วงจรปิดจับภาพ 2 คนร้าย แอบดูดน้ำมันจยย. ที่จอดในป่าช้าเก่า จู่ๆเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง ตกใจสุดขีด วิ่งหนีไม่คิดชีวิต ก่อนที่จะโดดซ้อนท้ายจยย.หนีไป
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ น.ส.เพ็ญประภา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี พนักงานของบริษัทเคเบิ้ลทีวี เจ้าของรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีแดง หมายเลขทะเบียน ลฉย199 กทม. คันที่ปรากฏในภาพวงจรปิด ก่อนพาผู้สื่อข่าวตรวจสอบร่องรอยที่รถจักรยานยนต์ เปิดภาพกล้องวงจรปิด ที่มีคนร้าย 2 คนมาขโมยน้ำมัน พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า
ตนพักอยู่ ที่บริษัท จอดรถจักรยานยนต์ไว้ที่ด้านหลังของบริษัทเป็นประจำ ช่วงเช้าวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ลงมาที่จอดรถจักรยานยนต์ ตกใจเห็นรถจักรยานยนต์ของตนเองอยู่ในลักษณะเบาะท้ายเปิดอยู่ ตนจึงเชื่อว่าถูกคนร้ายมาขโมยมาดูดน้ำมัน หรือขโมยแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ไปอีกแล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้นก็เคยถูกขโมยมาในลักษณะแบบนี้มาแล้ว 4 ครั้ง จากการตรวจสอบแล้วคนร้ายไม่ได้อะไรไป จึงไปเปิดดูกล้องวงจรปิดดู
น.ส.เพ็ญประภา กล่าวต่อว่า พบว่ามีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอด จากนั้นคนซ้อนท้ายมีไฟฉายแบบติดที่หน้าผาก มือถือแกลลอนน้ำมัน เดินตรงเข้ามาใช้อุปกรณ์งัดเบาะรถจักรยานยนต์ เพื่อที่จะขโมยน้ำมัน จังหวะนั้นเหมือนคนร้ายเกิดอาการผวาและตกใจ เมื่อเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง จึงวิ่งหนีโดยไม่คิดชีวิต
วิ่งแซงรถจักรยานของเพื่อนที่มาด้วยกันไป เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเห็นอะไรบางอย่าง เพราะตนสอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงแล้ว ไม่มีใครลงมาทำอะไรด้านล่าง หรือใกล้เคียงที่เกิดเหตุเลย ภายหลังเกิดเหตุตนนำคลิปภาพกล้องวงจรปิด เตือนภัยให้ระมัดระวังในกลุ่มคนร้ายรายนี้ พร้อมทั้งล่าเรื่องราวชวนพิศวง
สอบถาม นายศราวุธ อายุ 52 ปี พนักงานที่อยู่ภายในบริษัทเคเบิ้ลทีวี เล่าให้ฟังว่า ตนก็เคยถูกคนร้าย มาลักขโมยดูดน้ำมันไปเช่นกัน แต่ส่วนที่ไปเปิดดูกล้องวงจรปิดที่เห็นภาพคนร้ายผวาเหมือนเจออะไรบางอย่าง ส่วนตัวตนเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเจอสิ่งลี้ลับและสิ่งที่มองไม่เห็น เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหลักวัด ทราบจากคำบอกเล่าว่า บริเวณนี้เป็นป่าช้าเก่า เคยนำเศษชิ้นส่วนของโรงศพมาทิ้งไว้บริเวณดังกล่าว เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเจอดี และพากันวิ่งหนีไป
