จากกรณีที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็ดสลดใจ กับกรณีการทำร้ายร่างกายอย่างทารุณ ทหารหญิงรับใช้ ทั้งตี ช็อตไฟฟ้าช็อตที่หัวและตัว เอาฟุตเหล็กสับหน้า เอาไม้ตีจนดั้งหักหัวแตกหูฉีกช้ำทั้งตัวหน้าผิดรูป เอาสเปรย์ฉีดใส่หัวแล้วจุดไฟ ก่อนได้รับความช่วยเหลือ
ต่อมา ‘สตท.หญิง’ ผู้ต้องหาในคดีทำร้ายทหารรับใช้ สต.หญิงอดีตทหารเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี รับสารภาพก่อเหตุจริง อ้างว่ามีอาการป่วย ควบคุมตนเองไม่ได้เป็นระยะ พร้อมยื่นใบรับรองเเพทย์ ระบุว่าได้เข้ารับการรักษามาแล้ว 2 ปี แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าอาการที่เป็นคือโรคอะไร
ข่าวนี้จึงเป็นกระแสที่พูดในโลกออนไลน์และสะเทือนไปทั้งประเทศ ด้วยการกระทำที่ทารุณสุดๆ เกินคนจะรับไหวทำให้คดีนี้ยังเป็นที่น่าจับตามองมากที่สุดและมีความซับซ้อนในคดีค่อนข้างมาก ล่าสุดเพจ Poetry of Bitch นั้นได้ออกมาสรุปทามไลน์ให้อ่านกันง่ายๆว่าต้นสายปลายเหตุ และเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนนี้ไปถึงไหนแล้วสำหรับคนที่ตามข่าวไม่ทันต้องอ่าน!
สรุปเรื่องราว สตท.หญิง ทำร้ายทหารรับใช้
ตำรวจหญิงทารุณทหารรับใช้ข่าวเดียวสะเทือน 3 วงการ‘ตำรวจ-ทหาร-การเมือง’
จากลูกจ้างร้านกาแฟสู่การเป็นทหารหญิง
- 1- “เอ” (นามสมมุติ) ทหารหญิงจากราชบุรี ได้ร้องเรียนรายการ “โหนกระแส” ของ “หนุ่ม กรรชัย” ว่าตนถูกตำรวจหญิงคนหนึ่งทำทารุณกรรมมานาน 2 ปี
- 2- เอเล่าว่าเดิมทีตนทำงานเป็นลูกจ้างร้านกาแฟของ “เจ๊หมวย“ (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นตำรวจหญิงยศสิบโท และอ้างว่าตัวเองเป็นภรรยาของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) คนหนึ่ง
- 3- ต่อมาเจ๊หมวยบอกเอว่าจะพาไปเป็นทหาร แต่ต้องสัญญาว่าถ้าได้เป็นแล้วจะมาอยู่ดูแลเจ๊หมวย เอก็รับปาก
- 4- จากนั้นเอได้รับโทรศัพท์บอกให้ไปกรอกใบสมัครที่กองบัญชาการ เอก็ไปสมัครและดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ
- 5- สองเดือนต่อมาเอได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าให้ไปเริ่มงานที่ รร.ช่างฝีมือทหาร ทำงานได้ระยะหนึ่งก็ไปฝึกวิชาทหารเพื่อติดยศ โดยเอได้ยศสิบตรีหญิง ได้รับเงินเดือน 10,800 บาท
ขอตัวไปช่วยราชการ = ไปเป็นทหารรับใช้
- 6- หลังจากนั้นไม่นานเอก็ได้รับแจ้งว่ามีหนังสือขอตัวไปช่วยราชการ ต่อจากนี้ให้เอไปทำงานที่บ้านเจ๊หมวยได้เลย เอจึงไปทำงานและพักอยู่กับเจ๊หมวยที่บ้าน
- 7- เอมีหน้าที่ดูแลเจ๊หมวยตั้งแต่ตื่นนอน ดูแลเรื่องอาหารการกิน ทำความสะอาดบ้าน ทำธุระปะปังต่าง ๆ ให้แล้วแต่เจ๊หมวยจะใช้
- 8- แต่เจ๊หมวยกลับเรียกร้องเงินหลักแสนจากเอ อ้างว่าตนต้องจ่ายเงินเพื่อเอาเอเข้าเป็นทหาร เอจึงไปขอเงินจากทางบ้านมา 2 แสนบาท โดยไม่ได้บอกว่าเอามาทำอะไร แต่เงินยังไม่พอจึงต้องขายมอเตอร์ไซค์และโน้ตบุ๊กเพิ่ม
- 9- ส่วนเงินเดือนของเอ หลังหักสหกรณ์ออมทรัพย์แล้วจะเหลือ 5,300 บาท เอต้องโอนให้เจ๊หมวยทุกเดือน เพราะเจ๊หมวยอ้างว่าตนเป็นคนสร้างอาชีพให้เอ ดังนั้นเงินเดือนต้องเป็นของเจ๊หมวย
ถูกทารุณกรรม
- 10- เอดูแลเจ๊หมวยมาเรื่อย ๆ แต่ระยะหลังเจ๊หมวยบอกว่าเอทำงานไม่ดี ไม่เอาใจใส่เจ๊หมวยเหมือนก่อน และเริ่มใช้กำลังตบตี เช่น ตบปากเอเพราะพูดไม่มีหางเสียง หรือให้เอตบปากตัวเองไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเลือดออก อ้างว่าต้องการสั่งสอนให้เป็นคนดี ฟาดด้วยไม้แขวนเสื้อจนแตกเป็นริ้วทั้งตัว และฟาดหลังด้วยไม้หน้าสาม บางครั้งใช้วิธีการปรับเงิน เช่น ปรับเพราะไม่พูดคำว่าค่ะ หรือทำแก้วแตก 1 ใบ ปรับ 500 บาท
- 11- การใช้กำลังรุนแรงและพิสดารขึ้นเรื่อย ๆ เช่น
- – เอหนีบผมให้ไม่ถูกใจ เจ๊หมวยก็เอาที่หนีบผมร้อน ๆ มาหนีบข้อมือเอจนเป็นแผลเหวอะ ทิ้งรอยแผลเป็นมาจนปัจจุบัน- ช็อตด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า แรก ๆ ช็อตในร่มผ้าเพื่อไม่ให้คนเห็นแผล หลัง ๆ ช็อตหัวและปาก โดยเจ๊หมวยบอกเอว่าในปากมีน้ำ นำกระแสไฟฟ้าได้ดี
- – ตีด้วยไม้ถูพื้นที่ด้ามจับเป็นอลูมิเนียมจนหัก 3 ท่อน และในขณะที่เลือดยังไหลโกรกอยู่ก็ต้องไปรีดผ้าต่อ และห้ามไม่ให้เลือดเปื้อนเสื้อผ้าของเจ๊หมวย
- – เอาสเปรย์พ่นใส่ผมแล้วจุดด้วยไฟแช็ก ทำให้เอต้องตัดผมสั้นมาถึงทุกวัน
- – เอาไม้บรรทัดฟุตเหล็กสับเข้าไปที่หน้าจนดั้งจมูกหัก จมูกหายใจได้เพียง 1 ข้าง
- – ส่วนหูก็ฟังได้ข้างเดียวเพราะได้รับความกระทบกระเทือนจากการถูกตีด้วยไม้
- – ตีจนหัวแตกแล้วไม่ให้ไปหาหมอ ไม่ให้เย็บแผล ปล่อยให้หายเอง แต่จนถึงตอนนี้แผลก็ยังไม่หาย
- – ตีจนปากแตกแล้วเอาน้ำยาล้างห้องน้ำราดที่แผล
- 12- เอเคยคิดจะหลบหนีแต่เจ๊หมวยขู่ว่าถ้าเอหนี ครอบครัวของเอจะต้องรับผิดชอบ อีกทั้งเอไม่มีโอกาสใช้โทรศัพท์ตามลำพัง จะมีเจ๊หมวยอยู่ด้วยตลอด ทำให้ไม่มีโอกาสได้ขอความช่วยเหลือจากใคร ครั้งหนึ่งเอโทรหาญาติต่อหน้าเจ๊หมวย แต่พูดได้แค่คำเดียวว่า “เจ็บ”
2 ปีแห่งความทรมาน
- 13- เออยู่กับเจ๊หมวยมานาน 2 ปี จนทนไม่ไหวกับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่ได้รับ หากหนีก็กลัวพ่อแม่เดือดร้อน จึงคิดว่าทางออกเดียวคือการฆ่าตัวตาย
- 14- ช่วงใกล้วันแม่ที่ผ่านมา เอหาโอกาสใช้โทรศัพท์ทักไปบอกรักพ่อแม่และพี่น้องเหมือนเป็นการบอกลา ทำให้ทุกคนฉุกใจว่าน่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเอ
- 15- วันที่ 11 สิงหาคม 2565 แม่ตัดสินใจไปหาเอที่บ้านเจ๊หมวยโดยไม่บอกล่วงหน้า ทำให้ได้เห็นสภาพลูกที่มีบาดแผลรอยเขียวช้ำเต็มตัว จึงรีบปรึกษาน้าและพากันไปแจ้งปลัดอำเภอ ปลัดก็ประสานตำรวจให้
- 16- เจ๊หมวยบอกว่าถ้าเอไม่อยากรับใช้เธอแล้วก็ต้องคืนอาชีพด้วยการลาออกจากทหาร เอจึงไปลาออก แต่เธอมีเงินค้างสหกรณ์อยู่ 70,000 บาท จึงต้องยืมเงินเจ๊หมวยมาปิดหนี้สหกรณ์อีก
- 17- หลังเอลาออก เจ๊หมวยบอกว่าเอจะไปจากเธอได้ก็ต่อเมื่อจ่ายหนี้แล้ว แต่หนี้เพิ่มจาก 70,000 บาท เป็น 91,500 บาทแล้ว เพราะมีดอกเบี้ยด้วย ครอบครัวเอก็ไปหาเงินมาให้และนัดรับตัวเอที่ห้างบิ๊กซีในวันที่ 13 สิงหาคม 2565
- 18- แต่ปรากฏว่าเจ๊หมวยไม่พาเอไปตามนัด อ้างว่าเอยังมีพันธะต่อเธออยู่ แม่จึงโทรแจ้งตำรวจที่ได้ประสานไว้ก่อนหน้านี้และพากันไปที่บ้านของเจ๊หมวย สุดท้ายเอจึงได้กลับบ้าน
สายลึกลับโทรขู่ “หนุ่ม กรรชัย”
- 19- เมื่อได้กลับไปหาครอบครัวแล้ว เอเกรงว่าเจ๊หมวยจะตามคุกคามตนและครอบครัว จึงร้องเรียนและขอความช่วยเหลือไปยังรายการโหนกระแส
- 20- หนุ่ม กรรชัย เชิญเอ แม่ และน้าสาวมาออกรายการ ปรากฏว่ามีสายปริศนาโทรเข้ามาข่มขู่หนุ่มว่าอย่าทำเรื่องนี้ เพราะคนนี้เป็นผู้มีอิทธิพลและเป็นนักกฎหมาย หนุ่มก็บอกว่า “ไม่ต้องขู่ นี่เป็นเรื่องของการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์”
- 21- ต่อมายังมีคลิปหลุดที่เจ๊หมวยถ่ายไว้เพื่อแบล็คเมล์เอ โดยในคลิปเจ๊หมวยกล่าวหาว่าเอแอบอ้างชื่อ สว. และขู่เอว่า “กูจะเอาไม่ให้มึงเหลือที่ยืนเลย” แล้วตรงเข้าไปทุบตีเอโดยที่เอไม่ตอบโต้
- 22- ทราบภายหลังว่าคลิปนี้ถ่ายที่โรงแรมแห่งหนึ่งในหัวหิน ผู้ถ่ายคลิปเป็นตำรวจหนุ่มคนสนิทของเจ๊หมวย แต่ตำรวจคนดังกล่าวถูกออกจากราชการไปแล้วเมื่อเมษายน 2565 เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการทุจริต
คำถามจากประชาชน
- 23- หลังเรื่องนี้กลายเป็นข่าวดังก็เกิดคำถามมากมายจากประชาชน เช่น กองทัพจะชี้แจงอย่างไรที่มีคนกล่าวอ้างว่า สามารถยัดคนเข้าบรรจุเป็นทหารได้ แถมยังดึงตัวออกมารับใช้ได้อีก
- เจ๊หมวยอายุ 44 ปี (เกิด พ.ศ. 2521) เข้ารับราชการตำรวจเมื่อปี 2560 แต่เกณฑ์การบรรจุแต่งตั้งบุคคลภายนอกเข้ารับราชการตำรวจจะรับคนที่อายุไม่เกิน 35 ปี แล้วเจ๊หมวยเข้าไปเป็นตำรวจตอนอายุ 39 ได้อย่างไร
- เจ๊หมวยเป็นตำรวจสันติบาล แต่ชื่ออยู่ในสังกัด กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนใต้ แต่ทำไมตัวอยู่ราชบุรี ได้รับทั้งเงินเดือนและค่าตอบแทนพิเศษจากพื้นที่เสี่ยงภัย
- เจ๊หมวยเป็นภรรยา สว. ตามที่อ้างจริงหรือไม่ และ สว.คนนั้นคือใคร บางกระแสข่าวบอกว่าเป็นภรรยาน้อย ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 ปีเอไม่เคยเห็น สว.มาที่บ้าน อยากให้รัฐบาลตรวจสอบเรื่องนี้ ถ้าอภิสิทธิชนก่อเหตุแบบนี้ได้ ประชาชนจะอยู่อย่างไร
- การกระทำของเจ๊หมวยเข้าข่ายค้ามนุษย์หรือไม่
- นี่คือวิธีการที่ สว.อยากมีเมียน้อย แต่ไม่อยากใช้เงินตัวเองเลี้ยง เลยให้ไปเป็นตำรวจจะได้เอาภาษีประชาชนไปจ่ายเงินเดือนให้เมียน้อย แล้วหาคนรับใช้ให้ด้วยการยัดคนเข้าไปเป็นทหาร ก่อนทำเป็นขอตัวช่วยราชการเพื่อดึงมารับใช้เมียน้อย สว.ใช่หรือไม่
เพจดังเปิดประวัติเจ๊หมวย
- 24- ต่อมาเพจ “บิ๊กเกรียน” ออกมาเปิดประวัติเจ๊หมวยว่า เรียนจบ ปวส. เดิมเป็นเซลส์ขายรถแล้วมาพบรักกับ สว. และได้รับการชักนำมาเป็นตำรวจเมื่อปี 2560 ตอนแรกติดยศสิบตำรวจตรี อยู่กองการเงินฯ ต่อมาย้ายไปสังกัดสันติบาล ก่อนย้ายไปช่วยราชการที่ กอ.รมน. เมื่อมิถุนายน 2565 แต่ไม่ได้ไปจริง ตัวยังอยู่ราชบุรี
- 25- สำหรับตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ใน กอ.รมน. นอกจากเงินเดือนแล้ว จะได้รับเบี้ยเสี่ยงภัยและค่าครองชีพรายเดือน รวมทั้งได้สิทธินับเวลาราชการทวีคูณ (เช่น ปฏิบัติราชการ 1 ปีคิดเป็น 2 ปี) ซึ่งจะส่งผลต่อขั้นเงินเดือนและลำดับอาวุโส
- 26- พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ให้สัมภาษณ์ Workpoint Today ว่าต้องยอมรับว่ามีการทำกันอย่างไม่อายฟ้าอายดิน บางคนตัวอยู่กรุงเทพฯ ชื่ออยู่ภาคใต้ ทำงาน 1 ปี เท่ากับทำ 2 ปี เอาอายุราชการมาคำนวณบำเหน็จบำนาญได้และมีโอกาสได้เลื่อนขั้นอีก เลยมีการส่งชื่อลูกหลานหรือพวกเดียวกันไป แต่ตัวไม่ไป เพื่อเอาผลประโยชน์เหล่านี้
- 27- ในขณะที่ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล บอกว่ามีคำสั่งให้เจ๊หมวยไปอยู่ กอ.รมน.จริง แต่เจ๊หมวยทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานของ สว.คนหนึ่ง ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบ และเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นทาง กอ.รมน.ก็ส่งตัวเจ๊หมวยกลับต้นสังกัด คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว
ศาลไม่ให้ประกัน-ส่งตัวเข้าเรือนจำ
- 28- ต่อมาเจ๊หมวยเข้ามอบตัวและให้ปากคำโดยวิ่งหนีนักข่าวสุดฤทธิ์ เจ๊หมวยรับสารภาพว่าทำร้ายร่างกายเอจริง แต่ทำลงไปเพราะป่วย และนำใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มาแสดง ระบุว่าเจ๊หมวยมีอาการควบคุมตัวเองไม่ได้เป็นระยะ ๆ และรับการรักษาต่อเนื่องมาประมาณ 2 ปี แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นโรคอะไร
- 29- เรื่องนี้ทำให้เกิดประเด็นใหม่อีกว่า แพทย์ที่ออกใบรับรองไม่ใช่ผู้รักษา แค่ลงความเห็นจากประวัติการรักษาโดยใช้วิธีซักถามกับเจ้าตัวเท่านั้น ต่อมาตำรวจเลยบอกว่าจะเดินทางไปสอบสวนแพทย์หญิงที่ออกใบรับรองให้เจ๊หมวยด้วย
- 30- ในขณะที่เอยืนยันว่าตลอดเวลา 2 ปี ที่ต้องไปไหนมาไหนกับเจ๊หมวยตลอด เพราะต้องคอยดูแลรับใช้ ไม่เคยเห็นเจ๊หมวยทานยาหรือไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการดังกล่าวเลย แต่เจ๊หมวยมักขู่เอว่า “กูจะทำอะไรมึงก็ไม่ผิด เพราะกูมีประวัติการรักษาทางจิต”
- 31- ล่าสุดศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวเจ๊หมวย เนื่องจากทั้งเอและตำรวจทำหนังสือคัดค้านการประกันตัว ประกอบกับพบว่าเจ๊หมวยส่งข้อความไปหาเอทางไลน์ แล้วกดยกเลิกข้อความไป ทำให้เจ๊หมวยถูกส่งตัวเข้าเรือนจำกลางราชบุรีทันที
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY