ครอบครัว 'แอม' เก็บตัวเงียบ ไม่ขอให้สัมภาษณ์ เพื่อนพ่อยังช็อกไม่คิดว่า จิตใจโหดเหี้ยม

Home » ครอบครัว 'แอม' เก็บตัวเงียบ ไม่ขอให้สัมภาษณ์ เพื่อนพ่อยังช็อกไม่คิดว่า จิตใจโหดเหี้ยม



ครอบครัว ‘แอม’ เก็บตัวเงียบ ไม่ขอให้สัมภาษณ์ เพื่อนพ่อยังช็อกไม่คิดว่า จิตใจโหดเหี้ยม คนรอบข้างเผยเป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร

คดีการเสียชีวิตปริศนา ของน.ส.ศิริพร หรือ น้องก้อย อายุ 32 ปี ที่เสียชีวิตหลังไปปล่อยปลากับนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาพรณ์ ผู้ต้องหา ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” เพื่อนสนิท ที่ท่าน้ำริมแม่น้ำแม่กลอง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งครอบครัวของน้องก้อย ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงเข้าร้องขอความเป็นธรรม และขอให้ตรวจหาสารพิษในศพของน้องก้อย จนมีกระแสข่าวว่าพบไซยาไนด์ ในศพ และนำไปสู่การออกหมายจับ น.ส.แอม ตามที่เสนอข่าวนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 26 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านของพ่อน.ส.แอม หมู่ 1 ต.ท่ามะกา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี พบว่าบ้านทาวน์เฮ้าส์หลังสีเขียว ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวแอมและแฟนหนุ่ม ถูกปิดเงียบลักษณะคล้ายกับไม่มีคนอยู่มาเป็นเวลานาน ส่วนบ้านพ่อของแอมนั้น นำรั้วเหล็กมากั้นทางเข้าด้านหน้า ผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์ เพื่อจะขอเข้าไปพูดคุยกับพ่อของแอม แต่ถูกปฏิเสธ โดยบอกว่าไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ และให้ข้อมูลใดๆ กับผู้สื่อข่าว

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางลงพื้นที่ไปยังที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ท่ามะกา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เพื่อพูดคุยกับ นายศักดิธัช อารีรอบ ผู้ใหญ่บ้านหมู่1 ต.ท่ามะกา

นายศักดิธัช ให้ข้อมูลว่า ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับแอม เพิ่งจะมารู้จักกันเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ที่แอมพร้อมด้วยพ่อและแม่ มาขอให้ตนเซ็นเอกสารรับรองเรื่องการทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดิน ซึ่งหลังจากตนเซ็นเอกสารไปให้ แอมก็ยังเคยคุยว่า ตัวเองมีสามีเป็นตำรวจ หากมีอะไรให้ช่วยเหลือก็สามารถบอกได้ ก่อนจะให้เบอร์โทรศัพท์สำหรับติดต่อไว้

แต่ปัจจุบันก็ไม่สามารถติดต่อในเบอร์โทรดังกล่าวได้แล้ว ในส่วนของพ่อและแม่แอมนั้น เป็นคนที่มีพื้นเพอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ท่ามะกา มายาวนาน มีอาชีพขายไข่ตามตลาดนัด ส่วนตัวของแอม หลังจากเรียนจบและมีครอบครัว ก็ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ นานๆ ครั้ง จึงจะแวะมาทำธุระและเยี่ยมหาพ่อแม่เท่านั้น

  • ‘แอม’ ยังปากแข็ง ไม่ขอให้การใดๆ ไม่ยอมเจาะเลือดหาดีเอ็นเอ คุมตัวส่งศาลฝากขัง
  • ทนายแอม เตรียมเงินสด 4 แสน ยื่นประกัน หลังกองปราบคุมตัวฝากขัง
  • เปิดที่มาหลักฐาน ไซยาไนด์ มัดตัว ‘แอม’ จ้างวัยรุ่นฝังแต่ดันโป๊ะ เผยแหล่งซื้อ

ด้านน.ส.พรทิพย์ อายุ 63 ปี เพื่อนสนิทพ่อของแอม กล่าวว่า ตั้งแต่เด็กๆ แอมเป็นคนเงียบๆเก็บตัว ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใคร เมื่อโตขึ้น เรียนจบและแต่งงานมีครอบครัวก็ย้ายไปอยู่กับสามีและลูก ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่ เคยพบหน้ากันครั้งล่าสุดเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ที่แอมมาเซ็นเอกสารกู้เงินกองทุนหมู่บ้าน หลังจากเซ็นเอกสารเสร็จก็กลับไปทันที ไม่ได้อยู่พูดคุยกับคนอื่นแต่อย่างใด ยอมรับว่าเมื่อเห็นข่าวเกี่ยวกับการวางยาก็รู้สึกตกใจ และไม่คิดว่าแอมจะมีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมเช่นนี้

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังเดินทางลงพื้นที่ไปยังแฟลตตำรวจของ สภ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งแอมและสามีเคยพักอาศัยอยู่ ผู้สื่อข่าวพูดคุยกับคุณบี แม่ค้าส้มตำที่อยู่หน้าแฟลตตำรวจ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า แอมและสามี เคยพักอาศัยอยู่ที่แฟลตแห่งนี้จริง โดยพักอาศัยอยู่ที่บ้านพัก ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวปลูกอยู่ติดกับแฟลตตำรวจ

ซึ่งหลังจากสามีของแอม มีคำสั่งให้ย้ายไปเป็นรองผู้กำกับที่จังหวัดราชบุรี ทั้ง 2 คนก็ย้ายออกไปทันที แต่ยังคงมีข้าวของอยู่ในบ้านพักหลังดังกล่าวอยู่ นอกจากนี้ ที่แฟลตตำรวจแห่งนี้ก็ยังมีสารวัตรนุ้ย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต ที่คาดว่าน่าจะถูกวางยา อาศัยอยู่ด้วยเช่นกัน โดยตามปกติแอม จะไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เวลาลงมาซื้อส้มตำที่ร้านก็จะพูดคุยกับคนอื่นแบบถามคำตอบคำ ไม่ได้สนิทกับใครเป็นพิเศษ นอกจากสารวัตรนุ้ยที่เป็นระดับนายตำรวจเหมือนกับสามีของแอมเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าว พูดคุยกับพ่อของสารวัตรนุ้ย หนึ่งในผู้เสียชีวิต ที่เสียชีวิตในขณะขับรถในพื้นที่นครปฐม เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 โดยพ่อของสารวัตรนุ้ย ยอมรับว่า หลังทราบข่าวที่ลูกสาวเสียชีวิต ก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร เพราะคิดว่าเสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย ตามที่ชันสูตรพลิกศพ แต่หลังจากเห็นข่าวของแอม ก็เริ่มมีข้อสงสัย ในสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ของลูกสาวตน

ล่าสุดทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่จังหวัดนครปฐม ติดต่อขอนำมือถือ พร้อมด้วยคอมพิวเตอร์ Notebook และ smart watch ของสารวัตรนุ้ย ไปตรวจสอบหาข้อมูลความเชื่อมโยงกับแอมซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้อีกครั้ง เส้นทางตนนำไปมอบให้เพื่อให้ทางตำรวจตรวจสอบหาข้อมูลเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ