หากคุณต้องผ่าตัด 25 ครั้ง ทำกายภาพบำบัดอย่างหนักนานกว่า 1 ปี เพื่อกลับมาล่าความฝันอีกครั้ง คุณจะยอมแลกหรือไม่?
นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของ ฮวน มานูเอล คอร์เรอา นักแข่งรถชาว สหรัฐอเมริกา-เอกวาดอร์ ผู้ประสบอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ในปี 2019 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนตัวเขานอนโคมาอยู่เกือบเดือน ผ่านช่วงเวลาที่เฉียดความตายแค่เอื้อม
อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยยอมแพ้ต่อความฝัน ที่จะกลับมาเป็นนักแข่งอีกครั้ง แม้ต้องผ่านการผ่าตัดมากมาย และการรักษาตัวเองที่เหมือนไม่มีวันจบสิ้น เขาสามารถกลับมาเป็นนักแข่ง ได้ขับรถซิ่งล่าความฝันของตัวเองอีกครั้ง
วันแห่งฝันร้าย
31 สิงหาคม 2019 ท่ามกลางแสงแดดที่สดใส จากเมืองสตาเวล็อต ประเทศเบลเยียม คือวันที่ดีสำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ต ที่เดินทางเข้าสู่สนาม เซอร์กิต เดอ สปา-ฟรองโกชองส์ หรือ เดอะ สปา สนามแข่งขันรถชื่อดัง เพื่อเข้าชมการแข่งขันรอบแรก (Feature Race) ของ F2 รายการซัพพอร์ตของ F1 ในสนามที่ 9 ของฤดูกาล
ด้วยสภาพอากาศที่ไร้ฝน แฟนทุกคนที่อยู่ในสนามคาดหวังที่จะได้เห็นการแข่งขันสุดเดือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ นิค เดอ วรีส์ นักแข่งชาวดัตช์ และ เซร์จิโอ เซตเต คามารา จอมซิ่งจากบราซิล สองคู่แข่งชิงแชมป์ในปีดังกล่าว ควอลิฟายในรอบคัดเลือก ด้วยอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม จากวันดี ๆ สำหรับทุกคนที่รักในกีฬานี้ กลับกลายเป็นฝันร้ายเพียงเมื่อการแข่งขันผ่านไปเพียงแค่ 2 รอบ เท่านั้น
เนื่องจากรถของ จูเลียโน อเลซี นักแข่งสัญชาติฝรั่งเศสที่กำลังอยู่ในอันดับ 10 ของการแข่งขันเกิดเสียการควบคุมหมุนอยู่กลางแทร็ค ขณะไต่ขึ้นโค้ง เรดิยง อันเป็นช่วงที่รถต้องใช้ความเร็วสูง ขึ้นเนินสู่ทางตรงยาวของสนาม
นักขับ 3 คนที่ตามมาอย่างรวดเร็วภายในเสี้ยววินาที นั่นคือ ราล์ฟ เบอชง, จอร์แดน คิง และ อองตวน ฮูแบร์ ต้องรีบบังขับรถ หักรถอย่างกระทันหัน เพื่อไม่ให้รถของตัวเองไปชนเข้ากับรถของอเลซี
รถของ เบอชง และ คิง สามารถหลบไปได้ แต่ฮูแบร์ นักแข่งชาวฝรั่งเศสไม่ได้โชคดีแบบนั้น เขาถูกเบียดจนไปชนกำแพงยางเข้าอย่างจัง รถของเขาเสียหลักเด้งกลับมาในสนามอีกครั้ง
ภายในเสี้ยววินาทีนั้นเอง รถของ ฮวน มานูเอล คอร์เรอา นักขับสัญชาติอเมริกัน พุ่งเข้ามาชนที่กลางลำรถของฮูแบร์อย่างเต็มแรง จนขาดเป็นสองท่อน ขณะที่รถของคอร์เรอาก็พลิกหลายตลบหลังจากการปะทะ
เหตุการณ์ทั้งหมด เกิดและจบลง ภายในเวลาแค่ 6 วินาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตามนี่คืออุบัติเหตุที่ใครได้เห็นภาพคงต้องสะเทือนใจเป็นแน่ เพราะด้วยการชนที่รุนแรง บวกกับความเร็วของรถที่นักแข่งขับขี่ คงสามารถรู้ได้ทันทีว่า ทั้ง อองตวน ฮูแบร์ รวมถึง ฮวน มานูเอล คอร์เรอา จะต้องได้รับบาดเจ็บหนักอย่างแน่นอน
มีการเปิดเผยในภายหลังว่า รถของฮูแบร์ถูกรถของคอร์เรอาชนด้วยความเร็ว 257 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นักแข่งทั้งสองรายถูกรีบส่งตัวไปหามือแพทย์อย่างเร็วที่สุด ขณะที่การแข่งขันในสนามที่ 9 ของ F2 ฤดูกาล 2019 ถูกยกเลิกในทันที
น่าเศร้าที่ ฮูแบร์ เสียชีวิตหลังจากอุบัติเหตุเกิดขึ้นเพียง 83 นาที (การเสียชีวิตของเขา ทำให้ F2 ยกเลิกเบอร์ 19 ที่เจ้าตัวใช้อยู่ในขณะนั้นเป็นการไว้อาลัย โดยจะไม่มีรถคันไหนบนกริดใช้เบอร์นี้อีก) ขณะที่ คอร์เรอา ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักบริเวณขา, ปอด และ กระดูกสันหลัง รวมถึงหมดสติยาวนานกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งหมายถึงนักแข่งรายนี้ เข้าสู่อาการโคมา
หลังจากนั้นเพียง 4 วัน ด้วยความเสียหายของปอด ทำให้คอร์เรอาเกิดอาการ สภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน ชีวิตของเขาเผชิญหน้า ความเป็นและตายของเขาเท่ากัน
การกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง
20 วัน คือช่วงเวลาที่ คอร์เรอา นอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่โรงพยาบาล ก่อนที่เขาจะได้สติพ้นจากอาการโคมา ในวันที่ 20 กันยายน ซึ่งเป็นข่าวดีของทุกคนที่รักในกีฬานี้ เพราะไม่ต้องสูญเสียนักแข่งไปจากอุบัติเหตุอันน่าเศร้าครั้งนี้อีกคน
อย่างไรก็ตาม ทันที่ที่ได้สติ คอร์เรอาต้องเข้ารับการผ่าตัดขาขวาทันที เพื่อรักษาขาข้างนี้เอาไว้ ซึ่งเป็นการชี้เป็นชี้ตายครั้งสำคัญ กับอนาคตของนักแข่งรายนี้ ว่าจะมีโอกาสหวนคืนสู่สนามแข่งขันหรือไม่
การผ่าตัดดำเนินยาวนานมากกว่า 10 ชั่วโมง โชคดีที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างสวยงาม คอร์เรอายังอยู่ในเส้นทางของการกลับมาเป็นนักขับจอมซิ่งอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ปอดของเขาก็มีอาการที่ดีมากขึ้น หลังจากช่วงแรกที่เกิดอุบัติเหตุ
หลังจากช่วงเวลาที่เลวร้ายยาวนานกว่า 1 เดือน ร่างกายของคอร์เรอาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งบริเวณปอด และ ขา จนทำให้เขาได้กลับมาปรากฎตัวอีกครั้ง ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ด้วยการอัดคลิปทักทายทุกคนว่า เขาสบายดี และพร้อมที่จะกลับมาแข่งขันอีกครั้งในอนาคต
“สวัสดีครับ ผมกลับมาแล้ว หลังจากช่วงเวลาที่ยากลำบาก เป็นเวลา 5 สัปดาห์ จากอุบัติเหตุครั้งนั้น ผมไม่เคยพูดเรื่องนี้ออกสื่อ แต่ผมต้องการบอกว่า ผมขอแสดงความเสียใจ กับครอบครัวของฮูแบร์”
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความตกใจให้กับทุกคน เพราะพวกเราล้วนไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น ผมดีใจที่ผมยังได้อยู่ที่นี่ตอนนี้ หลังจากนี้จะเป็นเส้นทางที่ยาวไกล กับการฟื้นฟูร่างกายของผม”
“ผมไม่แน่ใจว่า ผมจะกลับมามีร่างกายเต็มร้อย เหมือนคนปกติได้หรือไม่ แต่ผมดีใจจริง ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ และมีคนที่รักคอยอยู่เคียงข้าง ขอบคุณทุกคนที่มอบความรักให้กับผม” คอร์เรอา กล่าวผ่านไอจีส่วนตัว
ดังที่ คอร์เรอา กล่าวไว้ เขาต้องเดินทางอีกยาวไกล กับการรักษาตัวเอง เพราะกระดูกบริเวณ ขา และ เท้า ของเขา มีการแตกหักรวมกันถึง 20 จุด และอาการสามารถแย่ลงได้ทุกเมื่อ ซึ่งหมายถึง คอร์เรอา อาจจะเสียขาของเขาเมื่อไหร่ก็ได้
คอร์เรอา ต้องเข้ารับการผ่าตัดบริเวณขาขวาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจจริง ๆ ว่า นักแข่งชาวสหรัฐฯ จะกลับมาเดินได้อีกครั้ง ด้วยขาของตนเองทั้งสองข้าง เพราะหลังจากอุบัติเหตุเกิดขึ้นมาหลายเดือน เขายังคงไม่สามารถขยับขาด้านขวาของตัวเองได้
“มันเจ็บปวดมากนะ ผมรู้สึกถึงความเจ็บปวดในขาของผมตลอดเวลา ถ้าคุณบอกผมว่า ผมจะเสียขาของตัวเองไป ผมเชื่อนะ มันเจ็บปวดมาก และผมทำอะไรกับขาของผมไม่ได้เลย”
อย่างไรก็ตาม คอร์เรอาไม่เคยยอมแพ้ให้กับความเจ็บปวด เขาผ่านการผ่าตัดหลายครั้ง และทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตัวเองกลับมาเดินได้อีกครั้ง
วันที่ 22 เมษายน 2020 หรือ เกือบ 8 เดือนหลังจากเกิดอุบัติเหตุ คอร์เรอาสามารถกลับมาเดินได้เป็นครั้งแรก ด้วยขาของตนเองทั้งสองข้าง โดยไม่ต้องใช้ไม้เท้า หรือเครื่องช่วยพยุงใด ๆ
การเดินหน้าเพียง 2-3 ก้าวในครั้งนี้ เป็นเหมือนก้าวที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนักขับชาวอเมริกัน ที่ปลุกเขาออกจากฝันร้าย และทำให้มีความหวังที่จะกลับไปขับรถความเร็วสูง หวนคืนสู่สิ่งที่เขารัก
พุ่งไปข้างหน้าอย่างสุดกำลัง
หลังจากต้องผ่าตัดรวม 25 ครั้ง และใส่เฝือกขาช่วยเดินนานกว่า 1 ปี ร่างกายของคอร์เรอาสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อย ๆ ช่วงเดือนธันวาคม เขาสามารถถอดเฝือกที่ดามขามาอย่างยาวนาน กลับมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อีกครั้ง เช่น ว่ายน้ำ และขับรถด้วยตัวเอง
หลังจากนั้นไม่นาน คอร์เรอาได้อัพโหลด รูป และคลิป ที่ตัวเขาไปขับรถ ATV คันใหญ่บนภูเขา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ร่างกายของคอร์เรอากลับมาสมบูรณ์อย่างถึงที่สุด และพร้อมจะหวนคืนสู่สนามแข่งขันอีกครั้ง
1 กุมภาพันธ์ 2021 คือวันที่สวยงามของวงการมอเตอร์สปอร์ต หลังมีการประกาศว่า นักแข่งสัญชาติอเมริกัน จะกลับมาแข่งขันอีกครั้ง ร่วมกับทีม ART Grand Prix แม้จะลดระดับลงไปแข่งในระดับ F3 ก็ตาม
“สาเหตุที่ผมตัดสินใจลงมาแข่ง F3 อย่างแรก ฤดูกาลมันสั้นกว่า เปิดสนามช้ากว่า และจบซีซั่นเร็วกว่า F2 ทำให้ยังมีช่วงเวลาที่เผื่อไว้ได้ หากต้องมีกระบวนการรักษาใด ๆ เกิดขึ้นอีกในอนาคต อีกอย่างคือ การจะได้ที่นั่งของทีมใน F2 สำหรับผมตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้”
“ผมดีใจเป็นอย่างมาก ที่สามารถผ่านเรื่องราวเลวร้ายทั้งหมดมาได้ ผมขอบคุณ ART Grand Prix ที่เชื่อมั่นในตัวผมว่าจะกลับมาได้ นี่คือก้าวแรกในการกลับมาของผม”
“F1 ยังคงเป็นเป้าหมายของผม และผมจะทำให้ดีที่สุด แน่นอนว่าผมไม่ได้ขับรถมาประมาณปีครึ่ง ผมมีหลายสิ่งที่ต้องทำ แต่นี่คือสิ่งที่ผมรัก และจะคว้าชัยชนะมาให้ได้” คอร์เรอา กล่าวถึงความรู้สึกกับการได้กลับมาเป็นนักแข่งอีกครั้ง
แม้ว่าจนถึงตอนนี้ คอร์เรอา จะยังไม่ได้กลับไปแข่งขันอย่างเป็นทางการ เราไม่สามารถรู้ได้ว่า นักขับรายนี้จะทำผลงานได้ดีหรือไม่
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คอร์เรอาสามารถผ่านฝันร้ายของเขามาได้อย่างสมบูรณ์ เขาใช้ชีวิตทุกวันด้วยรอยยิ้ม และความสุข ไม่ว่าในอนาคต เขาจะประสบความสำเร็จ ในฐานะนักแข่ง และก้าวไปอยู่ใน F1 ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่
เพราะแค่การที่เขาได้กลับมา ทำในสิ่งที่รักอีกครั้ง ถือเป็นความสำเร็จที่มีความหมาย และยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับคอร์เรอา เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถกลับมาจากอุบัติเหตุที่เลวร้าย ผ่านการผ่าตัด 25 ครั้ง และต้องอยู่ในสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ แต่ไม่เคยยอมแพ้ กลับมาเดินตามเส้นทางฝันได้อีกครั้ง
“การได้ประกาศว่า จะกลับมาแข่งขันอีกครั้ง คือหนึ่งในความภูมิใจที่สุดของผม” ประโยคนี้จากปากของคอร์เรอา คงเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนที่สุดว่า การได้กลับไปอยู่ในรถแข่งที่เขารัก คือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน สำหรับผู้ชายคนนี้