ครอบครัว ‘ก้อย’ เหยื่อ ‘แอม’ เตรียมเผาศพ มั่นใจเก็บหลักฐานครบแล้ว พี่สาวเล่าสุดช็อก เกือบตายก่อนน้องเพียงวันเดียว หลังไปกับแอม โชคดีพี่ชายไปรับ
จากกรณีการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย อายุ 32 ปี ที่เสียชีวิตระหว่างเดินทางไปให้อาหารปลาที่บริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ก่อนตำรวจจะออกหมายจับ นางสรารัตน์ หรือแอม ซึ่งวางยาไซยาไนด์ จนทำให้ น.ส.ศิริพร เสียชีวิต จากนั้นเรื่องราวก็บานปลายใหญ่โต เพราะตำรวจสืบสวนรู้ว่า มีเหยื่อที่เสียชีวิตเพราะแอมในลักษณะเดียวกันกว่า 10 ราย
ล่าสุด วันที่ 6 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านของ “ก้อย” ในพื้นที่ ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และได้พูดคุยกับ น.ส.นิภาวรรณ ขันวงษ์ หรือส้ม อายุ 35 ปี พี่สาวของ “ก้อย” โดย น.ส.นิภาวรรณ เปิดเผยว่า ครอบครัวเตรียมที่จะจัดพิธีฌาปนกิจศพให้กับ “ก้อย” ในวันพุธที่ 10 พ.ค.นี้ ที่วัดสิงห์ ไพบูลย์ประชาสรรค์ เนื่องจากเพื่อต้องการส่งดวงวิญญาณของ “ก้อย” ให้ขึ้นสู่สรวงสวรรค์ หลังจากที่ผ่านมาทางครอบครัวตัดสินใจเก็บศพไว้เพื่อนำไปตรวจหาสารพิษในร่างกาย อีกทั้งการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และครอบครัวที่ช่วยกันรวบรวมหาหลักฐาน ก็ถือว่าค่อนข้างครบถ้วน และมั่นใจได้ว่าจะสามารถเอาผิดกับ “แอม” ได้ ทางครอบครัวจึงตัดสินใจที่จะจัดพิธีศพให้กับ “ก้อย”
น.ส.นิภาวรรณ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้าที่ “ก้อย” จะเสียชีวิตเพียง 1 วัน “แอม” ได้มารับตนเพื่อนำปืนของตนไปจำนำให้กับคนรู้จักในราคาประมาณ 100,000 บาท ซึ่ง “แอม” รับอาสาเป็นคนพาเอาปืนไปจำนำและจะพาตนกลับมาส่งที่บ้าน แต่โชคดีที่ในวันดังกล่าว พี่ชายตามไปรับกลับด้วยตัวเอง ทำให้ “แอม” ไม่มีโอกาสอยู่กับตนตามลำพัง ซึ่งหากในวันดังกล่าวพี่ชายไม่ได้ตามไปรับ ก็ไม่มั่นใจว่าตนอาจจะเสียชีวิตก่อนที่ “ก้อย” จะกลายเป็นศพในวันต่อมาก็เป็นได้
ด้าน นายรพี ชำนาญเรือ พี่ชายคนสนิทของ “ก้อย” และเป็นผู้ที่เดินเรื่องร้องขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัว กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ แม้ทนายความของ “แอม” จะยังยืนยันว่า “แอม” ไม่รับสารภาพ และจะสู้คดีให้ถึงที่สุด พร้อมทั้งยังยืนยันในความบริสุทธิ์ของ “แอม” แต่จากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมถึงตนที่พยายามช่วยตำรวจเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ตนมั่นใจว่าคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีอย่างละเอียดรอบคอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลงมาควบคุมการสืบสวนสอบสวนด้วยตัวเอง ยิ่งทำให้การสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบ
อีกทั้งที่ผ่านมา ตนได้เห็นพยานหลักฐานต่างๆ หลายชิ้นที่ไม่ได้ถูกนำเสนอผ่านสื่อ จึงมั่นใจว่าคดีนี้ตำรวจจะสามารถเอาผิดกับ “แอม” ได้แน่นอน ถึงแม้ทนายความของ “แอม” จะประกาศผ่านสื่อ ว่าในคดีของ “ก้อย” นั้น “แอม” จะไม่มีทางแพ้คดี แต่ตนก็มองว่า เป็นเพียงคำพูดของทนายความ ที่ต้องการสร้างความมั่นใจให้กับลูกความสู้คดีเท่านั้น แต่เมื่อเจอกับพยานหลักฐานต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บรวบรวมมาอย่างละเอียดเป็นอย่างดี ก็จะต้องยอมจำนนต่อหลักฐานอย่างแน่นอน
พร้อมกันนี้ ก็อยากจะขอเชิญญาติของผู้เสียชีวิต พี่เชื่อว่าถูก “แอม” ลงมือวางยาจนเสียชีวิตอีก 13 ราย และอีก 1 รายที่รอดชีวิตมาได้ ให้มาร่วมกันส่งดวงวิญญาณของ “ก้อย” ซึ่งเป็นเหมือนเหยื่อรายแรกที่เปิดโปงการลงมืออย่างโหดเหี้ยมของ “แอม” ให้สังคมได้รับรู้จนนำไปสู่การจับกุมตัว “แอม” ดังกล่าว