คริส พีรวัส เล่านาทีรถคว่ำ รอดปาฏิหาริย์ เผย พักขับรถชั่วคราว

คริส พีรวัส เล่านาทีรถคว่ำ – จากกรณีแฟนคลับช็อกอุบัติเหตุ นักแสดงหนุ่ม คริส พีรวัส รถคว่ำบริเวณถนนสุคนธสวัสดิ์ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 30 พ.ย.2564 สภาพรถเสียหลักตีลังกาหงายท้องล้อชี้ฟ้า โดยเจ้าหน้าที่ได้พาตัวหนุ่มคริสออกจากรถได้อย่างปลอดภัยรอดแบบปาฏิหาริย์ไม่บาดเจ็บ

ล่าสุดวันที่ 1 ธ.ค. คริส พีรวัส มาร่วมงานแถลงข่าว “GMMTV2022 : BORDERLESS” ซึ่งภายหลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “ พอดีผมกำลังกลับจากที่ทำงาน ไปที่ภาพดีทวีสุขมา ไปอัดเสียงครับ กำลังกลับบ้าน อยู่แถวสตรีวิทยาสอง ซึ่งตรงนั้น

ผมต้องอธิบายแบบนี้ก่อน มันเป็นเขตชุมชนเพราะฉะนั้นการขับรถของผมไม่เร็วอยู่แล้ว ผมทราบดีเพราะเป็นทางที่ผมใช้เป็นประจำครับ ความเร็วอยู่ที่ประมาณ 40-60 ประมาณนี้ ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันเท่าไหร่แต่อยู่ในขอบเขตนี้อย่างแน่นอน

แล้วก็ในส่วนที่ว่ามันพลิกได้ยังไง เพราะว่ามันเป็นรถที่ค่อนข้างแข็งแรง บอกจริงๆว่าเป็นความซวยของผมเองนะครับ เพราะว่าผมเจอสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้าแล้วผมขับผมเอง แล้วเราเหลือบไปเห็นถนนใกล้ ผมก็ยังไม่แน่ใจนะครับว่า ณ ตอนนี้ว่าคืออะไร แต่เราเลือกที่จะหักเพราะว่าเราเข้าใจว่าเป็นของแข็ง ผมก็กลัวว่ามันจะกระทบกับช่วงล่าง เราเลยหักซ้าย แล้วเหมือนกับว่าเรากินเลนซ้ายไปนิดนึงอยู่แล้ว พอเราหักซ้ายแค่นิดเดียวมันเข้าไปชนกับล้อของรถกระบะ สาเหตุที่มันพลิกคือทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้วมากครับ

ผมเองก็ยังไม่ชัวร์ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่ผมทราบเพราะว่าหลังจากที่คว่ำแล้ว มีพี่พลเมืองดีเขาออกมาช่วยไว้แล้วเขาไปไหนวิเคราะห์ให้ เพราะตอนแรกเขาน่าจะเข้าใจว่า การเจรจาน่าจะไม่ง่ายขนาดนี้เขาเลยมาช่วยเคลียร์ให้ก่อน เขาก็ดูจากจุดชนของทั้งคู่กรณี คุณลุงธีรเดช แล้วก็ของตัวรถผมด้วย เขาก็วิเคราะห์ออกมาให้ผมฟังว่า คือขับไม่เร็วอย่างแน่นอน

เพราะว่าหนึ่งถ้าขับเร็ว ผมจะกระเด็นไปไกลกว่านี้ คือมันเป็นเหมือนกับว่าผมชนเขาที่ล้อแล้วผมก็พลิก ซึ่งการพลิกผมยังอยู่ในเลนของตัวเองอยู่ ถือเป็นความโชคดีของผมนะครับ เพราะว่าเร็วกว่านี้แล้วผมไปอีกเลนมันเป็นรถสวนมาอาจจะเกิดเรื่องร้ายๆมากกว่านี้ครับ แล้วก็คือมันเป็นล้อรถของกะบะซึ่งเขาจอดเกียร์ P ไว้ เทียบกับฟุตบาท

เพราะฉะนั้นเขาจะมีฟุตบาทในการเซฟเขาอยู่แล้ว มันเลยเข้าไปอัดทำให้รถเขานิ่ง กลายเป็นเขาเหมือนบาเลียแล้วเราเข้าไปชน เราเลยกระเด็นแทน คือถ้าผมเลยไปอีกนิดนึงไม่ได้ไปชนล้อ อาจจะมีสิทธิ์ที่ไม่พลิก พอมันเป็นล้อ ยางกับยาง มันเลยเกิดการพลิกขึ้น”

คู่กรณีของเราจอดรถอยู่เฉยๆ? “จอดอยู่ครับ แล้วตัวคุณลุงธีรเดชเขาไม่ได้อยู่ในรถด้วย เขาไปเซเว่นครับ แล้วคุณลุงก็ออกมา คุณลุงก็บอกว่า เฮ้ย รถคว่ำ รถใครวะ แล้วมันชนกับใครวะ อ้าว รถผม (หัวเราะ)”

ลุงเขาเสียหายเยอะไหม? “น่าจะเป็นแค่ตรงช่วงล้อกับรอยรอบๆล้อเท่านั้นเองครับ ตอนนี้ผมเจรจากับคุณลุงตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว ผมจะรับผิดชอบทุกๆอย่าง ผมจะต้องทำทุกๆอย่างให้คุณลุงพอใจก่อนเป็นอันดับแรกว่าคุณลุงมีความต้องการยังไงบ้าง เราจะดูแลให้เติมที่ แล้วก็ผมขอโทษผู้ที่ขับขี่อยู่แถวๆนั้นจริงๆนะครับ ผมรู้สึกผิดว่าที่ทำให้รถติดเป็นชั่วโมง คือผมรู้สึกแย่จริงๆกับเรื่องที่เกิดขึ้นตรงนี้ครับ ผมขอโทษจริงๆแล้วหลังจากนี้ผมจะระมัดระวังมากกว่านี้

แต่สิ่งที่ผมได้รับบทเรียนคือในช่วงหลังจากนี้ผมอาจจะยังไม่ขับรถในช่วงนี้ เพราะพ่อแม่ก็ไม่ให้ขับแล้ว ก็คิดว่าน่าจะดีกว่า แล้วก็ขอบคุณพี่พลเมืองดีมากๆเลยนะครับผม ถ้าพี่ๆทุกๆคนที่ช่วยผมในวันนั้นได้ผ่านมาเห็นให้รับรู้ไว้เลย (เสียงสั่น) ว่าผมขอบคุณมากคือพี่ๆดีกับผมสุดๆเลย (เสียงสั่น น้ำตาคลอ) ผมเลยรู้สึกว่าโอเค ผมโชคดี ในความโชคร้ายผมยังหาความรู้สึกดีๆได้ (น้ำตาคลอ) จากตรงนั้นอะไรแบบนี้ครับ”

วินาทีนั้นตกใจไหม? “คือผมเห็นทุกๆอย่างมันแอบเหมือนในหนังนิดนึงครับ คือของที่อยู่ในรถมันกระจายขึ้นมาเลยแล้ว มันก็หมุน ผมเห็นถนนเริ่มหมุนแล้ว ตอนที่พลิก คือมันโชคดีที่มันไม่แรงจริงๆครับ คือรถไม่ได้วิ่งมาเร็ว ผมรู้สึกได้ว่าไม่มีอะไรโดนตัวผมเลยครับ ทุกๆอย่างไม่โดนตัวผมเลย ตอนพลิกเสร็จแล้วตัวผมคว่ำอยู่ เซฟตี้เบลล์มันรัดผมไว้แน่นมาก ผมยังติดอยู่กับเบาะอยู่เลย ผมต้องปลดเซฟตี้เบลล์ตัวผมถึงจะร่วงลงมา”

เหตุการณ์เป็นยังไงบ้างตอนนั้น? “ผมไม่รู้ผมจะอธิบายความรู้สึกตรงนั้นยังไงดีครับ เพราะผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย ผมช็อกมากแล้วก็ผมกลัวทำคนอื่นลำบากมากๆทั้งพ่อแม่ ซึ่งผมขอบคุณ คือในความโชคร้ายยังมีเรื่องราวดีๆจริงๆนะครับ คือเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่ทราบก็รีบมาหาที่จุดเกิดเหตุเร็วที่สุด แล้วก็ผมขอบคุณพี่ๆน้องๆนักแสดงทุกท่าน

คือเพื่อนผมสมัยอนุบาล ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย ทุกๆคนติดต่อมาหมด ทักมาถาม โทรมาถาม แต่ต้องขอโทษจริงๆ เมื่อวานผมไม่ได้รับสายใครเลยแล้วก็ไม่ได้ตอบใครด้วย เพราะว่ายังไม่นิ่งพอ ผมยังเฟลๆอยู่นิดหน่อยเลยไม่ได้ตองมครก็วันนี้พร้อมแล้วที่จะมาบอกกับทุกๆคนตรงนี้แล้วก็ขอบคุณมากๆที่ส่งกำลังใจมา โทรเข้ามานะครับ

ผมไม่เป็นอะไรเลยครับ มีแผลถลอกที่หัวเข่า ซึ่งผมไปที่โรงพยาบาล ผมก็ทำแผลที่หัวเข่า คุณหมอมาคนหนึ่ง เขาก็ทำแผลเสร็จแล้วบอกว่าแผลที่หัวเข่าไม่มีอะไรเลยนะ แค่รอยถลอกเล็กๆไม่ลึกด้วยสามารถทำแผลเองได้ที่บ้าน สบายๆเลย เขาเหลือบมาเห็นแผลที่นิ้ว

เขาก็ทำแผลที่นิ้วให้ เขาบอก แผลนี้น่าเป็นห่วงมากเลยนะ แผลนี้ลึกมาก ห้ามทำแผลเองที่บ้าน ต้องทำแผลที่โรงพยาบาลเท่านั้น เลี่ยงต่อการติดเชื้อ ต้องดูแลอย่างดี รถคว่ำเหรอ เปล่าครับ อันนี้น้ำมันกระเด็น (ยิ้ม) ซึ่งเป็นแผลก่อนหน้านี้แล้วผมถ่ายรูปกับคุณลุงแล้วมือข้างถนัดก็เห็นแผลตรงนี้ทุกคนก็กังวลว่าถลอกปลอกเปลือกหมดเลย (ยิ้ม) น้ำมันกระเด็นครับ”

มีการตรวจร่างกายอะไรไหม? “มีครับ สแกนหมดเลยทั้งตัวก็คุณหมอบอกว่าไม่มีไรเลย ไม่ได้เป็นอะไรเลย แผลที่หนักที่สุดคืออันนี้ (โชว์นิ้ว)”

หลายคนสงสัยห้อยพระอะไร? “มีพระองค์หนึ่งในรถครับ แต่พอดีเป็นพระของกองพี่ๆ โกลด์เด้นซองให้มาผมเลยติดไว้ที่รถครับ”

เกี่ยวกับเบญจเพสด้วยไหม? “ผมเพิ่ง 26 ก็ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ผมขอให้หลังจากนี้ทุกๆคนรวมถึงตัวผมเองขอให้เจอเรื่องราวดีๆแล้วกันครับ”

รถเสียหายเยอะไหม? “คือ เหตุผลของพ่อแม่ผมไม่อยากให้ผมขับรถแล้ว และการซ่อมน่าจะหนักเกินประกันครับ ซึ่งประกันจะคุมครองคู่กรณีให้ ผมก็โอเคกับตรงนั้นแล้ว แต่ในส่วนของรถผมเองหนักมาก พ่อแม่ก็ไม่อยากให้ขับรถก็เลยคิดว่าโอเคขายซากรถแล้วกัน ก็คงไม่มีรถคันนี้แล้วครับ เพราะว่าพ่อก็กังวลอีกอย่าง ถ้าเราซ่อมจนเสร็จแล้วเราขับมันจะรู้สึกไม่ผวาไม่กลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นใช่ไหม เพราะเราเห็นมันเละมาแล้ว”

ฝากถึงแฟนๆที่เป็นห่วง “ผมขอบคุณมากจริงๆครับ คือแฟนๆตกใจมาก ผมเข้าไปอ่านแล้วผมคงต้องบอกเขาสักนิดนึงว่า ผมไม่เป็นไร แล้วขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่าน เพื่อนๆพี่ๆน้องๆในวงการทุกๆแขนงทุกๆคนติดต่อมาหาผมด้วยความเป็นห่วง แต่ผมขออภัยผมไม่ได้รับสายใครและไม่ได้ตอบใคร เพราะผมยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลยถือโอกาสมาพูดจริงๆจังตรงนี้”

พ่อแม่ไม่อยากให้ขับรถไปเลยแล้วตัวเรา? “เราเป็นคนโทรไปเองแล้วเราก็บอกเขาตั้งแต่ในสายแล้วเราไม่เป็นอะไรเลย สบายมากแต่รถคว่ำนะ เพราะแม่มาเห็นปุ๊บ ความแม่ผมเขาก็จะแบบร้องไห้ คือผมเห็นแบบนั้นแล้วผม โอเค ผมไม่ขับดีกว่า (แล้วการทำงาน) หลังจากนี้คงใช้วิธีการเดิม อาจจะใช้รถตู้อะไรแบบ”