พ่อค้าแม่ค้ายืนยัน เฮี้ยนจัดเฮี้ยนจริง ถึงขนาดน้ำแดงที่เอามาถวาย “ผีแย่งกันกิน” เกิดเป็นตำนานกล่าวขาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใต้ต้นยางผูกติด 3 ต้นรวมกัน ริมถนนบ้านฉาง-พลา เคยให้โชคถูกหวยกันมานักต่อนัก ที่เฮี้ยนสุดคือถวายน้ำแดงทีไร แย่งกันดูดซู่ซ่าซู่ซ่า

วันที่ 8 มกราคม 2567 เวลา 15.30 น ที่ริมถนน สายบ้านฉาง-พลา ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง มีเรื่องราวความเฮี้ยน จนมีผู้คนถูกโชคลาภกับเจ้าแม่-เจ้าพ่อต้นยาง สูงกว่า 20 เมตร ขนาดความกว้างโดยประมาณ 6-10 คน โอบรอบโคนต้น คาดว่ามีอายุมากกว่า 100 ปี

นายอานนท์ สามเอื้อย อายุ 63 ปี เจ้าของร้านค้าขายผลไม้ที่อยู่ใต้ต้นยาง เล่าว่า ต้นยางแห่งนี้อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี อยู่ตั้งแต่ถนนยังเป็นดินลูกรัง มีศาลตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ แต่ด้วยระยะเวลาที่อยู่มานาน ศาลได้พุพังไปตามกาลเวลา จนมีตากับยายถูกหวยเป็นจำนวนมากเมื่อหลายสิบปี ได้มาเทปูนเอาไว้ที่ใต้ต้นยาง

แล้วคนที่ได้โชคลาภตามที่หวัง ต่างก็เอาของมาถวาย เช่น ตุ๊กตาต่างๆ รวมถึงพระพุทธรูปที่แตกหัก ไปจนถึง หม้อแม่นาคพระโขนงก็มี จนเกิดเป็นภาพแห่งความเฮี้ยนความหลอนของบรรดาชาวสายมูที่อดขนหัวลุกไปตามๆ กันไม่ได้

และจากที่ต้นยางแห่งนี้มีคนมาขอหวยและถูกหวยอยู่เรื่อยๆ จนเป็นที่กล่าวขาน ได้เกิดเสียงร่ำลือถึงความเฮี้ยนของดวงวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ ณ บริเวณจุดนี้ ว่าเมื่อเวลานำน้ำแดงมาถวาย ให้สังเกตน้ำแดงจะฟู่ขึ้นหลอดฟู่ฟ่ากันอยู่พักหนึ่ง จนดูเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์แย่งกันดูด

ทางด้าน นางแสง สามเอื้อมอายุ 60 ปี ภรรยาของนายอานนท์ เล่าว่า ตนมาขายผลไม้ที่ใต้ต้นยางแห่งนี้ ก็จะนำน้ำนำขนมมาถวายตลอด ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ใต้ต้นไม้นี้ช่วยให้ขายดี มันเป็นความเชื่อของตนที่ไม่อยากหลบหลู่สิ่งที่มองไม่เห็น

ขณะที่ นายบีม สามเอื้อม อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นบุตรชาย เล่าว่า ตนมาช่วยพ่อและแม่ขายของอยู่ใต้ต้นยางแห่งนี้ประจำ และได้ขอหวยกับต้นยางแห่งนี้ ก็ถูกหวยบ่อย ถูกแต่ละครั้งก็เป็นหลักหมื่น ตนจึงเชื่อสนิทใจว่าวิญญาณที่ได้สิงสถิตอยู่ใต้ต้นไม้แห่งนี้ให้โชค ทั้งได้ลาภลอยและทำมาค้าขายดี

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องราวความเชื่อของแต่ละบุคคล