ครบ 1 ปีรัฐประหารเมียนมา-ครอบครัวของผู้ถูกคุมขังยังคงไม่รู้ชะตากรรมบุคคลอันเป็นที่รัก
ครบ 1 ปีรัฐประหารเมียนมา-รอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 29 ม.ค. ว่า ครอบครัวของผู้ถูกคุมขังในเหตุการณ์ต่อต้านการรัฐประหารเมียนมายังคงไม่ทราบชะตากรรมของบุคคลอันเป็นที่รักว่า เป็นตายร้ายดีอย่างไร หลังผ่านไปเกือบ 1 ปี เหตุการณ์ที่กองทัพยึดอำนาจนางออง ซาน ซู จี ผู้นำเมียนมา เมื่อ 1 ก.พ. 2564
ในคืนหนึ่งเมื่อเม.ย.ปีที่แล้ว นายวิน หล่าย อายุ 66 ปี ได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านว่า ลูกชาย คือ นายไว ซอ หล่าย ซึ่งกำลังมีลูกเล็กและเป็นเจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือในนครย่างกุ้งถูกทหารเมียนมาจับกุม เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการประท้วง
พ่อและสมาคมให้การช่วยเหลือนักโทษการเมืองหรือเอเอพีพี ไปตามข่าวลูกชายวัย 31 ปีที่สถานีตำรวจ แต่ไม่เจอร่องรอย ลูกหายตัวไป นายวิน หล่ายระบุว่า ตนเพียงแค่อยากรู้ว่าลูกชายยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ตนได้บอกลูกสาวของนายไว ซอ หล่าย ว่า พ่อไปทำงานที่อื่น ไกลออกไป
นายวิน หล่าย กล่าวว่า หลานสาวพูดพึมพำกับตนว่า “พ่อของหนูหายไปนานเกินไปแล้ว”
นายไว ซอ หล่ายเป็นหนึ่งในหลายคนที่นักเคลื่อนไหวและครอบครัวระบุว่า หายตัวไปตั้งแต่เมียนมาตกอยู่ในสถานการณ์ความไม่สงบ
สมาคมให้การช่วยเหลือนักโทษทางการเมืองประมาณว่า มีประชาชนถูกกักขังในคุกและศูนย์สอบสวนกว่า 8,000 คน รวมถึงนางซู จี และบุคคลในคณะรัฐมนตรีส่วนใหญ่ ขณะที่อีกกว่า 1,500 รายถูกสังหารและว่าหลายร้อยคนเสียชีวิตหลังจากถูกกักขัง
ด้านรัฐบาลทหาร ซึ่งไม่เปิดเผยตัวเลขประชาชนที่ถูกคุมขังระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวของสมาคมฯเกินจริงไปมากและกล่าวหาทางสมาคมฯว่า เผยแพร่ข้อมูลเท็จ
กองทัพไม่แจ้งญาติ เมื่อมีคนถูกจับกุมและแม้ว่าญาติมาถามข่าวถึงคุก เจ้าหน้าที่เรือนจำก็มักไม่แจ้งญาติอีก ดังนั้นหลายครอบครัวเพียรตามหาญาติอย่างยากลำบาก ไม่ว่าโดยการเรียกร้องและเดินทางไปถึงสถานีตำรวจรวมถึงคุกหลายแห่งหรือพึ่งพาสื่อท้องถิ่น ตลอดจนกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน
องค์การฮิวแมนไรต์ วอตช์ องค์การด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศระบุถึงวิธีตามหาญาติที่หายตัวไปว่า บางครั้งครอบครัวส่งพัสดุอาหารและหากมีคนรับพัสดุ ก็จะถือว่าเป็นสัญญาณว่า ญาติถูกขังอยู่จริง
ในหลายกรณีคนหาย นายโบ จี ผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมฯระบุว่า ทางสมาคมฯสามารถที่จะชี้ชัดว่าบุคคลใดถูกขังอยู่ แต่ไม่ล่วงรู้ถึงสถานที่คุมขัง ด้านนายแต ออง แบ็ก หัวหน้าคณะทำงานด้านการบังคับบุคคลให้สูญหายของสหประชาชาติหรือยูเอ็นระบุว่า ทางคณะทำงานฯได้รับรายงานจากหลายครอบครัวในเมียนมาถึงการอุ้มหายนับตั้งแต่เมื่อเดือนก.พ.ปีที่แล้ว
นายออง เนย์ เมียว นักเคลื่อนไหวอายุ 43 ปี ซึ่งหนีจากภูมิภาคสะกายทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมา ระบุว่า กองกำลังของรัฐบาลทหารนำตัวพ่อแม่และพี่น้องของตนออกไปจากบ้านเมื่อกลางเดือนธ.ค.ที่ผ่านมาและตนเองไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน แต่เชื่อว่าครอบครัวถูกกักขังรวมถึงพ่อวัย 74 ปี ซึ่งพิการจากโรคเส้นโลหิตในสมองอุดตัน เพราะงานที่ตนเองทำเป็นนักเขียนแนวเสียดสี
“ผมไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากห่วงกังวลอยู่ทุกช่วงขณะ” นายอ่อง เนย์ เมียวกล่าว
ยูเอ็นระบุว่า ในบางพื้นที่ ประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลทหารลุกขึ้นสู้กับกองทัพ ทำให้ประชาชนอีกหลายหมื่นคนไร้ที่อยู่ทั่วประเทศ ในจำนวนนี้หลายพันคนหนีข้ามพรมแดนไปยังไทยและอินเดีย
ในรัฐกะยา ทางตะวันออกเฉียงเหนือ สมรภูมิระหว่างฝ่ายต่อต้านและกองทัพดุเดือด นายบันยาร์ คุน หน่อง ผอ.กลุ่มสิทธิมนุษยชนกะเหรี่ยง องค์กรไม่แสวงหากำไร กล่าวว่า มีประชาชนสูญหายอย่างน้อย 50 คน ทางกลุ่มกำลังพยายามที่จะช่วยค้นหา โดยถามจากนักโทษที่ถูกปล่อยตัวเมื่อเร็วๆนี้
“ครอบครัวของประชาชนที่สูญหายตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน โดยเฉพาะทางจิตใจ เพราะทำให้หมดกำลังเรี่ยวแรงจากการไม่รู้ว่าบุคคลอันเป็นที่รักอยู่แห่งหนไหน”นายบันยาร์ คุน หน่อง กล่าว
นายมินต์ ออง อายุช่วงวัย 50 ปีตอนกลางและอาศัยอยู่ในค่ายผู้ไร้ที่อยู่ในรัฐกะยา กล่าวว่า นายปัสกาลาล ลูกชายวัย 17 ปี หายตัวไปเมื่อเดือนก.ย. 2564 ลูกชายบอกตนว่า จะกลับบ้านในเมืองลอยแก้ว เมืองเอกของรัฐกะยาเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ แต่ลูกกลับถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงกักขัง
ตนรู้ข่าวนี้มาจากชาวบ้านในหมู่บ้าน เมื่อตนไปเยี่ยมลูกที่สถานีตำรวจเพื่อส่งข้าวส่งน้ำ ตนพบว่าทหารหลายนายเฝ้าสถานีตำรวจอยู่ และตนวิ่งหนีออกมา นับแต่นั้น ตนไม่ได้ข่าวคราวจากลูกชายอีกเลย แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนที่ทราบข่าวจากวงสนทนากับคนหลายคนได้บอกแก่นายมินต์ อองว่า ลูกชายไม่ได้อยู่ที่สถานีตำรวจอีกแล้ว
ลูกชายของนายมินต์ ออง เป็นหนึ่งในวัยรุ่นชาย 2 คน ปรากฏในภาพถ่ายขณะถูกจับกุม ซึ่งคุกเข่าอยู่ข้างถนนและชู 3 นิ้วประท้วง ภาพดังกล่าวกลายเป็นไวรัล ซึ่งถูกโพสต์โดยบัญชีของทหารยศสูงรายหนึ่ง พร้อมคำบรรยายว่า ขณะที่เราปล่อยให้พวกเขาทำในสิ่งที่ต้องการก่อนที่เราจะยิงกระสุนทะลุศีรษะพวกเขา ซึ่งต่อมาบัญชีดังกล่าวถูกลบ
……..
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สั่งจำคุก20ปีมือขวาซูจี ข้อหากบฏ ศาลพิเศษทหารพม่าตัดสินไว
รัฐประหารเมียนมา : หมอและพยาบาลผู้ต่อต้านกองทัพเมียนมา