ครอบครัวช็อก หลานชายสารภาพฆ่าน้าตัวเอง เหตุนกแก้วพูดชื่อตนเองไม่หยุด จนตร.สงสัยจับกุม

Home » ครอบครัวช็อก หลานชายสารภาพฆ่าน้าตัวเอง เหตุนกแก้วพูดชื่อตนเองไม่หยุด จนตร.สงสัยจับกุม


ครอบครัวช็อก หลานชายสารภาพฆ่าน้าตัวเอง เหตุนกแก้วพูดชื่อตนเองไม่หยุด จนตร.สงสัยจับกุม

รอดความผิดมาได้ตั้งหลายปี สุดท้ายนกแก้วที่เลี้ยงกลายเป็นพยานปากสำคัญ จนผู้ร้ายรับสารภาพความผิด ทำให้ตำรวจสามารถคลี่คลายคดีนี้ได้สำเร็จ

เว็บไซต์ อินเดีย ทูเดย์ รายงาคดีฆาตกรรมคดีหนึ่งในอินเดีย เมื่อนีลัม ชาร์มา หญิงชาวอินเดียถูกแทงดับ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 ในบ้านของเธอเองที่รัฐอุตตร บนร่างกายพบบาดแผลถูกแทง 14 แผล และทรัพย์สินในบ้านบางส่วนหายไป

โดยตอนที่เกิดเหตุสลดสามีของเธอไปร่วมงานแต่งงาน พร้อมกับลูกชายและลูกสาว และเมื่อพวกเขากลับมาบ้านในตอนกลางดึก ก็ต้องช็อกที่พบศพของภรรยาและสุนัขที่เลี้ยงไว้ ทั้งสองถูกฆ่าด้วยของมีคม จึงรีบแจ้งตำรวจทันที

หลังเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าวนกแก้วสัตว์เลี้ยงที่ผู้เสียชีวิตเลี้ยงไว้จู่ๆ ก็เงียบไปไม่ยอมส่งเสียงเจื้อยแจ้วเหมือนปกติ ทำให้สามีของผู้ตายสงสัยว่านกแก้วอาจรู้เห็นการฆาตกรรม ดังนั้นเขาจึงลองพูดชื่อผู้ต้องสงสัยให้นกแก้วฟังทีละคนๆ กระทั่งมาถึงชื่อหลานชายอย่าง “อาชู”

ภาพประกอบ

ทันทีที่นกแก้วได้ยินชื่อนี้ก็แสดงอาการตื่นตระหนก และเริ่มกรีดร้องเรียกชื่อ “อาชู! อาชู!” ไม่หยุด แม้แต่ต่อหน้าตำรวจราวกับว่าต้องการให้ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุฆาตกรรมภรรยาของเขา

เมื่อสามีของผู้เสียชีวิตเห็นปฏิกิริยาของนกแก้วจึงขอให้ตำรวจสอบปากคำหลานชาย กระทั่งอีกฝ่ายยอมรับสารภาพในที่สุด ว่าลงมือฆ่าชิงทรัพย์โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนของเขา

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นมาแล้ว 9 ปี ล่าสุดวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้พิพากษาพิเศษ พิพากษาตัดสินให้อาซูและผู้สมรู้ร่วมคิดอีกคนหนึ่งจำคุกตลอดชีวิต และปรับ 72,000 รูปีหรือราว 30,000 บาท บนพื้นฐานของหลักฐานพยานที่รวบรวมได้

อย่างไรก็ดี แม่ว่าคดีนี้ “นกแก้ว” จะถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมาก เพราะมีส่วนช่วยจับกุมผู้ก่อเหตุได้สำเร็จ แต่นกแก้วไม่เคยถูกนำเสนอในฐานะหลักฐานพยานระหว่างการพิจารณาคดีก็ตาม เนื่องจากพระราชบัญญัติการพิสูจน์หลักฐานไม่ได้บัญญัติไว้เช่นนั้น

ภาพประกอบ

ทั้งนี้ ลูกสาวของผู้เสียชีวิตได้เผยว่า ก่อนหน้าที่จะก่อเหตุอาซูเคยมาอยู่ที่บ้านหลายปี อีกทั้งพ่อของเธอยังเคยมอบเงิน 80,000 รูปีหรือราว 33,000 บาทให้เขา เพื่อเป็นทุนศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ทำให้อาซูรู้ว่าทรัพย์สินมีค่าและเงินสดถูกเก็บไว้ที่ไหนในบ้าน จากนั้นเขาวางแผนปล้นฆ่าชิงทรัพย์โดยใช้มีดแทงสุนัขที่เลี้ยงไว้ 9 ครั้ง และแทงแม่ของเธอ 14 ครั้ง “ครอบครัวของฉันต้องการให้อาชูถูกแขวนคอ และทุกคนในครอบครัวจะยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดเพื่อให้ลงโทษเขา” ลูกสาวกล่าวเสริม สุดท้ายทางครอบครัวได้บอกอีกด้วยว่า นกแก้วตายไปแล้วหลังจากเกิดเหตุฆาตกรรมได้ประมาณ 6 เดือน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ