“รัชดา” เผย คณะรัฐมนตรี ผ่านร่างนโยบาย ร่างแผนปฏิบัติการ พัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ หวังสางปมไม่สงบ พัฒนาพื้นที่ ยึดมั่นหลักการสันติวิธี นิติรัฐ นิติธรรม และสิทธิมนุษยชน

15 มี.ค. 66 – น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ครม.เห็นชอบร่างนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) พ.ศ. 2565 – 2567 และร่างแผนปฏิบัติการด้านการบริหารและการพัฒนา จชต. พ.ศ.2566 – 2570

ตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ เสนอ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้แนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นกรอบจัดทำโครงการ กิจกรรม และงบประมาณในการขับเคลื่อนงานตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553

โดยร่างเอกสารทั้ง 2 ฉบับนี้ เป็นการวางกรอบและแนวทางการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกลไกการบูรณาการภารกิจระดับนโยบาย ไปสู่การปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ร่างนโยบายการบริหาร และการพัฒนาฯจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีกรอบแนวคิดนโยบาย ยึดมั่นในหลักการแบบสันติวิธี หลักนิติรัฐ นิติธรรม และหลักสิทธิมนุษยชน ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนและทุกภาคส่วน ภายใต้วิสัยทัศน์ ประชาชนมีความปลอดภัยและมีสันติสุข บนพื้นฐานของสังคมพหุวัฒนธรรม

มีวัตถุประสงค์ เพื่อแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมและแนวโน้มสถานการณ์โดยปราศจากเงื่อนไขที่เอื้อต่อการใช้ความรุนแรง รวมถึงพัฒนากระบวนการยุติธรรมและการเยียวยาให้ครอบคลุม ทั่วถึง และเป็นธรรม และมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและความต้องการของประชาชน ในพื้นที่เป้าหมาย จังหวัดนราธิวาส จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ 4 อำเภอ ของ จ.สงขลา ได้แก่ อ.นาทวี เทพา จะนะ และอ.สะบ้าย้อย

แบ่งกลไกการบริหารออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้ กลไกระดับนโยบาย ให้สภาความมั่นคงแห่งชาติมีหน้าที่อำนาจหลักในการพิจารณาแก้ไขปัญหาเชิงนโยบาย โดยจัดตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่ง เพื่อกำกับและประสานงาน, กลไกระดับแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติ กำหนดให้มีคณะกรรมการชุดหนึ่ง และกลไกระดับปฏิบัติในพื้นที่ กำหนดให้มีหน่วยงานรับผิดชอบหลักในพื้นที่

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ส่วนร่างแผนปฏิบัติการฯนำสาระสำคัญของร่างนโยบายการบริหารฯ มาดำเนินการ มี 8 แผนงานรองรับนโยบาย ภายใต้ 3 แนวทางการดำเนินการ ดังนี้ แนวทางด้านความมั่นคง มุ่งรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน มี 3 แผนงาน

คือ แผนงานเพิ่มประสิทธิภาพงานข่าวกรอง มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองและสนับสนุนภารกิจงานของแผนงานอื่นได้อย่างเป็นรูปธรรม แผนงานรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัย และแผนงานแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติวิธี มีเป้าหมายเพื่อมุ่งสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อกระบวนการพูดคุย

แนวทางด้านการพัฒนา มุ่งเน้นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและด้านสังคมในระดับฐานรากเสริมสร้างสังคมพหุวัฒนธรรม เพื่อลดเงื่อนไขการใช้ความรุนแรง 4 แผนงาน คือ แผนงานอำนวยความยุติธรรมและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ มีเป้าหมายเพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนต่อกระบวนการด้านความยุติธรรม แผนงานพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาระดับฐานรากในด้านเศรษฐกิจ สังคม และด้านอื่นๆ

โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มคนยากจน แผนงานพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน มีเป้าหมายเพื่อมุ่งเสริมสร้างความเข้มแข็งของสังคมพหุวัฒนธรรม และแผนงานเสริมสร้างความเข้าใจและประสานความร่วมมือ มีเป้าหมายเพื่อมุ่งสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนในพื้นที่ นอกพื้นที่ และต่างประเทศให้มีความเข้าใจต่อสถานการณ์

และสุดท้ายแนวทางด้านการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและเจ้าหน้าที่รัฐให้พร้อมขับเคลื่อนงาน มี 1 แผนงาน คือ แผนงานพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยหลักธรรมาภิบาล มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาเจ้าหน้าที่รัฐให้มีความพร้อมต่อการปฏิบัติงานในพื้นที่

ทั้งนี้ ร่างแผนปฏิบัติการได้กำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัด อาทิ เหตุการณ์ความรุนแรงลดลง ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม ประชาชนในชุมชนต่างวัฒนธรรมอยู่รวมกันอย่างสงบสุข โดยเทียบกับการดำเนินงานที่ผ่านมา