คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงมติรับสมาชิกเพิ่มอีก 5 ประเทศ ที่จะมีระยะเวลาสมาชิกภาพ 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีหน้าเป็นต้นไป

รายงานข่าวระบุว่า การลงมติลับของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ได้ผลลัพธ์ออกมาในวันศุกร์ ยืนยันให้ แอลบาเนีย บราซิล กาบอง กานา และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้าร่วมเป็นสมาชิกโดยได้รับเสียงสนับสนุนถึง 2 ใน 3 จากสมาชิกทั้ง 15 ประเทศ โดยไม่มีเสียงคัดค้าน

ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลประเด็นสันติสุขและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีอาจส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปยังพื้นที่ที่มีปัญหาความขัดแย้ง รวมทั้งสั่งดำเนินการมาตรการลงโทษกลุ่มที่ทำผิดก่อปัญหาด้วย

ในส่วนของสมาชิกใหม่นั้น แต่ละประเทศจะนำประสบการณ์ของตน รวมทั้งมุมมอง และประเด็นผลประโยชน์ของชาติที่แตกต่างกันออกไปเข้ามายังคณะมนตรีฯ โดยอาจมีบทบาทผลักดันพลวัตในกลุ่มได้

ปัจจุบัน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกำลังวุ่นวายกับปัญหาหลายอย่างในพื้นที่ตะวันออกกลาง เช่น สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ และความขัดแย้งในลิเบีย ซีเรีย และเยเมน

ริชาร์ด โกวัน ผู้อำนวยการกลุ่มดูแลวิกฤตนานาชาติขององค์การสหประชาชาติ กล่าวว่า การที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกนั้น อาจเปิดโอกาสให้มีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นได้ เพราะประเทศนี้มีอิทธิพลอย่างมากทั้งในตะวันออกกลางและภูมิภาคที่เรียกกันว่าเป็น “จะงอยแอฟริกา” ขณะที่สมาชิกอื่นๆ ของคณะมนตรีหวังให้เอมิเรตส์ใช้อิทธิพลของตนเพื่อช่วยสร้างเสถียรภาพในประเทศต่างๆ เช่น ซูดานและเอธิโอเปีย เป็นต้น

โกวัน ยังเสริมด้วยว่า แอลบาเนีย คือประเทศที่ได้ “เห็นยูเอ็นล้มเหลวอย่างมากในภูมิภาคของตนในอดีต” เนื่องจาก องค์การสหประชาชาติไม่สามารถยังยั้งสงครามบอลข่านในช่วงต้นของคริสต์ทศวรรษที่ 1990 จนทำให้องค์การนาโต้สั่งทิ้งระเบิดในปี ค.ศ. 1995 และอีกครั้งในปี ค.ศ. 1999 ที่ชนพื้นเมืองแอลบาเนียในโคโซโซออกมาสู้รบกับชาวเซิร์บเพื่อหาอิสรภาพให้กับตน

ทั้งนี้ ลานา นุสเซย์เบห์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า การทำงานของคณะมนตรีนี้ไม่ได้จบลงด้วยการดำเนินการตามมติเท่านั้น และ “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรที่จะใช้เสียงของกลุ่มในการเสริมสร้างสภาพการดำเนินการที่เน้นหวังผลให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

ทั้งนี้ สมาชิกใหม่ทั้ง 5 ประเทศที่ได้รับเลือกเข้าร่วมคณะมนตรีในครั้งนี้ จะแทนที่ประเทศที่จะหมดสมาชิกภาพลงในสิ้นปีนี้ อันได้แก่ เอสโตเนีย ไนเจอร์ เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ ตูนิเซียและเวียดนาม และเข้าร่วมทำงานกับประเทศสมาชิกชั่วคราวอีก 5 ประเทศ ซึ่งก็คือ อินเดีย ไอร์แลนด์ เคนยา เม็กซิโก และนอร์เวย์ และประเทศสมาชิกถาวรทั้ง 5 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย และสหรัฐฯ