คพ. เตือนผู้เลี้ยงปลากระชัง รับมือคุณภาพน้ำฤดูฝน ส่งผลน้ำเสีย-ปลาน็อกน้ำตาย

Home » คพ. เตือนผู้เลี้ยงปลากระชัง รับมือคุณภาพน้ำฤดูฝน ส่งผลน้ำเสีย-ปลาน็อกน้ำตาย



คพ. เตือน เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง เตรียมรับมือปัญหาคุณภาพน้ำต้นฤดูฝน เหตุชะล้างสิ่งสกปรก-สารเคมีลงแม่น้ำ ส่งผลน้ำเสีย ออกซิเจนน้อย ปลาน็อกน้ำตาย

24 พ.ค. 66 – นายพิทยา ปราโมทย์วรพันธุ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และโฆษกกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน โดยในช่วงต้นฤดูฝนจะมีการชะล้างสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ลงสู่แหล่งน้ำ เป็นจำนวนมาก เช่น น้ำเสียที่ตกค้างอยู่ในท่อระบายน้ำเสีย น้ำชะจากพื้นที่เกษตร น้ำฝนที่ชะกองวัสดุสารเคมีและวัตถุอันตรายต่างๆ เป็นต้น

ซึ่งอาจทำให้คุณภาพน้ำเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน เช่น ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลง เกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ความเป็นกรด – ด่าง และความขุ่นของน้ำอย่างรวดเร็วหลังฝนตก เป็นต้น ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำและระบบนิเวศ

โดยจากการติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำ แหล่งน้ำผิวดินทั่วประเทศ ในช่วงเดือน พ.ค. – มิ.ย. ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูฝน พบว่า แหล่งน้ำจะอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมเพิ่มมากขึ้น หรือ อยู่ในเกณฑ์แหล่งน้ำประเภทที่ 4 สามารถใช้ประโยชน์เพื่อการอุตสาหกรรม ส่วนการใช้ประโยชน์เพื่อการอุปโภคและบริโภคต้องผ่านการฆ่าเชื้อโรคตามปกติ และผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำเป็นพิเศษก่อน

นายพิทยา กล่าวอีกว่า ผลกระทบที่เกิดจากการชะล้างสิ่งปนเปื้อนในช่วงต้นฤดูฝน ส่งผลให้น้ำมีความขุ่นและตะกอนแขวนลอยเพิ่มขึ้น เกิดผลกระทบต่อสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาจะมีปัญหาในการแลกเปลี่ยนออกซิเจนของเหงือก จนทำให้ปลาตายได้คราวละมากๆ ในระยะเวลาอันสั้นหรือที่เรียกว่า อาการน็อกน้ำ (Fish kill)

ทั้งนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังควรเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสัตว์น้ำ เช่น เตรียมเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจน โดยเมื่อฝนหยุดตกควรเปิดเครื่องตีน้ำและควรลดปริมาณอาหารให้น้อยลงหรืองดให้อาหารในวันที่ฝนตกเพื่อลดปริมาณของเสียในบริเวณกระชัง เป็นต้น

“ทั้งนี้ คพ. ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนในการป้องกันปัญหาคุณภาพน้ำในช่วงฤดูฝน โดยการจัดเก็บสารเคมี วัตถุอันตรายที่ใช้ในการเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และบ้านเรือน ให้อยู่ในที่ปลอดภัยและพ้นน้ำ ดูแลบ่อเก็บกักน้ำเสีย/บ่อบำบัดน้ำเสียและสถานที่กำจัดขยะมูลฝอย ไม่ให้เกิดการรั่วไหลลงสู่แหล่งน้ำหรือออกสู่สิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้หากพบปัญหาน้ำเสียหรือสารเคมีรั่วไหลประชาชนผู้พบเหตุสามารถแจ้งเหตุฉุกเฉินมายังกรมควบคุมมลพิษผ่านทางสายด่วน 1650” นายพิทยา กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ