คนแรุงเฮ ชัชชาติ สั่ง เบรกเก็บค่าขยะอัตราใหม่ จาก 20 บาทเป็น 80 บาท ลั่นไม่อยากเพิ่มภาระให้ประชาชน เล็งลดต้นทุนจัดการขยะแทน
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2565 ที่ศาลาว่าการกทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ปัจจุบันกทม.ใช้งบประมาณกว่า 8,000 ล้านบาทต่อปี ในการจัดการขยะ แต่จัดเก็บค่าขยะได้เพียง 500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นจำนวนไม่มาก หากเทียบกับค่าจัดการขยะ จึงมีนโยบายทบทวนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเก็บขนสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยอัตราใหม่ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยจัดเก็บอัตราใหม่ จาก 20 บาทเป็น 80 บาทนั้น ถือว่าเป็นจำนวนที่มาก เกรงจะไปซ้ำเติมประชาชนที่ตกอยู่ในภาวะเช่นนี้ และแม้จะเก็บอัตราใหม่ก็ได้ค่าขยะไม่มาก จึงยืนยันว่าจะยังไม่เก็บค่าขยะอัตราใหม่
“ยังไม่มีแนวคิดจะเพิ่มค่าขยะในตอนนี้ เพราะประชาชนลำบากด้วยเศรษฐกิจแบบนี้ ถ้าเลื่อนได้ ให้เลื่อนไปก่อน ส่วนตัวคิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะขึ้นตอนนี้จาก 20 เป็น 80 บาท ถือว่าหนัก ผมว่าชาวบ้านเดือนร้อนอยู่แล้ว อย่าเพิ่งไปเพิ่มภาระให้” ผู้ว่าฯกทม. กล่าว
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ มองว่าควรลดต้นทุนจัดการขยะ ที่กทม.ต้องใช้งบประมาณหมื่นล้านต่อปี มากกว่าการไปเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียม โดยการรณรงค์แยกขยะ ด้วยแนวคิดขยะเป็นทองคำ โดยการเพิ่มแรงจูงใจ แยกขยะ นำไปรีไซเคิลและใช้ประโยชน์หรือนำไปขายได้ เชื่อว่าหากมีการคัดแยกขยะ จะลดค่าจัดการขยะที่กทม.ต้องเสียปีละ 8,000 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายผู้เกี่ยวข้องไปดูในรายละเอียดต่อไป
ด้านนายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า หากเก็บอัตราใหม่ กทม.จะได้ค่าขยะ 1 พันล้านบาท สำหรับข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้ 1 ต.ค.62 และได้มีการเลื่อนการบังคับใช้จำนวน 3 ครั้ง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด โดยข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2564 จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ต.ค.65
อย่างไรก็ตาม หากผู้บริหารจะเลื่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียม จะต้องเสนอร่างข้อบัญญัติฉบับใหม่ โดยขอแก้ไขเพียงกำหนดระยะเวลาบังคับใช้ ต่อสภากรุงเทพมหานคร พิจารณา เพื่อความเห็นชอบก่อน จึงจะประกาศเลื่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมได้