ติดตามความคืบหน้ากรณี “เสี่ยดำ” หรือ นายเปลี่ยนวิถี ต้องถือดี อายุ 56 ปีบ้านอยู่หมู่ 13 ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เป็นเจ้าของค่ายมวยอยู่ที่ จ.สุรินทร์ ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนจ่อยิงศีรษะและท้ายทอยเสียชีวิตภายในรถตู้ยี่ห้อฮุนได สีเทา ซึ่งเป็นรถมาจากประเทศกัมพูชา ระหว่างนำนักมวยมาชกที่งานฉลองพัดยศของเจ้าอาวาสวัดหนองเต็ง ต.หนองเต็ง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.วันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา
ซึ่งด้าน พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบคืนเกิดเหตุผู้ตายเอามวยเล็ก(ก่อนเวลา) มาชก 2 คู่ แต่ไม่ได้ทะเลาะกับใคร แต่จะไม่ทิ้งประเด็นทุกประเด็นรวมถึงวงการมวยด้วย ตอนนี้ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน คาดว่าจะคลี่คลายในไม่ช้า
ล่าสุด นายชาตรี คนสนิทของเสี่ยดำ เล่าว่า เท่าที่รู้จักกับเสี่ยดำมานานกว่า 20 ปี เสี่ยดำเป็นคนดี ใจกว้าง โดยเฉพาะวงการมวย หลายครั้งถ้าเป็นงานการกุศลจะเอานักมวยไปต่อยฟรีโดยไม่คิดค่าตัว และเมื่อเดือนก่อนที่ผ่านมาเสี่ยดำ ได้จัดรายการมวยให้ทุกคนได้ชมฟรีงบประมาณ 300,000 บาทที่บ้านของเสี่ยดำเอง ยังมองว่าเสี่ยดำเป็นคนดี ส่วนจะไปขัดผลประโยชน์ใครนั้น “ผมไม่ทราบ” สำหรับการลงมือสังหารในครั้งนี้ส่วนตัวมองว่ามีคนจ้องจะเก็บเสี่ยดำให้ได้ เป็นการเจาะจงลงมือ
- “ชุติพงศ์” สส. ก้าวไกล ชี้ไฟไหม้ บ.วินโพรเสส ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
- ทนายตั้ม ซัด! คดี 2 บิ๊กตำรวจ พัวผันฟอกเงิน ทำงานสองมาตรฐาน
- ดาบ ส. ยอมรับ! ให้ประชาชนโอนค่าปรับ เข้าบัญชีคนสนิทจริง
สำหรับธุรกิจของเสี่ยดำ
นายชาตรี กล่าวว่า มีโรงน้ำดื่มส่งขายในตลาดช่องจอม มีธุรกิจห้องน้ำให้บริการในตลาดช่องจอมเช่นเดียวกัน ถ้าจะให้คิดน่าจะเป็นเรื่องขัดผลประโยชน์หรือไม่ตนไม่แน่ใจ แต่ถ้าวงการมวยตนขอตัดออกไป ส่วนที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าเสี่ยดำเคยมีคดีฆ่าคนตายตนก็ไม่ปักใจเชื่อ ส่วนประเด็นภรรยาอีกคนที่ประเทศกัมพูชาก็มีความเป็นไปได้น้อย
ต่อมา ทางด้าน ลูกชายของเสี่ยดำ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนพานักมวย 2 คนมาชกที่ อ.กระสัง ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 04.00 น.พ่อพาตนจะไปพักที่รถตู้ พ่อเดินนำหน้ามาส่วนตนเดินตามหลังพ่อ เมื่อมาถึงที่รถพ่อได้เปิดประตูขึ้นไปเอนเบาะนอน ส่วนตนกำลังจะเลือนประตูขึ้นทางเดียวกับพ่อเพื่อขึ้นไปบนรถ ทันใดนั้นได้มีคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อแขนยาวสีออกเขียว สวมหมวก เดินมาแง้มประตูรถพ่อแล้วจ่อยิงต่อหน้า ตนตกใจมากทำอะไรไม่ถูกกระทั่งมีคนวิ่งมาดูกัน ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบแต่ไม่ได้มีเรื่องกับใครในงาน