กรมควบคุมมลพิษ เผยปี 2564 สถานการณ์ขยะมูลฝอยมีปริมาณลดลง แต่ขยะติดเชื้อและขยะมีปริมาณอันตรายเพิ่มขึ้น แนะจัดการอย่างถูกวิธี

วันที่ 7 ก.พ.2565 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า สถานการณ์ขยะมูลฝอยในปี 2564 เกิดขึ้น 24.98 ล้านตัน ลดลงจากปี 2563 ร้อยละ1 โดยขยะมูลฝอยมีการคัดแยก ณ ต้นทาง และนำกลับไปใช้ประโยชน์ 8.61 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ3 กำจัดอย่างถูกต้อง 9.68 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 63 ร้อยละ 6 และกำจัดไม่ถูกต้องประมาณ 6.69 ล้านตัน ลดลงจากปี 2563 ร้อยละ15

สาเหตุหนึ่งที่ขยะมูลฝอยลดลงเนื่องมาจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ทำให้มีการควบคุมการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย แต่ขณะเดียวกันมีการปฏิบัติงาน Work From Home การสั่งอาหารเดลิเวอรี่ทำให้ปริมาณขยะพลาสติกใช้ครั้งเดียวเพิ่มขึ้น

นายอรรถพล กล่าวว่า ด้านขยะมูลฝอยติดเชื้อ ปี 2564 มีปริมาณ 90,009.23 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 87 โดยได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง 81,774.67 ตัน (ร้อยละ 90.85) ซึ่งในส่วนของการจัดการขยะมูลฝอยติดเชื้อ ด้านกรมอนามัยได้พัฒนาและปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการจัดการมูลฝอยติดเชื้อตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว

และในส่วนของกรมควบคุมมลพิษ ได้จัดทำข้อแนะนำในการทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว และชุดทดสอบแอนติเจน (ATK) ที่ใช้แล้ว โดยให้มีการคัดแยกออกจากขยะทั่วไป และให้มีถังขยะแยกสำหรับทิ้งขยะติดเชื้อโดยเฉพาะ

อธิบดีคพ. กล่าวว่า สำหรับของเสียอันตรายจากชุมชน ปี 2564 เกิดขึ้นประมาณ 669,518 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 1.6 ส่วนใหญ่เป็นซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 435,187 ตัน (ร้อยละ 65) และของเสียอันตรายประเภทอื่นๆ เช่น แบตเตอรี่ ถ่านไฟฉาย ภาชนะบรรจุสารเคมี กระป๋องสเปรย์ ประมาณ 234,331 ตัน (ร้อยละ 35) แนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเนื่องมาจากปัจจุบันประชาชนมีความต้องการและนิยมใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น

ส่วนแนวทางการจัดการของเสียอันตรายจากชุมชน มีการเพิ่มจุดรับของเสียอันตรายชุมชนในระดับชุมชนและระดับจังหวัด ผลักดันการออกร่าง พ.ร.บ. การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. …. จัดทำรูปแบบ หลักเกณฑ์มาตรฐานการจัดการของเสียอันตรายจากชุมชนที่ชัดเจนให้สอดคล้องกับรูปแบบ อปท. และลักษณะการจัดการขยะอื่นๆ