ขอนแก่น สั่งคุมเข้มร้านอาหาร ขายเหล้าได้ถึง3ทุ่ม หลังพบยอดโควิด ยังพุ่งสูงต่อเนื่อง

Home » ขอนแก่น สั่งคุมเข้มร้านอาหาร ขายเหล้าได้ถึง3ทุ่ม หลังพบยอดโควิด ยังพุ่งสูงต่อเนื่อง


ขอนแก่น สั่งคุมเข้มร้านอาหาร ขายเหล้าได้ถึง3ทุ่ม หลังพบยอดโควิด ยังพุ่งสูงต่อเนื่อง

ขอนแก่น สั่งคุมเข้มร้านอาหาร ขายเหล้าได้ถึง3ทุ่ม หลังพบยอดโควิด ยังพุ่งสูงต่อเนื่อง พบติดเชื้อรายใหม่อีก 359 คน เป็นบุคคลากรทางการแพทย์ 21 คน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 เม.ย.2565 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ยังคงมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 359 คน และยังเป็นบุคลากรทางการแพทย์ 21 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย.2564 เป็นต้นมารวม 74,244 คน รักษาหายแล้ว 50,011 คน อยู่ระหว่างการรักษา 24,013 คน เสียชีวิตสะสม 190 คน

ซึ่งทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยมติที่ประชุมล่าสุดทางคณะกรรมการฯได้มีมติให้คงประกาศจังหวัดฉบับที่ 67 มีผลถึงวันที่ 31 พ.ค.2565 โดยในประกาศนั้นบังคับใช้ทั้ง 26 อำเภอของจังหวัดขอนแก่น

“แม้ว่าทาง ศบค.ส่วนกลางได้มีการประกาศคลายคล็อคให้สามารถทำกิจกรรมทางสังคมได้กว้างขึ้นและสามารถจำหน่ายสุราได้ถึง 23.00 น. แต่จากสถานการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทางคณะกรรมการฯจึงได้ร่วมกันประเมินสถานการณ์แล้วยังคงใช้ประกาศจังหวัดเดิมต่อไปอีก โดยร้านอาหารจะยังคงจำหน่ายสุราได้ถึง 21.00 น. รวมกลุ่มคนทำกิจกรรมได้ไม่เกิน 600 คน

สถานบริการประเภทสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อาบอบนวด หรือสถานที่มีลักษณะคล้ายกันให้ปิดบริการไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะมีการสุ่มตรวจสอบอย่างต่อเนื่องให้มีการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ซึ่งจะใช้วิธีว่ากล่าวตักเตือนหากครั้งต่อไปไม่ปฎิบัติตามก็จะดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่ละเว้น

หากผู้ใดฝ่าฝืนประกาศจังหวัดจะมีความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พรก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตาม พรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำการปฏิบัติงานนอกสถานที่ (WFH)ในหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนอย่างเต็มขีดความสามารถ โดยจะต้องไม่กระทบต่อการให้บริการแก่ประชาชน ส่วนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้น เข็ม 3 ในเด็กนักเรียน อายุ 12-17 ปี จะต้องแล้วเสร็จก่อนเปิดเทอม และมอบหมายศึกษาธิการจังหวัดจัดเตรียมรายชื่อนักเรียน ส่งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพื่อจัดสรรวัคซีนและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนัดฉีดวัคซีนต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ