ลูกถูกถาม “รักยายหรือย่ามากกว่ากัน?” แม่สอนตอบแบบนี้ เอาใจทั้งสองฝ่าย หลายบ้านฟังแล้วชมฉลาดมากๆ ขอจำไปใช้!
มีเรื่องราวจากคุณแม่ในต่างประเทศที่ถูกแชร์ต่อจำนวนมาก ไม่กี่วันก่อนเป็นวันเกิดปีที่ 10 ของลูกสาว ในฐานะคนที่อายุน้อยสุดในครอบครัว เธอได้รับการเอาใจใส่ราวกับเจ้าหญิงจากทุกคน มีญาติพี่น้องหลายมาร่วมแสดงความยินดีในงานฉลองวันนั้น จู่ๆ คนหนึ่งได้ถามลูกสาวของเธอว่า “รักคุณยายหรือคุณย่ามากกว่ากัน?” ซึ่งเด็กดูสับสนกับคำถามนี้ทันที
เย็นวันนั้น ผู้เป็นแม่จึงตักสินใจคุยกับลูกสาว และแสดงให้เธอเห็นถึงวิธีตอบสนอง เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน หลังจากนั้นได้แชร์เรื่องราวนี้บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก และได้รับคำชมจากผู้ปกครองคนอื่นๆ มากมาย โดยแม่ผู้นี้ให้คำตอบที่เฉียบแหลมอย่างยิ่ง 3 ข้อดังนี้
รักทั้งสองคน
ผู้เป็นแม่กล่าวว่า ลูกสาวของเธอสามารถยืนยันได้ว่าเธอรักผู้หญิงทั้งสองอย่างเท่าเทียมกัน เมื่อให้ความรู้แก่ลูกสาว พ่อแม่ต้องทำให้ชัดเจนเพื่อที่พวกเขาจะเข้าใจว่าคนรอบข้างรักพวกเขา แต่แต่ละคนก็จะมีวิธีแสดงความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป
บางครั้งคุณย่าให้ความสำคัญมาก ใส่ใจกับอารมณ์ที่เล็กน้อยที่สุด และสามารถตอบปัญหาบางอย่างได้ทันที ในขณะที่วิธีแสดงความรักของคุณยายอาจจะเข้มงวดกว่า อย่างไรก็ตาม ความเข้มงวดนี้มีคุณค่าเชิงบวก ช่วยให้กลายเป็นคนที่มีความเป็นอิสระและเข้มแข็งได้ในอนาคต
ดังนั้นสิ่งที่พ่อแม่ต้องทำคือการสื่อสารเพื่อให้ลูกเข้าใจว่า แต่ละคนแสดงความรู้สึกที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนล้วนต้องการให้ลูกหลานของตนดีขึ้นในอนาคต
เปลี่ยนหัวข้อสนทนา
เด็กอายุตั้งแต่ 6 ขวบ มีความสามารถในการคิดอย่างอิสระ เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ เด็กหลายคนไม่ชอบตอบคำถามแบบนี้ เพราะคำตอบของพวกเขาคือเลือกระหว่างคุณย่าหรือคุณยาน แลพรืดว่าสามารถทำให้ผู้ใหญ่รู้สึกอึดอัดได้ มันอาจนำไปสู่ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ไม่ดีได้
เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ พ่อแม่ควรแสดงให้ลูกเห็นถึงวิธีเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เมื่อพวกเขาไม่ต้องการให้คำตอบที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น เด็กสามารถเปลี่ยนเรื่องให้ผู้ใหญ่ให้ทำสิ่งอื่น หรือเปลี่ยนไปพูดคุยเกี่ยวกับอาหารที่พวกเขาอยากกินในขณะนั้น สถานการณ์นี้สามารถพูดถึงเรื่องราวใดก็ได้เพื่อให้ผู้ใหญ่ลืมคำถามเดิม
ถามคำถามเชิงวาทศิลป์
เมื่อไม่สามารถหลีกเลี่ยงคำถามประเภทนี้ได้ ผู้เป็นแม่จึงแนะนำให้ลูกสาวของเธอ “ถามกลับผู้ใหญ่” เช่น ทายสิว่าหนูชอบใครมากกว่ากัน? วิธีโต้ตอบกับผู้ใหญ่แบบนี้สามารถช่วยให้เด็กๆ ไม่ต้องตอบคำถามที่เฉพาะเจาะจง และในขณะเดียวกันก็ช่วยเปลี่ยนเรื่องสนทนาด้วย
ทั้งนี้ โดยทั่วไปแล้ว พฤติกรรมของเด็กๆ จะแสดง EQ สูงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ปกครองเป็นส่วนใหญ่ การเดินทางของการเลี้ยงดูลูกและช่วยให้เด็กๆ พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ไม่เพียงแต่เป็นงานที่สำคัญ แต่ยังเป็นความท้าทายสำหรับผู้ปกครองด้วย
และโดยทั่วไปแล้ว EQ ของเด็กสามารถพัฒนาได้ สิ่งที่พ่อแม่ต้องทำคือให้ความรู้แก่ลูกอย่างอดทนในสถานการณ์เฉพาะ บนเส้นทางแห่งการพัฒนา ปล่อยให้ความฉลาดทางอารมณ์ช่วยให้ลูกของคุณเปิดประตูสู่โลกอย่างกล้าหาญ
- เด็กอายุแค่ 4 ขวบ เป็นมะเร็งกระเพาะ รู้ต้นเหตุทำยายทรุด ที่แท้คือสิ่งที่ให้หลานกินทุกวัน
- แทบทรุด ฝากแม่เลี้ยงลูก 1 เดือน อ้วนขึ้น 10 กก. ขยี้ตาจำไม่ได้ รู้ว่าให้กินอะไรยิ่งเคือง!