาและสารภาพว่าเสพติดยาระงับปวด ภรรยาจึงบอกให้ผมกลับบ้าน ผมแจ้งสโมสรและเดินทางออกจากแคมป์ในวันรุ่งขึ้น จากนั้นโทรหาสมาคมนักฟุตบอลอาชีพแล้วบอกว่าผมต้องการความช่วยเหลือ”

นั่นเป็นการปิดฉากเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลของเคิร์กแลนด์ ซึ่งต้องบอกว่าจบลงแบบน่าเศร้า เพราะสุดท้ายแล้วเจ้าตัวก็ตกลงยกเลิกสัญญากับบิวรีไป โดยที่จอมหนึบรายนี้ยังไม่ได้ลงเฝ้าเสาเกมทางการให้สโมสรเลย

เคิร์กแลนด์ยอมรับว่าตนยังดีที่รอดชีวิตมาได้ แต่ในวงการกีฬานั้นยังมีนักกีฬาหลายคนที่กำลังเสพติดยาระงับปวด และตนคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีใครทำอะไรสักอย่าง

“ผมรู้ว่ามีนักกีฬาอีกมากแค่ไหนที่เสพติดยาประเภทนี้ สังคมต้องช่วยกันต่อสู้เพื่อจัดการสิ่งที่เกิดขึ้น ตัวยาทรามาดอล (Tramadol) ไม่ควรใช้เกินวันละ 400 มิลลิกรัม แต่ผมใช้มันวันละไม่ต่ำกว่า 1,000 มิลลิกรัม และมีช่วงเวลาที่ผมเคยใช้ถึงวันละ 2,500 มิลลิกรัมเลยด้วยซ้ำ

ผมแอบสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตมากกว่า 100 เม็ด ต้องแอบมารับพัสดุโดยที่ไม่ให้ภรรยาจับได้ ซึ่งมันจะช่วยให้ผมผ่านความรู้สึกเจ็บปวดในรอบสัปดาห์หนึ่งไปได้ แพทย์บอกว่าสาเหตุเดียวที่ผมยังรอดชีวิตมาได้ เป็นเพราะความฟิตในระดับนักกีฬาของตัวผม”

ดังที่เคิร์กแลนด์กล่าว ที่จริงแล้วยังมีนักกีฬารายอื่นซึ่งเผชิญความลำบากเพราะเสพติดยาแก้ปวด ขณะที่หลายคนเป็นทาสสารเสพติดตัวอื่น ด้วยสาเหตุจากความเจ็บปวดทางร่างกาย ทางจิตใจ แล้วแต่ปัญหาที่ต่างกันออกไป

เรื่องนี้ผู้เกี่ยวข้องจึงควรให้ความใส่ใจอย่างยิ่ง เพราะนอกจากเพื่อช่วยชีวิตของเหล่านักกีฬาแล้ว ยังเป็นการขจัดมลทินให้พ้นจากกีฬา ในฐานะเครื่องมือสำคัญที่สังคมใช้ต่อต้านอบายมุขทั้งปวง