ครม.นัดสุดท้ายก่อนยุบ เทกระจาด 1.7 แสนล้าน บรรจุวาระ 88 เรื่อง ถกวาระร้อนสายสีส้ม รมต.หลายคนผวางานเข้า รุมค้าน ‘บิ๊กตู่’ ทุบโต๊ะ สั่งถอน
วันที่ 14 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เรียกเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ขึ้นไปพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล คาดหารือโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขณะที่การประชุม ครม.ครั้งนี้ใช้เวลายาวนานที่สุดในรัฐบาลชุดนี้ ประมาณ 7 ชั่วโมง เริ่มประชุมเวลา 10.00 น. และเลิกเวลา 16.00 น. ซึ่งพิจารณาวาระมากถึง 88 เรื่อง
รายงานข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่เริ่มประชุม ครม. นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม มีสีหน้าเคร่งเครียด ลุกลี้ลุกลน และลุกออกไปคุยโทรศัพท์บ่อยครั้ง แต่บรรยากาศเริ่มตึงเครียดในช่วงบ่าย หลังจากบรรจุวาระ รถไฟฟ้าสายสีส้ม เข้าพิจารณาในวาระจร โดยเวลา 14.00 น. ที่มีการแจกเอกสารเพื่อเตรียมเข้าสู่วาระพิจารณา มีรัฐมนตรีบางคนทยอยเดินทางกลับ โดยเวลา 14.15 น. นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ จากพรรคประชาธิปัตย์ เดินออกทางด้านหลังตึกสันติไมตรี พร้อมบอกว่า “ผมไปก่อนแล้ว” ผู้สื่อข่าวถามว่าถือเป็นการวอล์กเอาต์ได้หรือไม่ นายสินิตย์ ยอมรับว่าได้และใช่เลย แต่พรรคยังมีรัฐมนตรีนั่งอยู่ในห้อง
ต่อมาเวลา 14.30 น.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ได้เดินทางกลับ แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้หนี แต่มีประชุมพรรคในเวลา 15.00 น.
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมครม.ได้เริ่มพิจารณาเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม แต่ปรากฎว่ามีรัฐมนตรีหลายคนทักท้วง ไม่เห็นด้วยโดยขอให้รอคำพิพากษาศาลปกครองก่อน อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ อธิบายว่าเรื่องดังกล่าวมี 4 ประเด็นที่ต้องพิจารณา แต่ส่วนตัวเห็นว่า ครม.ควรเห็นชอบ แต่เนื่องมีคดีค้างอยู่ในศาล ควรให้มีคำพิพากษาของศาลก่อน แต่ยังไม่ควรมีการอนุมัติให้ลงนามในสัญญาจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ทั้งนี้ มีรัฐมนตรีหลายคนเห็นด้วยกับความเห็นของนายวิษณุ อาทิ นายอเนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา
หลังจากแสดงความเห็นอย่างกว้างขวางราวชั่วโมง ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ พูดตัดบทว่า “ผมตัดสินใจให้ถอนเรื่องไปก่อน รอให้ศาลพิจารณาได้ข้อยุติก่อน ส่วนเรื่องของอนาคตค่อยว่ากัน ขอโทษด้วยที่ต้องถอนเรื่องนี้ออกไป เข้าใจทุกฝ่าย ถ้าโครงการนี้ดีและไม่มีข้อครหา รัฐบาลหน้าก็มาดำเนินการต่อ ถ้าอยากอนุมัติเร็วๆ ก็ต้องรัฐบาลให้ได้เร็วๆ
จากนั้นนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข แนะนำว่า หากจะถอน ต้องให้นายอธิรัฐ เป็นผู้ขอถอนวาระดังกล่าวออก เพราะเป็นผู้เสนอ นายอธิรัฐจึงขอถอนวาระ จากนั้นที่ประชุม ครม.ได้พิจารณาวาระต่อ
อย่างไรก็ตาม น่าสังเกตว่า แม้นายอธิรัฐแม้จะเป็นผู้เสนอเรื่องเข้ามา และนายอนุทิน เป็นคนเซ็นให้ผ่านเข้าที่ประชุม ครม.ในฐานะรองนายกฯ กำกับดูแลกระทรวงคมนาคม แต่ทั้งสองกลับไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม ครม.วันนี้ คาดว่าจะเป็นนัดสุดท้ายก่อนยุบสภา โดยเมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการจะไม่สามารถอนุมัติงบประมาณ งบผูกพันและนโยบายสำคัญได้อีก ดังนั้น กระทรวงต่างๆ จึงส่งเรื่องเข้ามาพิจารณา ทั้งวาระพิจารณา วาระเพื่อทราบและวาระจร รวมแล้วมากกว่า 100 วาระ ใช้เวลาประชุมร่วม 7 ชั่วโมง และมีการอนุมัติโครงการที่ต้องใช้เงินงบประมาณ การลดภาษี การให้สินเชื่อ และการชดเชยวงเงินให้กับสถาบันการเงิน รวมวงเงินกว่า 173,850 ล้านบาท
นอกจากนี้ ระหว่างการพิจารณาวาระ นำเสนอการกำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำปี 2565 ช่วงหนึ่งนายวิษณุ สอบถามประธานบอร์ดกองสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า การกำหนดประเภทใหม่นี้ ยังเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลใช่หรือไม่ ยืนยันกับครม.ได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเมื่อสิบปีที่แล้ว ประธานบอร์ดกองสลากฯ ยืนยันว่า ไม่ซ้ำรอยแน่นอน เพราะครั้งนี้เป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ผิดหลัก ไม่เหมือนกับครั้งก่อนที่เป็นสลากกินรวบ
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ กำชับว่า ช่วยดูแลอย่าให้มีทุจริต และอย่าให้ขายเกินราคา
